พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อฝากและการบรรยายฟ้อง การซื้อฝากถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ การฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงถือเป็นเหตุให้แพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ได้ซื้อมาจากจำเลยทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ขายฝากที่ดินพิพาทไว้แก่โจทก์โดยทำสัญญาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ หาเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงอันเป็นรากฐานแห่งสิทธิต่างจากความจริงแห่งกรณีอย่างใดไม่
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉล เมื่อไม่สืบพะยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี.
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉล เมื่อไม่สืบพะยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้เรือนบนที่ดินของผู้อื่นตามสัญญาซื้อขาย: สิทธิในการให้เช่าเป็นสิทธิที่จำเลยมีตามสัญญา
โจทก์ขายเรือนซึ่งอยู่ในที่ของโจทก์ให้จำเลย โดยมีข้อสัญญากันว่าโจทก์ผู้ขายยอมให้จำเลยผู้ซื้ออยู่ในที่ดินมีกำหนด 3 ปี โดยไม่คิดค่าเช่า นับแต่วันทำสัญญาดังนี้ ในระยะ 3 ปีนี้จำเลยย่อมเอาเรือนหลังนี้ไปให้คนอื่นเช่าอยู่ได้ เพราะเรือนเป็นของจำเลยผู้ซื้อ จำเลยจะอยู่เองหรือจะให้ใครอยู่ ก็ย่อมมีสิทธิทำได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้เรือนในที่ดินของผู้อื่นตามสัญญาซื้อขาย: สิทธิของจำเลยในการให้เช่า
โจทก์ขายเรือนซึ่งอยู่ในที่ของโจทก์ให้จำเลย โดยมีข้อสัญญากันว่า โจทก์ผู้ขายยอมให้จำเลยผู้ซื้ออยู่ในที่ดินมีกำหนด 3 ปี โดยไม่คิดค่าเช่า นับแต่วันทำสัญญา ดังนี้ ในระยะ 3 ปีนี้จำเลยย่อมเอาเรือนหลังนี้ไปให้คนอื่นเช่าอยู่ได้ เพราะเรือนเป็นของจำเลยผู้ซื้อ จำเลยจะอยู่เองหรือจะให้ใครอยู่ ก็ย่อมมีสิทธิทำได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาซื้อขาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายน้ำตาล: ความรับผิดของผู้ขายเมื่อส่งมอบไม่ครบถ้วน และผลของการบังคับซื้อโดยราชการ
โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 310 หาบ ซึ่งมีจำนวนแน่นอนอยู่ ณที่ซื้อขายและบรรจุกระสอบไว้เต็มทั้ง 310 กระสอบ กระสอบหนึ่งหนัก 60 กิโลกรัม คือหนึ่งหาบ และน้ำตาลนี้เก็บอยู่เป็นส่วนสัดโดยเฉพาะในการซื้อขายไม่ต้อง ชั่ง ตวงวัดอีก เมื่อโจทก์ได้ชำระราคาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ได้มอบให้จำเลยรักษาไว้ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดกรรมสิทธิ์ในน้ำตาลได้โอนไปยังผู้ซื้อตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 แล้ว เมื่อทางราชการบังคับซื้อไป จำเลยก็ไม่ต้องรับผิด
โจทก์ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 1740 หาบ โดยไม่มีน้ำตาลอยู่ณที่ซื้อขาย เป็นน้ำตาลที่จำเลยซื้อจากผู้อื่น แยกเก็บไว้ณที่ต่างๆ โจทก์ยังไม่ได้ตรวจดูและยังไม่ได้ชำระค่าน้ำตาล ให้แก่จำเลยทั้งหมดเป็นแต่วางมัดจำไว้ กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ขายจะต้องนำน้ำตาลไปส่งผู้ซื้อถึงท่าเรือที่ผู้ซื้อนำเรือไปรับ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาดน้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบให้โจทก์เต็มตามสัญญา เมื่อจำเลยส่งไม่ได้ครบจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์แม้น้ำตาลจะขาดหายไปเพราะการละลายไหลตามธรรมชาติของน้ำตาลที่เก็บไว้นานก็ดี จำเลยก็ต้องรับผิด เพราะการขาดหายนั้นได้เป็นไปในขณะที่น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่
โจทก์ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 1740 หาบ โดยไม่มีน้ำตาลอยู่ณที่ซื้อขาย เป็นน้ำตาลที่จำเลยซื้อจากผู้อื่น แยกเก็บไว้ณที่ต่างๆ โจทก์ยังไม่ได้ตรวจดูและยังไม่ได้ชำระค่าน้ำตาล ให้แก่จำเลยทั้งหมดเป็นแต่วางมัดจำไว้ กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ขายจะต้องนำน้ำตาลไปส่งผู้ซื้อถึงท่าเรือที่ผู้ซื้อนำเรือไปรับ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาดน้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบให้โจทก์เต็มตามสัญญา เมื่อจำเลยส่งไม่ได้ครบจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์แม้น้ำตาลจะขาดหายไปเพราะการละลายไหลตามธรรมชาติของน้ำตาลที่เก็บไว้นานก็ดี จำเลยก็ต้องรับผิด เพราะการขาดหายนั้นได้เป็นไปในขณะที่น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายน้ำตาล: กรรมสิทธิโอนเมื่อใด? ความรับผิดของผู้ขายเมื่อส่งมอบไม่ครบ
โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 310 หาบ ซึ่งมีจำนวนแน่นอนอยู่ณที่ซื้อขายและบรรจุกระสอบไว้เต็มทั้ง 310 กระสอบ กระสอบหนึ่งหนัก 60 ก.ก.คือหนึ่งหาบ และน้ำตาลนี้เก็บอยู่เป็นส่วนสัดโดยฉะเพาะในการซื้อขายไม่ต้อง ชั่ง ตวง วัดอีก เมื่อโจทก์ได้ชำระราคาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ได้มอบให้จำเลยรักษาไว้ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดกรรมสิทธิในน้ำตาลได้โอนไปยังผู้ซื้อตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 458 แล้ว เมื่อทางราชการบังคับซื้อไป จำเลยก็ไม่ต้องรับผิด.
โจทก์ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 1740 หาบ โดยไม่มีน้ำตาลอยู่ณที่ซื้อขาย เป็นน้ำตาลที่จำเลยซื้อจากผู้อื่น แยกเก็บไว้ณที่ต่าง ๆ โจทก์ยังไม่ได้ตรวจดูและยังไม่ได้ชำระค่าน้ำตาล ให้แก่จำเลยทั้งหมดเป็นแต่วางมัดจำไว้ กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ขายจะต้องนำน้ำตาลไปส่งผู้ซื้อถึงท่าเรือที่ผู้ซื้อนำเรือไปรับ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาด น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบให้โจทก์เต็มตามสัญญา เมื่อจำเลยส่งไม่ได้ครบจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้น้ำตาลจะขาดหายไปเพราะการละลายไหลตามธรรมชาติของน้ำตาลที่เก็บไว้นานก็ดี จำเลยก็ต้องรับผิด เพราะการขาดหายนั้นได้เป็นไปในขณะที่น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่.
โจทก์ทำสัญญาซื้อน้ำตาลจากจำเลย 1740 หาบ โดยไม่มีน้ำตาลอยู่ณที่ซื้อขาย เป็นน้ำตาลที่จำเลยซื้อจากผู้อื่น แยกเก็บไว้ณที่ต่าง ๆ โจทก์ยังไม่ได้ตรวจดูและยังไม่ได้ชำระค่าน้ำตาล ให้แก่จำเลยทั้งหมดเป็นแต่วางมัดจำไว้ กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ขายจะต้องนำน้ำตาลไปส่งผู้ซื้อถึงท่าเรือที่ผู้ซื้อนำเรือไปรับ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาด น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบให้โจทก์เต็มตามสัญญา เมื่อจำเลยส่งไม่ได้ครบจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้น้ำตาลจะขาดหายไปเพราะการละลายไหลตามธรรมชาติของน้ำตาลที่เก็บไว้นานก็ดี จำเลยก็ต้องรับผิด เพราะการขาดหายนั้นได้เป็นไปในขณะที่น้ำตาลยังเป็นของจำเลยอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่า: การส่งมอบที่ดินและชำระราคาถือเป็นการโอนความเป็นเจ้าของ แม้มีข้อสัญญาเรื่องโฉนด
การซื้อขายที่ดินมือเปล่าที่มีแต่เพียงสิทธิครอบครองเมื่อได้มีการส่งการครอบครองและชำระราคากันเสร็จไปแล้ว ย่อมเป็นผลสำเร็จในการโอนความเป็นเจ้าของทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และการที่มีข้อสัญญาผูกพันไว้อีกชั้นหนึ่งว่า ผู้ขายจำต้องจัดการขอโฉนดและโอนโฉนดให้ผู้ซื้อถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องขอโฉนดและโอนโฉนดให้ผู้ซื้อ ผู้ขายยอมให้ปรับ 1200 บาท และในข้อสัญญาตอนท้ายมีความว่า ถ้าผู้ซื้อไม่ยอมรับโอนโฉนดผู้ขายจะต้องคืนเงินราคาที่ขายดังนี้ ข้อสัญญานี้มิใช่เป็นเรื่องให้สิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาซื้อขาย โดยอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทโดยมิได้ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติการออกโฉนดและโอนโฉนดให้โจทก์ ดังนี้ จะขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใส่ชื่อโจทก์แทนไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทโดยมิได้ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติการออกโฉนดและโอนโฉนดให้โจทก์ ดังนี้ จะขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใส่ชื่อโจทก์แทนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่าสำเร็จเมื่อส่งมอบการครอบครองและชำระราคา สัญญาขอโฉนดเป็นสัญญาเพิ่มเติมไม่ใช่เหตุบอกเลิก
การซื้อขายที่ดินมือเปล่าที่มีแต่เพียงสิทธิครอบครอง เมื่อได้มีการส่งการครอบครอง และชำระราคากันเสร็จไปแล้ว ย่อมเป็นผลสำเร็จในการโอน ความเป็นเจ้าของทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และการที่มีข้อสัญญาผูกพันไว้อีกชั้นหนึ่งว่า ผู้ขายจำต้องจัดการขอโฉนดและโอนโฉนดให้ผู้ซื้อ ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องขอโฉนดและโอนโฉนดให้ผู้ซื้อ ผู้ขายยอมให้ปรับ 1200 บาท และในข้อสัญญาตอนท้ายมีความว่า ถ้าผู้ซื้อไม่ยอมรับโอนโฉนด ผู้ขายจะต้องคืนเงินราคาที่ขาย ดังนี้ ข้อสัญญานี้มิใช่เป็นเรื่องให้สิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาซื้อขาย โดยอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท โดยมิได้ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติการออกโฉนดและโอนโฉนดให้โจทก์ ดังนี้ จะขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใส่ชื่อโจทก์แทนไม่ได้.
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท โดยมิได้ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติการออกโฉนดและโอนโฉนดให้โจทก์ ดังนี้ จะขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใส่ชื่อโจทก์แทนไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขาย: การตีความสัญญาจากข้อความในฟ้องและหลักฐานที่อ้างอิง
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ตกลงซื้อนาจากจำเลย ชำระราคาแล้ว และเข้าครอบครองตลอดมา หลักฐานการจะซื้อขายอยู่ที่ทำการสหกรณ์ ยังไม่ได้โอนกันตามระเบียบ จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนขาย ฟ้องดังนี้ตีความได้ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลย เป็นสัญญาจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาจะซื้อขายที่ยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ตกลงซื้อนาจากจำเลย ชำระราคาแล้ว และเข้าครอบครองตลอดมา หลักฐานการจะซื้อขายอยู่ที่ทำการสหกรณ์ ยังไม่ได้โอนกันตามระเบียบ จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนขาย ฟ้องดังนี้ตีความได้ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลย เป็นสัญญาจะซื้อขาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขาย/ขายฝากที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบประมวลกฎหมายแพ่งฯ สิทธิเรียกร้องที่ดินคืนไม่มีผล
โจทก์กู้เงินจำเลยเอาที่นาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยและเขียนสัญญามีความว่า 'ข้าพเจ้ามีความเต็มใจขายให้นางบุญเรืองเป็นราคา 50 บาทภายในกำหนด 6 เดือนตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไปต่อไปเมื่อหน้าเมื่อพ้นกำหนด 3 ปีแล้ว ถ้าข้าพเจ้าและบุตรหลานคนหนึ่งคนใดจะไถ่ถอนคิดดอกเบี้ยให้นางบุญเรืองตามราคาเงิน 50 บาท' นั้นข้อสัญญาที่ให้ไถ่คืนเป็นในทำนองไถ่คืนเช่นสัญญาขายฝาก ถ้าไม่ทำให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องขายฝากแล้ว โจทก์จะฟ้องเอาที่ดินคืน โดยอาศัยข้อสัญญานี้หาได้ไม่ (ประชุมใหญ่)