พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของคู่สัญญาแม้ใช้เงินผู้อื่นซื้อ และการถอนฟ้องที่ไม่ต้องแจ้งคู่ความอื่น
ผู้ซื้อเอาเงินของผู้อื่นมาซื้อตึกจากผู้ขาย ผู้ซื้อย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องผู้ขายในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาจะซื้อขายนั้นได้
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมขายตึกระหว่างจำเลยที่ 1-2กับจำเลยที่ 3 และให้โอนตึกพิพาทให้แก่โจทก์ ถ้าโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ก็ขอให้จำเลยใช้เงินมัดจำคืน เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 เสีย และขอถอนคำขอท้ายฟ้องเรื่องที่จะขอให้ทำลายนิติกรรม การซื้อขายและคำขอให้โอนตึกเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้จำเลยที่ 1-2 ทราบเพราะจำเลยที่ 1-2 ต้องรับผิดในเรื่องคืนเงินมัดจำและดอกเบี้ยเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมขายตึกระหว่างจำเลยที่ 1-2กับจำเลยที่ 3 และให้โอนตึกพิพาทให้แก่โจทก์ ถ้าโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ก็ขอให้จำเลยใช้เงินมัดจำคืน เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 เสีย และขอถอนคำขอท้ายฟ้องเรื่องที่จะขอให้ทำลายนิติกรรม การซื้อขายและคำขอให้โอนตึกเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้จำเลยที่ 1-2 ทราบเพราะจำเลยที่ 1-2 ต้องรับผิดในเรื่องคืนเงินมัดจำและดอกเบี้ยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ใช่ผู้ขาย/สั่งของ แม้เปิดเครดิต/จัดหาตัวแทนตรวจของ การฟ้องผิดสัญญาต้องระบุหน้าที่จำเลยชัดเจน
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคาร รับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทน ดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้อง ศาบไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้อง ศาบไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ใช่ผู้ขายหรือสั่งของ แม้เปิดเครดิตและจัดหาตัวแทนตรวจของ ศาลไม่รับวินิจฉัยเรื่องนอกฟ้อง
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคารรับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทนดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้องศาลไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้องศาลไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขาย: สิทธิของผู้ซื้อยังไม่เกิดจนกว่าจะโอนทรัพย์ ผู้ซื้อจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืนหรือห้ามเกี่ยวข้องกับทรัพย์
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและบ้านเรือนกัน ผู้ขายมอบที่ดินและบ้านเรือนให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อน จนกว่าจะได้ไปโอนกันภายหลังนั้น ผู้ซื้อยังไม่มีสิทธิในทรัพย์ที่จะซื้อขายกันนั้น ผู้ซื้อเพียงมีสิทธิตามสัญญาจะซื้อขาย อันเป็นสิทธิเหนือบุคคลผู้เป็นคู่สัญญาและทายาทของเขา ฉะนั้นเมื่อมีคนเข้ามารื้อเรือนเอาไป และร้องขอให้อำเภอขายที่ดินนั้นโดยอ้างว่า เขาเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้าของที่ดินนั้น ผู้ซื้อจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องให้เขาคืนทรัพย์หรือ ห้ามมิให้เขาเกี่ยวข้องกับทรัพย์รายพิพาทนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายรถยนต์ ผู้ขายมีหน้าที่รับรองการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อให้ผู้ซื้อจดทะเบียนได้
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อซื้อขายกันอย่างรถยนต์ในสภาพที่ใช้เดินได้ไม่ใช่เศษเหล็กแล้ว นอกจากผู้ขายจะต้องส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้วผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่ผู้ซื้อแม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ์ดังเช่นโฉนดแผนที่และการโอนกรรมสิทธิ์ในรถไม่ได้อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดีแต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายรถยนต์ ผู้ขายมีหน้าที่รับรองการโอนกรรมสิทธิเพื่อให้ผู้ซื้อจดทะเบียนได้ แม้การจดทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อซื้อขายกันอย่างในสภาพที่ใช้เดินได้. รถยนต์ไม่ใช่เศษเหล็กแล้ว นอกจากผู้ขายจะต้อง
ส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิรถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่
ผู้ซื้อ แม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิดังเช่นโฉนดแผนที่ และการโอนกรรมสิทธในรถไม่ได้
อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดี แต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น./
ส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิรถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่
ผู้ซื้อ แม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิดังเช่นโฉนดแผนที่ และการโอนกรรมสิทธในรถไม่ได้
อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดี แต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ไร้ผลผูกพันและการฟ้องเรียกคืนทรัพย์สิน โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผัน ปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่า ๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ ผู้ขายฟ้องเรียกคืนโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ศาลยกฟ้อง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปีก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผันปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่าๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้และที่ดินเป็นประกัน ชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินตามราคาที่ตกลง
จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ 250 บาท โดยมอบที่ดินบ้านให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันและมีเงื่อนไขว่า จะชำระเงินกู้ภายในกำหนด 15 วันถ้าพ้นกำหนด 15 วัน ที่ดินรายนี้คิดเป็นราคาที่ดิน 250 บาทต้องได้กับโจทก์ ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ต้องให้ที่ดินรายนี้แก่โจทก์เพราะได้กำหนดที่ดินโดยกำหนดราคาลงแน่นอนเป็นการชำระหนี้แทนตัวเงินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 656 วรรค 2 โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินนั้นแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินแทนเงิน: สัญญาให้ยึดที่ดินเป็นประกันเมื่อผิดนัด
จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ 250 บาท โดยมอบที่ดินบ้านให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันและมีเงื่อนไขว่า จะชำระเงินกู้ภายในกำหนด 15 วันถ้าพ้นกำหนด 15 วัน ที่ดินรายนี้คิดเป็นราคาที่ดิน 250 บาทต้องได้กับโจทก์ ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ต้องให้ที่ดินรายนี้แก่โจทก์ เพราะได้กำหนดที่ดินโดยกำหนดราคาลงแน่นอนเป็นการชำระหนี้แทนตัวเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินนั้นแก่โจทก์ได้