พบผลลัพธ์ทั้งหมด 727 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมหลายบทของเจ้าพนักงาน โดยใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดและเรียงกระทง
จำเลยกระทำผิดหลายกรรม แต่ละกรรมเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ดังนี้ ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลยทุกกรรม เรียงกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมหลายบท: ใช้บทที่มีโทษหนักสุด และกระทงความผิดเรียงกระทง
จำเลยกระทำผิดหลายกรรม แต่ละกรรมเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ดังนี้ ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลยทุกกรรม เรียกกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ร่วมกระทำผิดไม่มีอำนาจฟ้องคดีฉ้อโกง แม้ถูกหลอกให้ได้รับความเสียหาย
โจทก์ประสงค์จะได้ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมมาติดรถ และมอบเงินให้จำเลยไปจัดทำ ซือ หรือหาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมมาให้ ดังนี้ การทำหรือใช้ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมเป็นความผิดต่อกฎหมาย ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำผิดด้วย โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยชอย จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ที่ต้องการใช้ป้ายวงกลมปลอมไม่มีอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง เพราะเป็นผู้กระทำผิดร่วมด้วย
โจทก์ประสงค์จะได้ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมมาติดรถและมอบเงินให้จำเลยไปจัดทำ ซื้อ หรือหาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมมาให้ ดังนี้ การทำหรือใช้ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมเป็นความผิดต่อกฎหมาย ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำผิดด้วย โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยชอบ จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่แสดงเจตนาทุจริตหลอกลวงผู้อื่นให้ส่งมอบทรัพย์สินแก่ตน เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ไม่ใช่ลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ได้ความว่าจำเลยมาเอารถจักรยาน 2 ล้อ ของผู้เสียหายซึ่งฝากไว้กับนายจันทร์ อ้างว่าจะเอาไปให้ผู้เสียหาย นายจันทร์เห็นว่าจำเลยกับผู้เสียหายเป็นเพื่อนกันและมาฝากรถด้วยกันจึงมอบให้ไป แล้วจำเลยนำไปเป็นประโยชน์ของตน หาได้นำไปคืนให้ผู้เสียหายไม่ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตมาแต่แรกแล้วหลอกลวงให้นายจันทร์หลงเชื่อด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จจนได้รถคันนั้นไปจากนายจันทร์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ไม่ใช่ความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ศาลก็ต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินไปจากผู้อื่น การกระทำเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงมากกว่าลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ได้ความว่าจำเลยมาเอารถจักรยาน 2 ล้อของผู้เสียหายซึ่งฝากไว้กับนายจันทร์อ้างว่าจะเอาไปให้ผู้เสียหายนายจันทร์เห็นว่าจำเลยกับผู้เสียหายเป็นเพื่อนกันและมาฝากรถด้วยกันจึงมอบให้ไปแล้วจำเลยนำไปเป็นประโยชน์ของตน หาได้นำไปคืนให้ผู้เสียหายไม้ เห็นได้ว่าจเลยมีเจตนาทุจริตมาแต่แรกแล้วหลอกลวงให้นายจันทร์หลงเชื่อด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จจนได้รถคันนั่นไปจากนายจันทร์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ไม่ใช่ความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ศาลก็ต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง จำเลยเพียงไม่ปฏิบัติตามสัญญา
ฟ้องของโจทก์ตามบันทึกคำฟ้องและบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไรที่โจทก์อ้างว่าจำเลยหลอกลวงว่าสามารถนำยาสีฟันไปจำหน่ายได้ ก็ปรากฏตามฟ้องโจทก์เองว่าจำเลยสามารถจำหน่ายยาสีฟันได้จริง จึงไม่เป็นการหลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จ การที่จำเลยจำหน่ายยาสีฟันได้แล้วไม่นำเงินมาให้ผู้เสียหาย โจทก์ก็ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตที่จะไม่นำเงินที่จำหน่ายยาสีฟันได้มาให้ผู้เสียหายตั้งแต่แรก จึงเป็นเรื่องจำเลยไม่ปฏิบัติตามที่บอกผู้เสียหายไว้เท่านั้นกรณีเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่ไม่เข้าข่ายฉ้อโกง แม้จำเลยรับสารภาพ ต้องพิเคราะห์เจตนาทุจริตตั้งแต่แรก
ฟ้องของโจทก์ตามบันทึกคำฟ้องและบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจา โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไร ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยหลอกลวงว่าสามารถนำยาสีฟันไปจำหน่ายได้ ก็ปรากฏตามฟ้องโจทก์เองว่าจำเลยสามารถจำหน่ายยาสีฟันได้แล้วไม่นำเงินมาให้ผู้เสียหาย โจทก์ก็ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตที่จะไม่นำเงินที่จำหน่ายยาสีฟันได้มาให้ผู้เสียหายตั้งแต่แรก จึงเป็นเรื่องจำเลยไม่ปฏิบัติตามที่บอกผู้เสียหายไว้เท่านั้น กรณีเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาให้สินบนเจ้าพนักงานทำให้ผู้ให้ไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง
การที่ ส. มอบเงินให้จำเลยเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางไปติดต่อและนำไปให้เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อให้ช่วยเหลือในคดีที่ ส. ต้องหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น แม้เจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าวจะไม่มีตัวตนและจำเลยจะไม่ได้ไปติดต่อกับผู้ใดก็ตาม ก็ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญเพราะเจตนาของ ส. ที่ให้เงินจำเลยก็เพื่อจะให้เจ้าพนักงานช่วยเหลือตนที่ต้องหาคดีอาญาอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของ ส. เป็นการร่วมกับจำเลยในการนำสินบนไปให้เจ้าพนักงานอันอาจถือได้ว่า ส. เป็นผู้ใช้ให้จำเลยไปกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ส.จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีนี้ขึ้นว่ากล่าวในความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาให้สินบนเจ้าพนักงาน ทำให้ผู้ให้ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง
การที่ ส.มอบเงินให้จำเลยเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางไปติดต่อและนำไปให้เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อให้ช่วยเหลือในคดีที่ ส. ต้องหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น แม้เจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าวจะไม่มีตัวตนและจำเลยจะไม่ได้ไปติดต่อกับผู้ใดก็ตาม ก็ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญเพราะเจตนาของ ส.ที่ให้เงินจำเลยเพื่อจำะให้เจ้าพนักงานช่วยเหลือตนที่ต้องคดีอาญาอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของ ส.เป็นการร่วมกับจำเลยในการนำสินบนไปให้เจ้าพนักงานอันอาจถือได้ว่า ส.เป็นผู้ใช้ให้จำเลยไปกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ส.จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง