พบผลลัพธ์ทั้งหมด 727 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกงโดยอ้างประกันตัว: โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายโดยชอบ
โจทก์ร่วมถูกควบคุมตัวอยู่ในข้อหาปลอมเอกสาร จำเลยหลอกโจทก์ร่วมว่าได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ศาล และขอเช่าโฉนดที่ดินของผู้มีชื่อไว้แล้ว เพื่อขอประกันตัวโจทก์ร่วมต่อศาล ขอเรียกเงินค่าเช่าโฉนด และค่าปรับโฉนดจากโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมได้จ่ายเงินให้จำเลยตามที่เรียกร้องเพราะหลงเชื่อตามที่จำเลยหลอกลวง มิได้มอบเงินให้จำเลยไปเพื่อให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ดังนี้ ถือว่า โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายโดยตรงในความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกงโดยอ้างประกันตัว: ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยชอบ
โจทก์ร่วมถูกควบคุมตัวอยู่ในข้อหาปลอมเอกสาร จำเลยหลอกโจทก์ร่วมว่าได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ศาล และขอเช่าโฉนดที่ดินของผู้มีชื่อไว้แล้ว เพื่อขอประกันตัวโจทก์ร่วมต่อศาล ขอเรียกเงินค่าเช่าโฉนด และค่าประกันโฉนดจากโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมได้จ่ายเงินให้จำเลยตามที่เรียกร้องเพราะหลงเชื่อตามที่จำเลยหลอกลวง มิได้มอบเงินให้จำเลยไปเพื่อไปให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ดังนี้ ถือว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายโดยตรงในความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2430/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนในการฟ้องคดีอาญา: เจตนาทุจริตและฐานความผิด
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยกับ ฮ. ได้กระบือ 3 ตัวของผู้เสียหายมาไว้ในครอบครอง แล้วจำเลยกับ ฮ. ร่วมกันเอากระบือของผู้เสียหายดังกล่าว ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย จำเลยทุจริต ใช้ จ้าง วาน ฮ. ไปหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อส่งมอบกระบือให้ ได้กระบือมาโดยเจตนาฉ้อโกงแต่แรก หรือมิฉะนั้นมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกกระบือที่ผู้เสียหายมอบให้ ภายหลังที่ได้กระบือมาครอบครอง ดังนี้เป็นการบรรยายว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง มิใช่กระทำความผิดสองฐานในคราวเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ไม่ขัดกัน จำเลยมีความตั้งใจอย่างไรเป็นเรื่องในใจของจำเลย ซึ่งจำเลยควรเข้าใจข้อหาได้ดีว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดอย่างใด ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันฉ้อโกงโดยใช้เอกสารปลอม มีเจตนาฉ้อโกงตั้งแต่ต้น เป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ขับรถร่วมกันนำรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุมาขายให้ผู้เสียหาย โดยจำเลยที่ 2 อ้างว่าเป็น นาง ส.เจ้าของรถ และจำเลยที่ 1 เป็นผู้มอบเอกสารในการโอนรถยนต์ให้แก่ผู้เสียหาย เอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอมและฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น แต่การที่จำเลยร่วมกันนำเอกสารปลอมมาใช้ก็โดยมีเจตนาที่จะฉ้อโกงผู้เสียหายนั่นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันใช้เอกสารปลอมเพื่อฉ้อโกง ผู้กระทำผิดมีเจตนาฉ้อโกงตั้งแต่แรกเป็นกรรมเดียว
จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ขับรถร่วมกันนำรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุมาขายให้ผู้เสียหาย โดยจำเลยที่ 2 อ้างว่าเป็น นางส. เจ้าของรถและจำเลยที่ 1 เป็นผู้มอบอำนาจในการโอนรถยนต์ให้แก่ผู้เสียหายเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอมและฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นแต่การที่จำเลยร่วมกันนำเอกสารปลอมมาใช้ก็โดยมีเจตนาที่จะฉ้อโกงผู้เสียหายนั่นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จ้างถางป่าผิดกฎหมาย ไม่ใช่ผู้เสียหาย แม้ถูกหลอกเอาเงิน
โจทก์จ้างจำเลยถางป่าผิด ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 แม้จำเลยหลอกลวงเอาเงินค่าจ้างโจทก์ โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะร่วมกระทำผิดกับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ปลอมเอกสารราชการเพื่อฉ้อโกง ผู้กระทำผิดไม่ต้องมีความผิดตามมาตรา 161 แต่ผิดฐานฉ้อโกงและใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ 1 เป็นเสมียนพนักงานที่ดินอำเภอ มีหน้าที่เก็บรักษาแบบพิมพ์ต่าง ๆ จ่ายแบบพิมพ์ น.ส. 3 หรือใบแทน ฯลฯ ไม่มีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร การที่จำเลยที่ 1 ปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์อละสัญญาขายฝากขึ้น จึงไม่ใช่กระทำโดยอาศัยที่ตนมีตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161
จำเลยทำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และทำสัญญาขายฝากปลอมขึ้น แล้วนำไปฉ้อโกงผู้เสียหายให้มอบเงินแก่จำเลยตามเอกสารปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266, 268, 341 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย 255
จำเลยทำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และทำสัญญาขายฝากปลอมขึ้น แล้วนำไปฉ้อโกงผู้เสียหายให้มอบเงินแก่จำเลยตามเอกสารปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266, 268, 341 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย 255
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานปลอมแปลงเอกสารราชการและการฉ้อโกง โดยจำเลยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจ
จำเลยที่ 1 เป็นเสมียนพนักงานที่ดินอำเภอ มีหน้าที่เก็บรักษาแบบพิมพ์ต่าง ๆ จ่ายแบบพิมพ์ น.ส.3 หรือใบแทน ฯลฯ ไม่มีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร การที่จำเลยที่ 1 ปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์และสัญญาขายฝากขึ้น จึงไม่ใช่กระทำโดยอาศัยที่ตนมีตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161
จำเลยทำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และทำสัญญาขายฝากปลอมขึ้น แล้วนำไปใช้ฉ้อโกงผู้เสียหายให้มอบเงินแก่จำเลยตามเอกสารปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266,268,341 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย 266
จำเลยทำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และทำสัญญาขายฝากปลอมขึ้น แล้วนำไปใช้ฉ้อโกงผู้เสียหายให้มอบเงินแก่จำเลยตามเอกสารปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266,268,341 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย 266
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทซื้อขายกระดาษกล่องและการออกเช็คที่ไม่มีเงินรองรับ ถือเป็นการผิดสัญญาซื้อขายและผิด พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหาย โดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน2513 ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวงจึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตนซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจากก.ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก.ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก.ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล.มาชำระหนี้ให้แก่ ก.ผู้เสียหายฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาทให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก.ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้นกรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้วจำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระดาษกล่องแล้วผิดนัดชำระหนี้ โดยใช้เช็คที่ไม่มีเงินรองรับ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหายโดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 ก. ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวง จึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตน ซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจาก ก. ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก. ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก. ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล. มาชำระหนี้ให้แก่ ก. ผู้เสียหาย ฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกล่องกระดาษจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท ให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก. ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก. ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงการบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้น กรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้ว จำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่