พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้อง เพิ่มข้อเท็จจริงใหม่ และอายุความสัญญาจะซื้อจะขายที่มีข้อตกลงพิเศษ
เดิมโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งแปลง และจำเลยได้รับเงินไปเรียบร้อยในวันทำสัญญา ครั้นเมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องเดิมโดยเพิ่มเติมข้อความว่า โดยจำเลยตกลงให้โจทก์นำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่บริษัท ย. ค้างชำระบริษัท ว. และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บริษัท ว. เรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าจำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญา ข้อความที่โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมนี้เป็นแต่เพียงอธิบายข้อความที่กล่าวว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทก์แล้วในวันทำสัญญานั้น โจทก์จำเลยตกลงกันให้ถือเอาการที่โจทก์นำเงินไปชำระหนี้ซึ่งบริษัท ย. ของจำเลยติดค้างอยู่กับบริษัท ว. ของโจทก์เป็นการชำระราคาที่ดินที่จำเลยทำสัญญาจะขายให้แก่โจทก์นั่นเอง แม้จะเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริง เพิ่มขึ้นจากคำฟ้องเดิมและกล่าวพาดพิงไปถึงบริษัทของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจากตัวจำเลยโจทก์มีสิทธิทำได้
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระ ข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้ โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้น การมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าว จึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระ ข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้ โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้น การมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าว จึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องเพิ่มข้อเท็จจริงและการแบ่งเงินจากสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: อายุความ 10 ปี
เดิมโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งแปลง และจำเลยได้รับเงินไปเรียบร้อยในวันทำสัญญาครั้นเมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องเดิมโดยเพิ่มเติมข้อความว่า โดยจำเลยตกลงให้โจทก์นำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่บริษัท ย.ค้างชำระบริษัท ว..และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บริษัทว.เรียบร้อยแล้ว. จึงถือว่าจำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญา. ข้อความที่โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมนี้.เป็นแต่เพียงอธิบายข้อความที่กล่าวว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทก์แล้วในวันทำสัญญานั้นโจทก์จำเลยตกลงกันให้ถือเอาการที่โจทก์นำเงินไปชำระหนี้ซึ่งบริษัท ย.ของจำเลยติดค้างอยู่กับบริษัทว. ของโจทก์เป็นการชำระราคาที่ดินที่จำเลยทำสัญญาจะขายให้แก่โจทก์นั่นเอง แม้จะเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นจากคำฟ้องเดิมและกล่าวพาดพิงไปถึงบริษัทของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจากตัวจำเลย โจทก์มีสิทธิทำได้
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้นการมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าวจึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้นการมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าวจึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองเป็นมรดก ไม่ใช่การครอบครองทรัพย์ผู้อื่น ต้องจดทะเบียนรับมรดก
ที่ดินมีโฉนดตกทอดมาทางมรดกผู้รับมรดกครอบครองมาไม่ใช่ได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 จึงมาร้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่ได้ เป็นเรื่องขอจดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 81 โฉนดปลวกกินหมดก็ขอใบแทนตาม มาตรา 60 หากเจ้าพนักงานที่ดินไม่ทำให้ก็เป็นข้อพิพาทไม่ใช่ร้องฝ่ายเดียวเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้น. โดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนอย่างไรเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้คู่ความผู้ยื่นฎีกา
เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้คู่ความผู้ยื่นฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยเสน่หาแล้วประพฤติเนรคุณ โจทก์มีสิทธิเรียกคืนได้
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ยังไม่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จึงไม่อาจจดทะเบียนการให้ได้โจทก์มอบการครอบครองที่พิพาทให้จำเลยโดยเจตนายกให้โดยเสน่หาจำเลยได้สิทธิครอบครองที่พิพาทแล้วเมื่อประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ โจทก์เรียกถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีละเมิดและการระบุอาณาเขตที่ดิน ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้ไม่ระบุรายละเอียดทั้งหมด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลูกบ้านเนื้อที่ประมาณ 10ตารางวาในที่ดินของโจทก์โฉนดหมายเลข 7083ตำบลสี่แยกมหานาค(ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์เป็นการละเมิดขอให้ขับไล่แม้จะไม่ระบุอาณาเขตที่ดินของโจทก์มาว่าทิศเหนือทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จดเขตที่ดินของใครจำเลยก็อาจเข้าใจข้อหาในฟ้องได้ชัดเจนแล้วฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีละเมิดและการระบุอาณาเขตที่ดิน ศาลฎีกาตัดสินว่าการไม่ระบุอาณาเขตที่ดินโดยละเอียดไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลูกบ้านเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางวา ในที่ดินของโจทก์โฉนดหมายเลข 7083 ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิด ขอให้ขับไล่ แม้จะไม่ระบุอาณาเขตที่ดินของโจทก์มาว่า ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จดเขตที่ดินของใคร จำเลยก็อาจเข้าใจข้อหาในฟ้องได้ชัดเจนแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานทำลายสาธารณสมบัติ แม้ฟ้องไม่ชัดแจ้ง ศาลลงโทษฐานสนับสนุนได้
ฟ้องว่าเป็นตัวการร่วมกระทำผิด ได้ความว่าเป็นผู้ใช้ให้คนเอารถแทรกเตอร์ไปขุดดินทำลายสาธารณสมบัติของแผ่นดินลงโทษฐานเป็นผู้ใช้ให้ทำผิดไม่ได้ แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนได้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา360 ซึ่งเป็นบทหนักกว่าความผิดตาม ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9,108 อันเป็นความผิดกรรมเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายของผู้เช่าซื้อ: แม้ไม่ใช่เจ้าของรถ ก็มีสิทธิฟ้องได้หากครอบครองรถ
ผู้เช่าซื้อครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้อ แม้ไม่ใช่เจ้าของก็ฟ้องผู้ทำละเมิดให้รถเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเงินฝากตกเป็นของผู้รับโอนทันที แม้ผู้ฝากมีข้อตกลงถอนเงินได้เอง ผู้จัดการมรดกต้องส่งมอบเงินให้เจ้าของบัญชี
บิดามีเจตนายกเงินให้บุตร ได้ยื่นคำร้องขอเปิดบัญชีกับธนาคารโดยระบุชื่อบุตรและในสมุดคู่ฝากก็ระบุชื่อบุตรเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก กรรมสิทธิ์ในเงินนั้นย่อมตกเป็นของบุตรทันทีที่ธนาคารรับเงินเข้าบัญชีเงินฝากของบุตร แม้จะมีข้อตกลงกับธนาคารว่าบิดาเป็นผู้ลงชื่อถอนเงินจากบัญชีเงินฝากได้ก็ตาม
ครั้นเมื่อบิดาตาย ธนาคารย่อมต้องคืนเงินฝากนั้นให้แก่ทายาท เมื่อผู้จัดการมรดกขอถอนเงินฝากดังกล่าว การที่ธนาคารจ่ายเงินคืนให้ จึงเป็นการชอบ
ผู้จัดการมรดกต้องมอบเงินที่ถอนมาให้แก่บุตรผู้เป็นเจ้าของเงิน เพราะเงินนั้นมิใช่มรดก บุตรผู้เป็นเจ้าของเงินย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนจากผู้จัดการมรดกผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้
ครั้นเมื่อบิดาตาย ธนาคารย่อมต้องคืนเงินฝากนั้นให้แก่ทายาท เมื่อผู้จัดการมรดกขอถอนเงินฝากดังกล่าว การที่ธนาคารจ่ายเงินคืนให้ จึงเป็นการชอบ
ผู้จัดการมรดกต้องมอบเงินที่ถอนมาให้แก่บุตรผู้เป็นเจ้าของเงิน เพราะเงินนั้นมิใช่มรดก บุตรผู้เป็นเจ้าของเงินย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนจากผู้จัดการมรดกผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้