คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 151

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 119 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2128/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม – คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด – ค่าธรรมเนียมศาล
เมื่อโจทก์ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ของโจทก์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นแล้วเช่นนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โจทก์ไม่มีสิทธิ์ที่จะฎีกาต่อไปได้อีก การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ จึงไม่เป็นการถูกต้อง ศาลฎีการับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยไม่ได้
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดในชั้นอุทธรณ์และคู่ความประสงค์ที่จะโต้แย้งคำพิพากษา หรือคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ก็ชอบที่จะต้องยื่นฎีกามาในรูปของคำฟ้องฎีกา และต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ารับคำฟ้อง ค่าขึ้นศาล และค่าตัดสินมาด้วย สำหรับคดีนี้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเป็นค่าคำร้องเพียง 20 บาท ยังขาดอยู่และเมื่อศาลฎีการับฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่ได้แล้ว ก็ชอบที่จะต้องสั่งให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่โจทก์ นอกจากค่ารับคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 แต่โดยเหตุที่ค่าธรรมเนียม ค่ารับฟ้องฎีกามีจำนวนเงินเท่ากับค่าคำร้องที่โจทก์เสียมาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องคืนค่าธรรมเนียมหรือเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มจากโจทก์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2128/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามมาตรา 236 และการยื่นฎีกาไม่ถูกต้องตามรูปแบบ
เมื่อโจทก์ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ของโจทก์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นแล้วเช่นนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาต่อไปได้อีกการที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ จึงไม่เป็นการถูกต้อง ศาลฎีการับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยไม่ได้
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดในชั้นอุทธรณ์และคู่ความประสงค์ที่จะโต้แย้งคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ก็ชอบที่จะต้องยื่นฎีกามาในรูปของคำฟ้องฎีกา และต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ารับคำฟ้องค่าขึ้นศาล และค่าตัดสินมาด้วย สำหรับคดีนี้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเป็นค่าคำร้องเพียง 20 บาท ยังขาดอยู่และเมื่อศาลฎีการับฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่ได้แล้ว ก็ชอบที่จะต้องสั่งให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่โจทก์นอกจากคำรับคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 แต่โดยเหตุที่ค่าธรรมเนียม คำรับฟ้องฎีกามีจำนวนเงินเท่ากับค่าคำร้องที่โจทก์เสียมาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องคืนค่าธรรมเนียมหรือเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มจากโจทก์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากคำขอไม่มีประโยชน์เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินตามคำพิพากษาแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุดโดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์ ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเมื่อคำขอไม่มีประโยชน์อีกต่อไปหลังมีการจ่ายเงินตามคำพิพากษา และสิทธิในการขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุด โดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากคำขอไม่มีประโยชน์หลังมีการจ่ายเงินตามคำพิพากษา และสิทธิของผู้ร้องนอกเหนือจากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์.ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุด.โดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา. เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์.ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้.
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.(คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และการโต้เถียงข้อเท็จจริง ศาลฎีกายกคำฎีกาและคืนค่าธรรมเนียม
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม - คดีทุนทรัพย์น้อยกว่าห้าพันบาท ศาลฎีกายกคำฎีกาและคืนค่าธรรมเนียม
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น. ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง. แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง. ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย.
ในกรณีพิพากษายกฎีกา. ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้. เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าและการชดใช้ค่าที่ดิน กรณีศาลไม่วินิจฉัยประเด็นเฉพาะ
เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยถึงคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวกับสิทธิการเป็นผู้เช่าของจำเลยตามกฎหมายแล้ว จำเลยไม่สมประสงค์แต่ข้อที่ขอให้วินิจฉัยถึงค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นเท่านัน จึงอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาโดยเฉพาะประเด็นข้อนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาพิจารณาเห็นว่า ไม่มีเหตุให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ คดีย่อมไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะคืนค่าธรรมเนียมตามป.วิ.แพ่ง มาตรา 151

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าและการชำระค่าที่ดินเพิ่ม กรณีศาลไม่วินิจฉัยประเด็นเฉพาะเจาะจง
เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยถึงคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวกับสิทธิการเป็นผู้เช่าของจำเลยตามกฎหมายแล้วจำเลยไม่สมประสงค์แต่ข้อที่ขอให้วินิจฉัยถึงค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นจึงอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาโดยเฉพาะประเด็นข้อนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาพิจารณาเห็นว่าไม่มีเหตุให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่คดีย่อมไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะคืนค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
of 12