พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว: ศาลฎีกาปรับบทลงโทษจากมาตรา 340 วรรคสี่ เป็นวรรคสอง
จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธ: การปรับบทลงโทษที่ถูกต้องและการขยายผลถึงจำเลยที่ไม่ได้ฎีกา
จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์ และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงต่อเนื่องทำให้ผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าหลายกรรม
จำเลยยิง พ. 2 นัด แล้วเจตนายิง ส. และก.ซึ่งเดินตามพ. มาด้วยอีก กระสุนปืนถูก พ. ตาย ส. ถูกยิง 2 นัด เป็นอันตรายสาหัสกระสุน 1 นัดเฉียด ก. ไปดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนกรรมหนึ่งกับฐานพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 2 กรรม ชั้นอุทธรณ์โจทก์ไม่อุทธรณ์ศาลฎีกาแก้บทให้ถูกต้องเป็น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ288,80แต่ไม่แก้โทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของบ้านรู้เห็นการเล่นพนัน แม้ไม่ได้จัดเองโดยตรง ก็ถือเป็นผู้จัดโดยทางอ้อม
เจ้าของบ้านรู้เห็นเป็นใจในการจัดให้มีการเล่นไฮโลว์พนันขึ้นในบ้านโดยมีการเรียกเก็บค่าต๋ง แม่มิได้จัดให้มีการเล่นขึ้นเองโดยตรงก็ถือว่าจัดขึ้นโดยทางอ้อมเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา12
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายจราจรใหม่และการปรับบทลงโทษ: กฎหมายฉบับใหม่เป็นคุณแก่จำเลย
จอดรถไม่ขนานชิดขอบทาง มีความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 54,148 เป็นคุณกว่า พระราชบัญญัติจราจร พ.ศ. 2477 มาตรา 19, 66 ศาลใช้กฎหมายใหม่ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาทและการโอนสิทธิโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่มีสิทธิแม้จะเสียค่าตอบแทน
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ได้มอบให้จำเลยที่ 1 ครอบครองดูแลแทน จำเลยที่ 1 แอบไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทแล้วโอนขายให้จำเลยที่ 2 ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง และขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นดังนี้ แม้คำฟ้องจะมิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 โดยไม่สุจริต แต่ถ้าได้ความว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นแต่เพียงครอบครองดูแลแทน ได้ไปขอออกน.ส.3 ลงชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยไม่ชอบจริงตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ก็ไม่กลายเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท และจำเลยที่ 2 ผู้รับโอนก็ไม่มีสิทธิดีไปกว่าจำเลยที่ 1 แม้จะได้รับโอนที่ดินพิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน จำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทจะอ้างความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 หาได้ไม่คดีจึงจำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 เพียงแต่ยึดถืออยู่ในฐานะผู้แทนโจทก์จริงดังที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้องหรือไม่ ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่มีสิทธิครอบครอง แม้จะซื้อโดยสุจริต
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ได้มอบให้จำเลยที่ 1 ครอบครองดูแลแทน จำเลยที่ 1 แอบไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทแล้วโอนขายให้จำเลยที่ 2 ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง และขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้น ดังนี้ แม้คำฟ้องจะมิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 โดยไม่สุจริต แต่ถ้าได้ความว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นแต่เพียงครอบครองดูแลแทน ได้ไปขอออก น.ส.3 ลงชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยไม่ชอบจริงตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ก็ไม่กลายเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท และจำเลยที่ 2 ผู้รับโอนก็ไม่มีสิทธิดีไปกว่าจำเลยที่ 1 แม้จะได้รับโอนที่ดินพิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน จำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท จะอ้างความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 หาได้ไม่ คดีจึงจำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 เพียงแต่ยึดถืออยู่ในฐานะผู้แทนโจทก์จริงดังที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้องหรือไม่ ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางต้องสุจริต ผู้ขอคืนต้องเป็นผู้เสียหายจริง มิใช่ตัวแทนผู้กระทำผิด
ผู้ร้องให้เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางแก่ อ.ระหว่างอ.ส่งชำระค่าเช่าซื้อเหลืออีก 8 งวด จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปขนไม้เถื่อนด้วยความรู้เห็นของอ.ผู้ร้องประสงค์เพียงค่าเช่าซื้อที่ค้างคืนส่วนการขอคืนรถยนต์ของกลางในคดีนี้แท้จริงเป็นความประสงค์ของ อ. ผู้ร้องยอมให้ อ.ใช้ชื่อผู้ร้องบังหน้าในการขอคืนของกลาง ดังนี้ถือว่าเป็นการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์ของ อ.ผู้รู้เห็นในการกระทำความผิดกรณีไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางโดยมิสุจริต ผู้ขอไม่ใช่ผู้เสียหายจริงแต่เพื่อประโยชน์ผู้กระทำผิด ศาลไม่ควรสั่งคืน
ผู้ร้องให้เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางแก่ อ. ระหว่าง อ. ส่งชำระค่าเช่าซื้อเหลืออีก 8 งวด จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปขนไม้เถื่อนด้วยความรู้เห็นของ อ. ผู้ร้องประสงค์เพียงค่าเช่าซื้อที่ค้าง ส่วนการขอคืนรถยนต์ของกลางในคดีนี้แท้จริงเป็นความประสงค์ของ อ. ผู้ร้องยอมให้ อ. ใช้ชื่อผู้ร้องบังหน้าในการขอคืนของกลาง ดังนี้ ถือว่าเป็นการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์ของ อ. ผู้รู้เห็นในการกระทำความผิด กรณีไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ล่วงหน้า ผู้สั่งจ่ายถึงแก่กรรมก่อนกำหนด ไม่ลบล้างความรับผิด กองมรดกยังคงต้องรับผิดตามเช็ค
การสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้านั้นหมายความเพียงว่า ผู้ทรงมีสิทธิเบิกเงินตามเช็คจากธนาคารได้ต่อเมื่อถึงวันที่กำหนดในเช็คเท่านั้น แม้ผู้สั่งจ่ายจะถึงแก่กรรมไปก่อนวันเช็คถึงกำหนด ก็หาทำให้ผุ้สั่งจ่ายที่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในเช็คนั้นหลุดพ้นความรับผิดไปได้ไม่ หน้าที่และความรับผิดตามเช็คนั้นย่อมยังคงตกอยู่แก่กองมรดกของผู้สั่งจ่ายนั้นด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600