พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายพร้อมไถ่คืนที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบสัญญาขายฝาก ย่อมเป็นโมฆะ และสิทธิไถ่คืนใช้ไม่ได้
โจทก์กู้เงินจำเลยเอาที่นาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยและเขียนสัญญามีความว่า 'ข้าพเจ้ามีความเต็มใจขายให้นางบุญเรืองเป็นราคา 50 บาทภายในกำหนด 6 เดือนตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไปต่อไปเมื่อหน้าเมื่อพ้นกำหนด 3 ปีแล้ว ถ้าข้าพเจ้าและบุตรหลานคนหนึ่งคนใดจะไถ่ถอนคิดดอกเบี้ยให้นางบุญเรืองตามราคา เงิน 50 บาท' นั้นข้อสัญญาที่ให้ไถ่คืนเป็นในทำนองไถ่คืนเช่นสัญญาขายฝากถ้าไม่ทำให้ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องขายฝากแล้ว โจทก์จะฟ้องเอาที่ดินคืนโดยอาศัยข้อสัญญานี้หาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่/92)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขไถ่คืนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายขายฝาก ถือเป็นโมฆะ
โจทก์กู้เงินจำเลยเอาที่นาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย และเขียนสัญญามีความว่า "ข้าพเจ้ามีความเต็มใจขายให้นางบุญเรืองเป็นราคา 50 บาท ภายในกำหนด 6 เดือนตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไป ต่อไปเมื่อหน้า เมื่อพ้นกำหนด 3 ปีแล้ว ถ้าข้าพเจ้าและบุตรหลานคนหนึ่งคนใดจะไถ่ถอนคิดดอกเบี้ยให้นางบุญเรืองตามราคา เงิน 50 บาท" นั้น ข้อสัญญาที่ให้ไถ่คืนเป็นในทำนองไถ่คืนเช่นสัญญาขายฝาก ถ้าไม่ทำให้ถูกต้องตาม ป.ม.แพ่ง ฯ เรื่องขายฝากแล้ว โจทก์จะฟ้องเอาที่ดินคืน โดยอาศัยข้อสัญญานี้หาได้ไม่.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ /92
ประชุมใหญ่ครั้งที่ /92
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขายเมื่อสินค้าไม่ถึงมือผู้ซื้อ แม้จะเปลี่ยนวิธีการขนส่ง
ทำสัญญาซื้อข้าวสารกัน 230 กระสอบที่จังหวัดเพ็ชรบุรี ตกลงให้ส่งทางรถไฟและส่งมอบกันที่จังหวัดชุมพร ผู้ขายได้ส่งข้าวสารไปให้ผู้ซื้อ 1 ตู้ 115 กระสอบ ต่อมาทางรถไฟชำรุด ผู้ซื้อตกลงให้ผู้ขายส่งข้าวที่ยังเหลืออยู่ทางเรือ ผู้ขายได้จัดการจ้างเรือบันทุกส่งไปให้ผู้ซื้อแล้วปรากฎว่าข้าวสารส่งไปไม่ถึงมือผู้ซื้อ ดังนี้ ผู้ขายคงมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อผู้ซื้อตามเดิม
ผู้รับจ้างบันทึกนั้น ไม่ใช่ผู้ขนส่งตามความหมาย ในมาตรา 463, 608 ป.ม.แพ่งฯ
ผู้รับจ้างบันทึกนั้น ไม่ใช่ผู้ขนส่งตามความหมาย ในมาตรา 463, 608 ป.ม.แพ่งฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ส่งมอบสินค้า ผู้ขายต้องรับผิดชอบเมื่อสินค้าไม่ถึงมือผู้ซื้อ แม้จะมอบหมายให้ผู้อื่นขนส่ง
ทำสัญญาซื้อข้าวสารกัน 230 กระสอบ ที่จังหวัดเพชรบุรีตกลงให้ส่งทางรถไฟและส่งมอบกันที่จังหวัดชุมพร ผู้ขายได้ส่งข้าวสารไปให้ผู้ซื้อ 1 ตู้ 115 กระสอบ ต่อมาทางรถไฟชำรุด ผู้ซื้อตกลงให้ผู้ขายส่งข้าวที่ยังเหลืออยู่ทางเรือ ผู้ขายได้จัดการจ้างเรือบรรทุกส่งไปให้ผู้ซื้อแล้วปรากฏว่าข้าวสารส่งไปไม่ถึงมือผู้ซื้อดังนี้ ผู้ขายคงมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อผู้ซื้อตามเดิม
ผู้รับจ้างบรรทุกนั้น ไม่ใช่ผู้ขนส่งตามความหมาย ในมาตรา 463,608 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้รับจ้างบรรทุกนั้น ไม่ใช่ผู้ขนส่งตามความหมาย ในมาตรา 463,608 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาซื้อขายเดิมไม่ลบล้างสัญญาจำนำใหม่ที่ทำโดยความตกลง ย่อมไม่เป็นนิติกรรมอำพราง
เดิมโจทก์จำเลยตั้งใจกันทำสัญญาซื้อขายนาพิพาท แต่เมื่อไปถึงกำนัน ๆ ว่าทำให้ไม่ได้ ทำได้แต่สัญญาจำนา แล้วโจทก์จำเลยก็เปลี่ยนความตั้งใจทำสัญญาจำนำ ดังนี้ จำเลยจะยกเอาความตั้งใจเดิมมาลบล้างสัญญาที่โจทก์จำเลยทำโดยความตกลงใหม่นี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: การเปลี่ยนแปลงเจตนาทำสัญญาซื้อขายเป็นจำนอง ย่อมไม่สามารถยกความตั้งใจเดิมมาลบล้างสัญญาใหม่ได้
เดิมโจทก์จำเลยตั้งใจกันทำสัญญาซื้อขายนาพิพาท แต่เมื่อไปถึงกำนันกำนันว่าทำให้ไม่ได้ ทำได้แต่สัญญาจำนำแล้วโจทก์จำเลยก็เปลี่ยนความตั้งใจทำสัญญาจำนำ ดังนี้จำเลยจะยกเอาความตั้งใจเดิมมาลบล้างสัญญาที่โจทก์จำเลยทำโดยความตกลงใหม่นี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงส่วนร่วมในการทำสัญญาซื้อขาย ไม่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร
ตามสัญญาซื้อขายมีชื่อสามีจำเลยเป็นผู้ซื้อ แต่ผู้เดียวนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าตนมีส่วนออกเงินร่วมด้วยในการทำสัญญานั้น ไม่เรียกว่าเป็นการนำสืบแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเอกสารที่ห้ามไว้ตามมาตรา 94(ข)ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะเป็นการนำสืบถึงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง มิได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในตัวสัญญานั้นเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบส่วนได้เสียร่วมในสัญญาซื้อขายที่ไม่ระบุชื่อผู้ร่วมซื้อ ไม่เป็นการแก้ไขเอกสาร
ตามสัญญาซื้อขายมีชื่อสามีจำเลยเป็นผู้ซื้อ แต่ผู้เดียวนั้นโจทก์มีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าตนมีส่วนออกเงินร่วมด้วยในการทำสัญญานั้น ไม่เรียกว่า เป็นการนำสืบแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเอกสารที่ห้ามไว้ตามมาตรา 94 ( ข) ป.ม.วิ.แพ่ง เพราะเป็นการนำสืบถึงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง มิได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในตัวสัญญานั้นเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำได้โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน แต่มีผลผูกพันตามกฎหมายหากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง...โฉนดที่ 4233.....ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้ จ้อยสกุล จะขอมอบกรรมสิทธิที่ดินรายนี้ให้นางปิ่น จ้อยสกุล ซึ่งเป็นภรรยานายโก้ นายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป 320 บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำเองได้ตามกฎหมาย หากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง ผู้ขายมีสิทธิบังคับให้ผู้ซื้อโอนกรรมสิทธิ์
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง... โฉนดที่ 4233......ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้จ้อยสกุลจะขอมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นจ้อยสกุลซึ่งเป็นภรรยานายโก้ และนายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป320บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย