พบผลลัพธ์ทั้งหมด 149 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยทำสัญญาพ้นวิสัย: น้ำท่วมทำลายข้าวเปลือก ไม่ต้องรับผิดชดใช้
ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบมายังรับฟังไม่ได้ว่า หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้แจ้งให้ราษฎรในท้องที่ที่น้ำจะท่วมทราบถึงความรุนแรงของภาวะน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นโดยถูกต้องและทั่วถึงแล้ว ดังนั้นที่จำเลยที่ 1 เริ่มขนย้ายข้าวเปลือกไปเก็บรักษาที่อื่นก่อนถูกน้ำท่วมเพียง 3 วันจึงยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อหรือละเลยเพิกเฉยไม่ป้องกันความเสียหายก่อนที่น้ำจะท่วมโรงสี และการที่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถคืนข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ได้ย่อมเป็นการชำระหนี้ที่กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้และลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ จำเลยที่ 1 เป็นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการขายทอดตลาดส่งผลถึงกรรมสิทธิ์และอำนาจฟ้องคดีขับไล่
ภายหลังจากโจทก์ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์พิพาทมาจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี โจทก์ได้ยื่นฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ ส่วนจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต่อมาระหว่างคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดแล้วดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ คดีถึงที่สุด ผลของคำสั่งเท่ากับว่าไม่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท การโต้แย้งสิทธิของโจทก์จึงสิ้นสุดลง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการขายทอดตลาดส่งผลถึงกรรมสิทธิ์และอำนาจฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิ
เมื่อศาลชั้นต้นในคดีที่จำเลยร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลอด และคดีถึงที่สุดแล้ว ผลของคำสั่งเท่ากับว่าไม่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทการโต้แย้งสิทธิของโจทก์จึงสิ้นสุดลง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะเพิ่ง
ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและยกฟ้องโจทก์ได้
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะเพิ่ง
ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและยกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การอุทธรณ์ข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลล่าง และประเด็นที่ไม่ใช่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
จำเลยทั้งหกให้การแต่เพียงว่า บ. เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างแต่ใช้ชื่อห้างโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลยที่ 1 โจทก์มอบอำนาจให้ บ. เป็นผู้รับเงินค่าจ้างแทน จำเลยทั้งหกจึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์อีก และศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์ได้รับเงินค่าจ้างก่อสร้างปรับปรุงถนนตามฟ้องจากจำเลยที่ 1 ไว้ถูกต้องแล้วหรือไม่ และจำเลยทั้งหกและจำเลยร่วมต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด ที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่าโจทก์เชิดจำเลยร่วมขึ้นเป็นตัวแทนก็ดี หรือการที่โจทก์ลงลายมือชื่อของตนไว้ในหนังสือมอบอำนาจและให้จำเลยร่วมนำหนังสือดังกล่าวมากรอกข้อความในทำนองว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยร่วมเป็นผู้รับเงินแทน ถือเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของโจทก์ จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ก็ดี ล้วนแต่เป็นการอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง และไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยให้ก็เป็นการไม่ชอบ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8801/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดจากการชำระหนี้หลังสัญญาเลิก และดอกเบี้ยทดแทนการผิดสัญญา
จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2545 เป็นการรับสภาพหนี้ต่อโจทก์อันทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) และต้องเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2545 ตามมาตรา 193/15 วรรคสอง โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับทำการงานต่างๆ ให้แก่จำเลยรวมทั้งได้ออกเงินทดรองจ่ายแทนจำเลยไปก่อนมาใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าทำการงานและเงินที่ทดรองไปอันเป็นสิทธิเรียกร้องที่มีอายุความ 2 ปี ตามมาตรา 193/34 (7) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ซึ่งยังไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันดังกล่าว จึงยังไม่ขาดอายุความ