คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 453

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายและการบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์เมื่อรับเงินค่าตึกและที่ดินครบถ้วนแล้ว
ฟ้องว่า จำเลยขายตึกและที่ดินให้โจทก์ราคาสามพันบาท จำเลยรับเงินสามพันบาทค่าตึกกับที่ดินไปแล้ว จำเลยมอบตึกและที่ดินให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยสัญญาว่า จะไปโอนทางทะเบียน แต่ต่อมากลับอาไปขายแก่คนอื่น จึงขอให้บังคับจำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ ดังนี้ ย่อมถือว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสัญยาจะขายตึกกับที่ดินให้โจทก์ โดยจำเลยรับเงินค่าตึกและที่ดินไปแล้ว จะถือว่าเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขาย กับ สัญญาซื้อขาย: การรับเงินค่าตึก/ที่ดินยังไม่ถือเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ฟ้องว่า จำเลยขายตึกและที่ดินให้โจทก์ราคาสามพันบาทจำเลยรับเงินสามพันบาทค่าตึกกับที่ดินไปแล้ว จำเลยมอบตึกและที่ดินให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยสัญญาว่า จะไปโอนทางทะเบียน แต่ต่อมากลับเอาไปขายแก่คนอื่นจึงขอให้บังคับจำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ ดังนี้ย่อมถือว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสัญญาจะขายตึกกับที่ดินให้โจทก์โดยจำเลยรับเงินค่าตึกและที่ดินไปแล้ว จะถือว่าเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงมีผลผูกพัน
การที่มารดาเอาที่ดินของบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้อื่นนั้นเป็นสัญญาซึ่งตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(1) เป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าจะผูกพันเด็กได้ก็ต่อเมื่อศาลได้อนุญาตให้ขายตามสัญญานั้นแล้ว (อ้างฎีกาที่ 462/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงมีผลผูกพัน
การที่มารดาเอาที่ดินของบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้อื่นนั้นเป็นสัญญาซึ่งตายนัยแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1546(1) เป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าจะผูกพันเด็กได้ก็ต่อเมื่อศาลได้อนุญาตให้ขายตามสัญญานั้นแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 462/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่าประเภทบ้านสวนต้องครอบครอง 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์
สำหรับที่ดินมือเปล่าที่มีสภาพเป็นที่บ้านที่สวนนั้น จำเลยจะยกการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้ได้ ก็ต่อเมื่อได้ครอบครองถึง 10 ปีแล้ว ถ้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์
ทำหนังสือว่ายกที่ดินให้จำเลย แต่มีความต่อไปว่าจำเลยให้เงินตอบแทน 800 บาท ดังนี้เป็นการซื้อขายไม่ใช่พินัยกรรม์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า: ระยะเวลาที่แตกต่างกันระหว่างที่นาและที่บ้านสวน
สำหรับที่ดินมือเปล่าที่มีสภาพเป็นที่บ้านที่สวนนั้น จำเลยจะยกการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้ได้ ก็ต่อเมื่อได้ครอบครองถึง 10 ปีแล้ว ถ้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปีก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์
ทำหนังสือว่ายกที่ดินให้จำเลย แต่มีความต่อไปว่าจำเลยให้เงินตอบแทน 800 บาท ดังนี้เป็นการซื้อขาย ไม่ใช่พินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือที่ถูกยึดโดยสหประชาชาติ: การซื้อโดยสุจริตของผู้รับซื้อ
เรือของโจทก์ซึ่งให้บริษัทญี่ปุ่นเช่าไปและภายหลังถูกสหประชาชาติยึดมาให้จำเลยเช่าลากเรือลำเลียงให้สหประชาชาติ และเรือนั้นได้เปลี่ยนชื่อใหม่ต่อมาสหประชาชาติได้ขายเรือนั้นให้จำเลย การที่เรือมาตกอยู่ในความครอบครองของสหประชาชาติและจำเลยนั้น เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำกันระหว่างรัฐบาลไทยกับสหประชาชาติ ดังนี้จำเลยผู้รับซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์และเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับซื้อไว้โดยไม่สุจริตอย่างใดแล้ว จะถือว่าละเมิดมิได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือที่ถูกยึดโดยสหประชาชาติและจำเลยซื้อต่อโดยสุจริต โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
เรือของโจทก์ซึ่งให้บริษัทญี่ปุ่นเช่าไป และภายหลังถูกสหประชาชาติยึดมาให้จำเลยเช่าากเรือลำเลียงให้สหประชาชาติ และเรือนั้นได้เปลี่ยนชื่อใหม่ต่อมาสหประชาชาตได้ขายเรือนั้นให้จำเลย การที่เรือมาตกอยู่ในความครอบครองครองของสหประชาชาตและจำเลยนั้น เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำกันระหว่างรัฐบาลไทยกับสหประชาชาต ดังนี้จำเลยผู้รับซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์และเมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยได้รับซื้อไว้โดยไม่สุจริตอย่างใดแล้ว จะถือว่าละเมิดมิได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งความเสี่ยงทรัพย์สินซื้อขาย - ไฟไหม้ทำลายทรัพย์สิน
เงินราคาของที่ผู้ซื้อวางไว้แก่ผู้ขาย ซึ่งผู้ขายจะต้องคืนแก่ผู้ซื้อได้กลายเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ไป ภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างทำสัญญากันให้รับผิดชอบคนละครึ่งและผู้ขายได้ชำระให้ผู้ซื้อไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนทรัพย์ที่ซื้อขายตกลงกันให้ผู้ซื้อบอกขาย ขายได้กำไรเท่าใด แบ่งกันคนละครึ่งต่อมาของที่ขายก็ถูกไฟไหม้สูญหายไป ดังนี้ผู้ซื้อจะมาเรียกร้องให้ผู้ขายคืนเงินอีกครึ่งหนึ่งที่วางไว้ไม่ได้เพราะความตกลงกันเด็ดขาดไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งรับผิดชอบค่าเสียหายจากทรัพย์ที่ถูกทำลาย: สิทธิเรียกร้องสิ้นสุดเมื่อตกลงแบ่งความรับผิดชอบแล้ว
เงินราคาของที่ผู้ซื้อวางไว้แก่ผู้ขาย ซึ่งผู้ขายจะต้องคืนแก่ผู้ซื้อได้กลายเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ไป ภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างทำสัญญากันให้รับผิดชอบคนละครึ่งและผู้ขายได้ชำระให้ผู้ซื้อไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนทรัพย์ที่ซื้อขายตกลงกันให้ผู้ซื้อบอกขาย ขายได้กำไรเท่าใด แบ่งกันคนละครึ่ง ต่อมาของที่ขายก็ถูกไฟไหม้สูนย์หายไป ดังนี้ ผู้ซื้อจะมาเรียกร้องให้ผู้ขายคืนเงินอีกครึ่งหนึ่งที่วางไว้ไม่ได้ เพราะความตกลงกันเด็ดขาดไปแล้ว.
of 71