คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประทีป ชุ่มวัฒนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2568/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางทางสาธารณะที่ใช้ประโยชน์มานาน แม้จะอยู่ในเขตโฉนดของจำเลย จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน
ทางพิพาทอยู่ในเขตโฉนดของจำเลย แต่ใช้เป็นทางสัญจรมา50-60 ปี เป็นทางสาธารณะ จำเลยนำเสาไปปักขวาง นายอำเภอซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายออกคำสั่งให้จำเลยถอนเสาไม้ออกไป จำเลยทราบคำสั่งแล้วไม่ปฏิบัติตาม จำเลยย่อมมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวสาร: ความผิดฐานละเว้นรายงานการค้าข้าว ต้องมีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับความผิด
ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 21 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 12 บัญญัติว่า "ข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดตลอดจนสิ่งที่ใช้บรรจุให้ริบเสีย" นั้น คำว่า "ข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิด" นี้จะต้องเป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรง จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวโดยชอบแล้ว ความผิดของจำเลยอยู่ที่การละเว้นไม่ทำรายงานเท่านั้น ข้าวของกลางไม่เกี่ยวเนื่องกับความผิดของจำเลยแต่อย่างใด จึงไม่ริบ (อ้างฎีกาที่ 491/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ต้องเป็นข้าวที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรง
คำว่า "ข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดให้ริบเสีย" ตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าวนั้น จะต้องเป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรงจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวโดยชอบแล้ว ความผิดของจำเลยอยู่ที่ละเว้นไม่ทำรายงานการค้าข้าวแสดงปริมาณข้าวในครอบครองเท่านั้น ข้าวของกลางไม่เกี่ยวเนื่องกับความผิดของจำเลยแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่จะพึงริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2550/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงชื่อในฟ้องด้วยลายพิมพ์นิ้วมือต้องมีพยานรับรองสองคน หากมีเพียงคนเดียวถือเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ฟ้องโจทก์ลงชื่อโดยพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือ แต่มีผู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองเพียงผู้เดียวจะถือว่าลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ดังกล่าวเสมอกับลายมือชื่อไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรค 3 ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) การที่โจทก์มาเบิกความว่าเป็นโจทก์จริงก็ไม่ทำให้ฟ้องที่ไม่ชอบนั้นเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2550/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงชื่อในฟ้องด้วยลายพิมพ์นิ้วมือที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทำให้ฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องโจทก์ลงชื่อโดยพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือ แต่มีผู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองเพียงผู้เดียว จะถือว่าลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ดังกล่าวเสมอกับลายมือชื่อไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรค 3 ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) การที่โจทก์มาเบิกความว่าเป็นโจทก์จริงก็ไม่ทำให้ฟ้องที่ไม่ชอบนั้นเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: เจตนาและพฤติการณ์ที่บ่งชี้ความผิด
จำเลยซึ่งมีภรรยาและบุตรแล้ว นัดพบกับผู้เยาว์ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.ศ.3 อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ และได้ร่วมประเวณีกันทุกครั้งที่พบกัน ทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่อยู่ในฐานะที่จะเลี้ยงดูผู้เยาว์ฉันสามีภรรยาได้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2488/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับคดีชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่น การรับสารภาพและพฤติการณ์หลบหนีเป็นหลักฐานสำคัญ
ข้อที่จำเลยกระโดดหน้าต่างหนีตำรวจลงมาที่กันสาดเมื่อตำรวจไปถึงบ้านจำเลยเพื่อจับ เป็นพยานหลักฐานที่ประมวลเข้าพิสูจน์ได้ว่า จำเลยชิงทรัพย์ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2463/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ: จำเลยไม่ต้องรับผิดหากการยักยอกทรัพย์เกิดจากความผิดของฝ่ายอื่น
การที่ ย. ยักยอกเงินของโจทก์ไปได้ ก็เพราะฝ่ายการเงินของโจทก์ละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนที่โจทก์วางไว้ปล่อยให้ ย. พนักงานประจำเคาน์เตอร์ทำหน้าที่เป็นพนักงานรับเงินรับเงินเสียเองแล้วยักยอกเงินนั้นไป แล้วหาช่องทางเอาใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองคืนมาจากจำเลยซึ่งเป็นพนักงานบัญชีฝ่ายการบัญชี เพื่อมิให้มีการลงบัญชีเงินสดต่อไป การยักยอกเงินของ ย. จึงมิได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลย เพราะแม้จำเลยจะปล่อยให้ ย. เอาใบเสร็จท่อนที่สองคืนไปจากจำเลย ก็มิใช่เหตุโดยตรงที่ก่อให้เกิดการยักยอกเงินรายนี้ เพราะ ย. ได้ยักยอกเงินของโจทก์ไปก่อนแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2463/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ จำเลยไม่ต้องรับผิดหากการยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นจากความผิดของฝ่ายอื่น
การที่ ย.ยักยอกเงินของโจทก์ไปได้ ก็เพราะฝ่ายการเงินของโจทก์ละเลยไม่มีปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนที่โจทก์วางไว้ ปล่อยให้ ย.พนักงานประจำเคาน์เตอร์ทำหน้าที่เป็นพนักงานรับเงิน รับเงินเสียเอง แล้วยักยอกเงินนั้นไป แล้วทำช่องทางเอาใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองคืนมาจากจำเลยซึ่งเป็นพนักงานบัญชีฝ่ายการบัญชี เพื่อมิให้มีการลงบัญชีสดต่อไป การยักยอกเงินของ ย. จึงมิได้เกิดความประมาทเลินเล่อของจำเลย เพราะแม้จำเลยจะปล่อยให้ ย. เอาใบเสร็จท่อนที่สองคืนไปจากจำเลย ก็มิใช่เหตุโดยตรงที่ก่อให้เกิดยักยอกเงินรายนี้ เพราะ ย. ได้ยักยอกเงินของโจทก์ไปก่อนแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2437/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปลงศพกรณีละเมิด: นายจ้างชำระแล้วมิใช่เหตุปัดความรับผิดของผู้ทำละเมิด ค่าเดินทางร่วมงานศพไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ผู้ทำละเมิดต้องรับผิด
กรณีละเมิดทำให้คนตาย ค่าปลงศพตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 แม้นายจ้างของผู้ตายออกให้ทั้งสิ้น ก็ไม่ปัดความรับผิดของผู้ทำละเมิด แต่ค่าใช้จ่ายที่ญาติของผู้ตายเดินทางจากต่างจังหวัดไปร่วมในงานศพด้วยนั้น ไม่ใช่เดินทางไปจัดการศพ ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ผู้ทำละเมิดต้องรับผิด
of 59