คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประทีป ชุ่มวัฒนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาเช่าซื้อ: การกำหนดค่าสินไหมทดแทนล่วงหน้าและการลดเบี้ยปรับสูงเกินส่วน
คำว่า 'เบี้ยปรับ' ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 หมายถึงค่าสินไหมทดแทนที่คู่สัญญาได้ตกลงกำหนดกันไว้ล่วงหน้าการที่โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้ในหนังสือสัญญาเช่าซื้อถึงวิธีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงถือได้ว่าเป็นข้อสัญญาที่มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วน ก็ย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมให้ทิ้งดินในที่ดินและที่สาธารณะ ย่อมไม่เป็นละเมิด แม้ไม่ได้ระบุยกเว้นเฉพาะส่วน
คดีฟ้องให้ทำร่องน้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นคดีฟ้อง ขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
โจทก์ยินยอมให้จำเลยทิ้งดินจากเรือขุดลงในที่ดินของโจทก์รวมทั้งที่สาธารณะที่โจทก์ปกครองอยู่โดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าทดแทนหรือค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น การทิ้งดินของจำเลยจึงไม่เป็นละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากผู้ฟ้องถึงแก่กรรมก่อนยื่น และใบแต่งทนายลงวันที่หลังการเสียชีวิต
เมื่อปรากฏว่าตัวความได้ถึงแก่กรรมไปแล้วก่อนยื่นฎีกา 1 วัน และใบแต่งทนายที่ให้อำนาจทนายลงชื่อในฎีกาที่ยื่นนั้นก็ลงวันที่ไว้หลังจากที่ตัวความถึงแก่กรรมแล้ว ทนายความจึงไม่สามารถอาศัยใบแต่งทนายนั้นลงชื่อในฎีกาได้ ฎีกาที่ยื่นจึงไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากตัวความถึงแก่กรรมก่อนยื่นฎีกา และใบแต่งทนายลงวันที่หลังเสียชีวิต
เมื่อปรากฏว่าตัวความได้ถึงแก่กรรมไปแล้วก่อนยื่นฎีกา 1 วัน และใบแต่งทนายที่ให้อำนาจทนายลงชื่อในฎีกาที่ยื่นนั้นก็ลงวันที่ไว้หลังจากที่ตัวความถึงแก่กรรมแล้วทนายความจึงไม่สามารถอาศัยใบแต่งทนายนั้นลงชื่อในฎีกาได้ ฎีกาที่ยื่นจึงไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้จำหน่ายไฟฟ้าเมื่อสายไฟฟ้าชำรุดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อประชาชน มิใช่เหตุสุดวิสัย
จำเลยเป็นผู้จำหน่ายและครอบครองกระแสไฟฟ้าซึ่งพาดสายไปตามถนน มีหน้าที่ ๆ จะต้องระมัดระวังมิให้สายไฟฟ้าชำรุดบกพร่องอันจะเกิดอันตรายแก่ประชาชน เมื่อจำเลยละเลยไม่ตรวจตราดูแลแก้ไขให้สายไฟฟ้าอยู่ในสภาพดีอยู่ตลอดเวลาจนเกิดมีการตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้า จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย จำเลยจึงต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งฟ้องฎีกาโดยผู้มิได้รับอนุญาตเป็นทนายความ ทำให้ฎีกานั้นไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
น.มิได้เป็นผู้ซึ่งจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความ และไม่ปรากฏว่าเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามวรรคสองของมาตรา 36 พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2508 การที่น.ได้เรียงหรือแต่งฟ้องฎีกาให้จำเลยซึ่งเป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีโทษทางอาญาตามมาตรา 37 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาซึ่งเกิดจากการกระทำอันไม่ชอบศาลฎีกาไม่อาจรับพิจารณาให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งฟ้องฎีกาโดยผู้มิได้มีใบอนุญาตทนายความ เป็นการกระทำไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
น.มิได้เป็นผู้ซึ่งจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความ และไม่ปรากฏว่าเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามวรรคสองของมาตรา 36 พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2508 การที่ น.ได้เรียงหรือแต่งฟ้องฎีกาให้จำเลยซึ่งเป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีโทษทางอาญาตามมาตรา 37 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาซึ่งเกิดจากการกระทำอันไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่อาจรับพิจารณาให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเกี่ยวเนื่องคดีแพ่งอาญา: ศาลต้องยึดข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาอาญาถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาทำความเสียหายในที่ดินของโจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก กับพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เมื่อศาลพิพากษาในคดีส่วนอาญาถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทและลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา จำเลยจะฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: การพิจารณาความรับผิดทางแพ่งตามข้อเท็จจริงในคำพิพากษาอาญา
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาทำความเสียหายในที่ดินของโจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก กับพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เมื่อศาลพิพากษาในคดีส่วนอาญาถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทและลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาจำเลยจะฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนกลางเรียกค่าไถ่ ลดโทษผู้ช่วยเหลือปล่อยตัวผู้ถูกกักขัง
คนร้ายปล้นรถโดยสารของ ล. ไป และจับ ล. ไปกักขังไว้ เพื่อเรียกค่าไถ่ จำเลยที่ 3 ได้นำจดหมายคนร้ายมาให้ภรรยาของ ล. เรียกค่าไถ่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ได้ร่วมกระทำการกับคนร้ายในการจับตัว ล. ไปหรือร่วมในการกักขัง ล. ทั้งไม่ได้สนับสนุนการกระทำดังกล่าวปรากฏเพียงว่าจำเลยที่ 3 ได้นำจดหมายคนร้ายมาแสดงต่อภรรยา ล. ดังกล่าวแล้วและเจรจาต่อรองค่าไถ่ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นบุตรของจำเลยที่ 3 ได้พูดกับภรรยา ล. หลังจากที่ ล. ถูกจับตัวไปว่าไม่ต้องร้อนใจหาเงินมาไถ่ก็แล้วกันและเมื่อภรรยา ล. จ่ายเงินให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ก็เป็นผู้ขี่จักรยานยนต์ไปกับจำเลยที่ 3 ไปรับ ล. มา เช่นนี้ จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมีความผิดฐานกระทำการเป็นคนกลางเรียกทรัพย์สินที่มิควรได้ จากผู้ที่จะให้ค่าไถ่อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 315 แม้โจทก์จะมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรานี้ แต่การเรียกค่าไถ่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำตามที่โจทก์กล่าวหาจำเลยมาในฟ้องแล้วนั่นเอง ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดหรือบทมาตราที่ถูกต้องที่ได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ได้
จำเลยที่ 2 ที่ 3 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 315แต่ได้จัดให้ผู้ถูกคนร้ายเอาตัวไปได้รับเสรีภาพ ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาโดยมิได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิตจึงชอบที่จะได้รับการลดโทษให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 316
of 59