คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 24

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4081/2563

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายเครื่องกระสุนปืน การริบทรัพย์สิน และความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองเพื่อการค้า
เครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เพียงแต่จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีเครื่องกระสุนปืนจากนายทะเบียน จึงถือไม่ได้ว่าเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด ตาม ป.อ. มาตรา 32 ส่วน ป.อ. มาตรา 33 (1) เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ศาลในการลงโทษริบทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด โดยมุ่งหมายให้ริบทรัพย์สินที่ผู้กระทำความผิดได้ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ทั้งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำความผิดด้วย เมื่อจำเลยประกาศขายเครื่องกระสุนปืนให้ผู้สนใจทราบ แล้วจำเลยจัดส่งเครื่องกระสุนปืนให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อและได้รับเงินค่าเครื่องกระสุนปืนนั้น ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เครื่องกระสุนปืนของกลางจึงเป็นทรัพย์สินที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง สมควรให้ริบ ตาม ป.อ. มาตรา 33 (1)
โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แต่บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองสำหรับการค้า ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 24, 73 ซึ่งเป็นบทบัญญัติความผิดสำหรับผู้ที่มีหรือจำหน่ายอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยเฉพาะ อันมีอัตราโทษหนักกว่าผู้ที่กระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนทั่ว ๆ ไปซึ่งมิใช่เพื่อการค้า เมื่อจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนของกลางไว้ในครอบครองสำหรับการค้า โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนอื่นนอกจากที่มีไว้สำหรับการค้า จึงต้องลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 24, 73 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคสอง นั้น ไม่ถูกต้อง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14150/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีและจำหน่ายอาวุธปืน การลงโทษความผิดต่อเนื่องและอำนาจศาลแก้ไขปรับบท
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 24 เป็นบทบัญญัติความผิดสำหรับผู้ที่มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยเฉพาะ อันมีอัตราโทษหนักกว่าผู้ที่กระทำผิดฐานมีอาวุธปืนทั่ว ๆ ไปซึ่งมิใช่เพื่อการค้า เมื่ออาวุธปืนที่จำเลยมีและจำหน่ายสำหรับการค้านี้เป็นปืนจำนวนเดียวกันและไม่ปรากฏว่าจำเลยมีอาวุธปืนอื่นอีก จึงลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้ ส่วนการที่จำเลยมีอาวุธปืนจำนวนดังกล่าวสำหรับการค้าไว้ในความครอบครองของจำเลยและจำเลยได้จำหน่ายอาวุธปืนจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 24 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มีหรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่" และหากผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตราดังกล่าวจะต้องได้รับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 73 เช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่า แม้จำเลยจะมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า ก็ถือเป็นกรรมในบทมาตราเดียวกัน ไม่ต่างกัน เพราะการที่จำเลยจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าได้ จำเลยย่อมจะต้องมีอาวุธปืนนั้นไว้ในครอบครองอยู่ก่อนเมื่อจำเลยมีอาวุธปืนสำหรับการค้าและจำหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวไปทั้งหมดแล้วก็ไม่มีอาวุธปืนสำหรับการค้าเหลืออยู่ในความครอบครองของจำเลยอีก ดังนั้น การที่จำเลยมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกรรมเดียวตั้งแต่เริ่มมีจนเลิกมีคือจำหน่ายอาวุธปืนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าเพียงกรรมเดียว ปัญหาดังกล่าวแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3321/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนจำนวนมากบ่งชี้ถึงเจตนาเพื่อการค้า แม้ไม่มีหลักฐานอื่น
เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมอาวุธปืนของกลางรวม8 กระบอก แม้ไม่มีพยานหลักฐานอื่นแสดงว่าจำเลยมีอาวุธปืนเหล่านั้นไว้เพื่อการค้า แต่การมีอาวุธถึง 8 กระบอกนั้นแสดงอยู่ในตัวว่าน่าจะมิใช่มีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สิน หากแต่เป็นการมีไว้เพื่อการค้า จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3321/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนจำนวนมากบ่งชี้ถึงเจตนาค้าอาวุธ แม้ไม่มีหลักฐานอื่น
เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมอาวุธปืนของกลางรวม8 กระบอก แม้ไม่มีพยานหลักฐานอื่นแสดงว่าจำเลยมีอาวุธปืนเหล่านั้นไว้เพื่อการค้า แต่การมีอาวุธถึง 8 กระบอกนั้นแสดงอยู่ในตัวว่าน่าจะมิใช่มีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินหากแต่เป็นการมีไว้เพื่อการค้า จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2803/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีและจำหน่ายอาวุธปืนเพื่อการค้าเป็นกรรมเดียวต่อเนื่อง ไม่แยกกระทง
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 24 เป็นบทบัญญัติความผิดสำหรับผู้ที่มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยเฉพาะอันมีอัตราโทษหนักกว่าผู้ที่กระทำผิดฐานมีอาวุธปืนทั่วไปซึ่งไม่ใช่เพื่อการค้าเมื่ออาวุธปืนที่จำเลยมีและจำหน่ายสำหรับการค้านี้เป็นปืนจำนวนเดียวกันและไม่ปรากฏว่าจำเลยมีอาวุธปืนอื่นอีกจึงลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้
การมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 24 เป็นกรรมในบทมาตราเดียวกัน การที่จำเลยจะจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าได้ จำเลยย่อมจะต้องมีอาวุธปืนนั้นไว้ในครอบครองอยู่ก่อนเมื่อจำเลยมีอาวุธปืนสำหรับการค้าและจำหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวไปทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีอาวุธปืนสำหรับการค้าเหลืออยู่ในความครอบครองของจำเลยอีก ดังนั้นการที่จำเลยมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกรรมเดียว จำเลยจึงมีความผิดฐานจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2803/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีและจำหน่ายอาวุธปืนเพื่อการค้าเป็นกรรมเดียว
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 24 เป็นบทบัญญัติความผิดสำหรับผู้ที่มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยเฉพาะอันมีอัตราโทษหนักกว่าผู้ที่กระทำผิดฐานมีอาวุธปืนทั่วไป ซึ่งไม่ใช่เพื่อการค้าเมื่ออาวุธปืนที่จำเลยมีและจำหน่ายสำหรับการค้านี้เป็นปืนจำนวนเดียวกัน และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีอาวุธปืนอื่นอีกจึงลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้
การมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 24 เป็นกรรมในบทมาตราเดียวกัน การที่จำเลยจะจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าได้ จำเลยย่อมจะต้องมีอาวุธปืนนั้นไว้ในครอบครองอยู่ก่อนเมื่อจำเลยมีอาวุธปืนสำหรับการค้าและจำหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวไปทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีอาวุธปืนสำหรับการค้าเหลืออยู่ในความครอบครองของจำเลยอีก ดังนั้นการที่จำเลยมีและจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกรรมเดียว จำเลยจึงมีความผิดฐานจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดคนละกรรม
การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เป็นความผิดคนละตอนแยกกันได้จำเลยมีกระสุนปืนจำนวน 51 นัดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้จำหน่ายกระสุนปืนดังกล่าวไปจำนวน 24 นัด ดังนี้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดคนละกรรม
การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เป็นความผิดคนละตอนแยกกันได้ จำเลยมีกระสุนปืนจำนวน 51 นัด ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้จำหน่ายกระสุนปืนดังกล่าวไปจำนวน 25 นัด ดังนี้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาอาวุธปืนต้องระบุองค์ประกอบ 'เพื่อการค้า' หากมีเจตนาเช่นนั้น มิเช่นนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยบังอาจทำ ประกอบหรือซ่อมแซม อาวุธปืน โดยมิได้บรรยายฟ้องด้วยว่าสำหรับการค้าเป็นฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิด แม้โจทก์จะอ้างตัวบทกฎหมายมาในฟ้องและจำเลย รับสารภาพ ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยฐานทำ ประกอบหรือซ่อมแซมอาวุธปืน สำหรับการค้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2173/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สนับสนุนการค้าอาวุธปืน: การช่วยเหลือรับส่งอาวุธปืนโดยรู้เห็นเป็นใจ ถือเป็นความผิดฐานสนับสนุน
จำเลยที่ 4 รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนค้าอาวุธปืนเถื่อนโดยเคยรับจ้างเหมาขับเรือยนต์รับส่งจำเลยที่ 1 ไปเอาอาวุธปืนที่รวบรวมได้จากชาวบ้านมาไว้สำหรับการค้าหลายครั้ง ในครั้งที่เกิดเหตุจำเลยที่ 4 ก็รู้ว่าจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนเถื่อนที่เอามาจากชาวบ้านไปเพื่อค้า การที่จำเลยที่ 4 รู้แล้วยังใช้เรือเป็นพาหนะรับส่งจำเลยที่ 1อีกเช่นนี้ จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการกระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองสำหรับการค้า เป็นผู้สนับสนุนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ฟ้องว่าจำเลยที่ 4 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยคนอื่นทางพิจารณาได้ความว่าเป็นผู้สนับสนุนความผิด ศาลก็มีอำนาจพิพากษาลงโทษได้
of 2