คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 324

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5445/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่า ณ ภูมิลำเนาเจ้าหนี้ และผลของการผิดนัดชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ตามสัญญาเช่าที่พิพาทระหว่างโจทก์และ ส. มิได้ระบุเรื่องสถานที่ชำระค่าเช่าไว้ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324บัญญัติว่าต้องชำระหนี้ ณ สถานที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาปัจจุบันของเจ้าหนี้ ฉะนั้นแม้ทางปฏิบัติ ส. จะให้คนไปเก็บค่าเช่าก็เป็นเพียงข้อปฏิบัติระหว่างโจทก์และ ส. เท่านั้น เมื่อจำเลยทั้งสองเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาท ทำให้จำเลยทั้งสองมีฐานะเป็นผู้ให้เช่า ข้อปฏิบัติระหว่างโจทก์และ ส. หาโอนมาด้วยเพราะไม่ใช่สิทธิและหน้าที่ซึ่งเกิดขึ้นตามสัญญาเช่า การที่โจทก์นำค่าเช่าไปวาง ณ สำนักงานวางทรัพย์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ชำระค่าเช่ายังภูมิลำเนาปัจจุบันของจำเลยแล้วโจทก์จึงผิดนัดชำระค่าเช่า สำนวนคดีที่สองซึ่งรวมพิจารณากับคดีนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิพากษาคดีในส่วนที่เกี่ยวกับสำนวนคดีที่สองให้เป็นโทษแก่โจทก์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับสำนวนคดีที่สอง จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3577/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่าที่ดินและตึกแถวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324 แม้มีข้อปฏิบัติเดิมก็ไม่ผูกพันผู้รับโอนสิทธิ
สัญญาเช่าที่ดินและตึกแถวที่จำเลยทำกับ ส. มิได้ระบุเรื่องการชำระค่าเช่าไว้ว่าให้ปฏิบัติอย่างไร การชำระค่าเช่าจำเลยจึงต้องชำระยังภูมิลำเนาปัจจุบันของ ส. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324 แม้ตามทางปฏิบัติ ส.จะเป็นผู้มาเก็บค่าเช่าจากจำเลยก็ตาม ก็เป็นเพียงข้อปฏิบัติระหว่าง ส. กับจำเลยเท่านั้นเมื่อ ส. โอนที่ดินและตึกแถวให้โจทก์มีผลให้โจทก์มีฐานะเป็นผู้ให้เช่า ข้อปฏิบัตินี้หาได้โอนมาด้วยไม่เพราะมิใช่สิทธิและหน้าที่ซึ่งเกิดขึ้นตามสัญญาเช่า ดังนั้นการที่จำเลยไม่ไปชำระค่าเช่ายังภูมิลำเนาปัจจุบันของโจทก์จึงเป็นผู้ผิดสัญญาเช่า โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบสินค้าบกพร่องและการคิดค่าปรับ สัญญาซื้อขายกำหนดให้สินค้าต้องใช้งานได้จริง
ตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลย โจทก์จะต้องส่งมอบเครื่องสูบน้ำรายการที่ 2 จำนวน 24 เครื่องให้จำเลยภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2521 โจทก์ส่งมอบในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2521 จำนวน 12 เครื่อง ส่วนอีก 12 เครื่อง โจทก์จำเลยยังโต้แย้งกันอยู่ว่า ส่งในวันที่ 3 หรือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2521 ปรากฏว่าเครื่องสูบน้ำทำงานไม่ได้ เนื่องจากการต่อท่อไม่ถูกต้อง โจทก์จึงขอรับเครื่องสูบน้ำทั้ง 24 เครื่องไปแก้ไขใหม่แล้วส่งกลับมาให้จำเลยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2522 กรรมการของจำเลยได้ตรวจรับเรียบร้อยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2522 สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยได้กำหนดไว้ในข้อ ซี 16 ว่า ถ้าผู้ขายไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ภายในกำหนด ผู้ซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าปรับจากผู้ขายได้ เป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 5 ของราคาสินค้าที่ยังไม่ได้ส่งมอบ เมื่อโจทก์ส่งของเกินกำหนดเวลาดังกล่าวก็ต้องถือว่าส่งมอบล่าช้าแล้ว และเมื่อปรากฏว่าเครื่องสูบน้ำที่โจทก์ส่งใช้งานไม่ได้จนโจทก์ต้องรับคืนไปแก้ไข และส่งมาให้จำเลยในวันที่ 16 ตุลาคม 2522 นั้นเอง ความล่าช้าเกิดขึ้นเพราะสินค้าของโจทก์บกพร่องใช้งานไม่ได้ โจทก์จึงต้องรับผิดในความล่าช้านั้น จะถือว่าโจทก์ส่งมอบเครื่องสูบน้ำแล้ว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2521 ไม่ได้ เพราะการส่งมอบเครื่องสูบน้ำของโจทก์ก็คือ การชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายนั่นเอง ตามสัญญานั้นโจทก์จะต้องส่งเครื่องสูบน้ำที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนและต้องเป็นเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในสภาพใช้งานได้ เมื่อเครื่องสูบน้ำขาดอุปกรณ์บางชิ้นและใช้งานไม่ได้ ดังนี้จำเลยย่อมมีสิทธิจะปฏิเสธไม่รับเครื่องสูบน้ำนั้นได้ โจทก์จะบังคับให้จำเลยรับเครื่องสูบน้ำดังกล่าวไว้หาได้ไม่ และจำเลยก็ไม่ยอมรับเครื่องสูบน้ำนั้นจนกระทั่งโจทก์ได้แก้ไขจนใช้งานได้แล้ว การที่โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำมาให้จำเลยในตอนแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2521 จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งมอบอันเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ต้องถือว่าโจทก์เพิ่งส่งมอบเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2522 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในสภาพใช้งานได้ แม้สัญญาซื้อขายจะไม่ได้ระบุว่า การส่งมอบจะต้องทำอย่างไร จึงจะถือว่าสมบูรณ์ แต่การตีความว่า โจทก์มีสิทธิส่งเครื่องสูบน้ำที่ใช้งานไม่ได้นั้น ย่อมไม่เป็นไปตามความประสงค์ในทางสุจริตแต่อย่างไรก็ดี จำเลยมีส่วนทำให้การส่งมอบล่าช้าอยู่เหมือนกัน โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำให้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2521 จำเลยเพิ่งตรวจสอบเมื่อเดือนสิงหาคม 2521 จึงทราบว่าเครื่องสูบน้ำขาดอุปกรณ์และต่อมาจึงทราบว่าใช้งานไม่ได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเสียหายอะไรเป็นพิเศษจากการส่งมอบล่าช้า จึงเห็นสมควรลดค่าปรับลงจากที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้อีกซึ่งศาลมีอำนาจลดได้เองตามบทบัญญัติ ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ข้อที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ให้เป็นประเด็นในศาลล่างแล้ว ข้อต่อสู้ดังกล่าวของจำเลยก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนอีกด้วย จึงฟังไม่ขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4107/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการชำระค่าเช่าและค่าเปลี่ยนชื่อผู้เช่าช่วง การบอกเลิกสัญญาเช่าจึงไม่ชอบ
ตามสัญญาเช่าไม่ได้ระบุว่าการชำระค่าเช่าให้ปฏิบัติต่อกันอย่างไร แต่การที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงกันว่าให้ผู้ให้เช่าเป็นฝ่ายไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าและปฏิบัติต่อกันเช่นนี้ตลอดมา จึงฟังได้ว่าผู้ให้เช่ามีหน้าที่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าไม่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่า จะถือว่าผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าอันเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1735/2517) ตามบันทึกต่อท้ายสัญญาเช่ามีใจความว่า ผู้เช่ามีสิทธิจะให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปได้แต่จะต้องเสียค่าเปลี่ยนชื่อให้ผู้เช่าครั้งละ 4,000 บาท คำว่า 'เปลี่ยนชื่อ' ในสัญญาข้อนี้ จึงย่อมหมายถึงการไปจดทะเบียนการเช่าเปลี่ยนชื่อผู้เช่าจากผู้เช่าเป็นชื่อผู้เช่าช่วง ในกรณีผู้เช่าให้เช่าช่วงโดยไม่มีการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าเป็นชื่อผู้เช่าช่วงตามที่จดทะเบียนการเช่าไว้ ผู้เช่าก็ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนชื่อให้แก่ผู้ให้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4107/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่าและการเช่าช่วง: หน้าที่ผู้ให้เช่าไปเก็บค่าเช่า และการเสียค่าเปลี่ยนชื่อเฉพาะกรณีจดทะเบียน
ตามสัญญาเช่าไม่ได้ระบุว่าการชำระค่าเช่าให้ปฏิบัติต่อกันอย่างไรแต่การที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงกันว่าให้ผู้ให้เช่าเป็นฝ่ายไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าและปฏิบัติต่อกันเช่นนี้ตลอดมา จึงฟังได้ว่าผู้ให้เช่ามีหน้าที่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าไม่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่า จะถือว่าผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าอันเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1735/2517)
ตามบันทึกต่อท้ายสัญญาเช่ามีใจความว่า ผู้เช่ามีสิทธิจะให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปได้แต่จะต้องเสียค่าเปลี่ยนชื่อให้ผู้เช่าครั้งละ 4,000 บาท คำว่า 'เปลี่ยนชื่อ' ในสัญญาข้อนี้ จึงย่อมหมายถึงการไปจดทะเบียนการเช่าเปลี่ยนชื่อผู้เช่าจากผู้เช่าเป็นชื่อผู้เช่าช่วงในกรณีผู้เช่าให้เช่าช่วงโดยไม่มีการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าเป็นชื่อผู้เช่าช่วงตามที่จดทะเบียนการเช่าไว้ ผู้เช่าก็ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนชื่อให้แก่ผู้ให้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบสินค้า การคำนวณค่าปรับจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ และขอบเขตการส่งมอบที่ถูกต้องตามสัญญา
สัญญาซื้อขายมีความว่า ผู้ขายจะส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อ ณ กรมขนส่งทหารอากาศ ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และสิ่งของที่ซื้อนั้นผู้ขายสั่งเข้ามาจากต่างประเทศในราคาที่ไม่รวมภาษีขาเข้าและภาษีอื่น ๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับการขอยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้าว่า เมื่อศุลกากรปล่อยของแล้วให้ผู้ขายนำเก็บในคลังของผู้ซื้อทันที ห้ามนำเข้าไปเก็บในที่เก็บของผู้ขาย และการเปิดหีบห่อจะทำได้ต่อเมื่อผู้ซื้อยินยอมเท่านั้น เห็นได้ว่าเมื่อสิ่งของนั้นถูกส่งจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทย ผู้ขายไม่มีโอกาสตรวจสอบความสมบูรณ์เรียบร้อยของสิ่งของก่อนส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อเลย ดังนี้ เมื่อผู้ขายนำสิ่งของไปส่งที่กรมขนส่งทหารอากาศย่อมถือได้ว่าผู้ขายส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้ผู้ซื้อแล้ว โดยหาจำต้องให้กรรมการตรวจรับของยอมรับไว้ใช้ในราชการเสียก่อนจึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบตามสัญญาไม่
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ "หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบสินค้าและการคำนวณค่าปรับสัญญาซื้อขาย: การส่งมอบสินค้าที่กรมขนส่งทหารอากาศถือเป็นการส่งมอบตามสัญญา
สัญญาซื้อขายมีความว่า ผู้ขายจะส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อ ณ กรมขนส่งทหารอากาศ ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และสิ่งของที่ซื้อนั้นผู้ขายสั่งเข้ามาจากต่างประเทศในราคาที่ไม่รวมภาษีขาเข้าและภาษีอื่นๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับการขอยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้าว่า เมื่อศุลกากรปล่อยของแล้วให้ผู้ขายนำเก็บในคลังของผู้ซื้อทันที ห้ามนำเข้าไปเก็บในที่เก็บของผู้ขาย และการเปิดหีบห่อจะทำได้ต่อเมื่อผู้ซื้อยินยอมเท่านั้น เห็นได้ว่าเมื่อสิ่งของนั้นถูกส่งจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทย ผู้ขายไม่มีโอกาสตรวจสอบความสมบูรณ์เรียบร้อยของสิ่งของก่อนส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อเลย ดังนี้ เมื่อผู้ขายนำสิ่งของไปส่งที่กรมขนส่งทหารอากาศย่อมถือได้ว่าผู้ขายส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้ผู้ซื้อแล้ว โดยหาจำต้องให้กรรมการตรวจรับของยอมรับไว้ใช้ในราชการเสียก่อนจึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบตามสัญญาไม่
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ"หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่าที่ดิน: กำหนดเวลาและสถานที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์เช่าที่ดินของจำเลย ในสัญญาไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับสถานที่ชำระค่าเช่า โจทก์ต้องเป็นผู้นำค่าเช่าไปชำระให้แก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324และจะต้องชำระภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 204

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2577/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: หน้าที่ชำระค่าเช่าของผู้เช่า แม้เจ้าของมิได้ส่งคนมาเก็บ
ตามข้อ 3 แห่งสัญญาเช่าซื้อ ระบุให้จำเลยที่ 1 ผู้เช่านำค่าเช่าไปชำระแก่โจทก์ผู้ให้เช่า ณ สถานที่ประกอบธุรกิจของโจทก์ภายในวันที่ 10 ของทุก ๆ เดือน ทั้งยังระบุต่อไปว่า ผู้เช่าสัญญาว่าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ผู้เช่าจะอ้างเหตุที่เจ้าของมิได้ส่งคนไปเก็บค่าเช่าขึ้นเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความรับผิดไม่ชำระค่าเช่าหรือชำระค่าเช่าให้ช้ากว่ากำหนดไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งหมายความว่าจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องนำค่าเช่าซื้อไปชำระให้โจทก์ แม้ในทางปฏิบัติโจทก์จะส่งพนักงานมาเก็บค่าเช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 แล้วต่อมาโจทก์จะไม่ส่งพนักงานมาเก็บค่าเช่าซื้อก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จะต้องนำค่าเช่าซื้อไปชำระแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจะนำเหตุที่โจทก์ไม่ส่งพนักงานไปเก็บค่าเช่าซื้อมาเป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดว่า จำเลยที่ 1 มิได้ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อไม่ได้เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ใช้เงินค่าเช่าซื้อสองคราวติด ๆ กันโจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าต้องมีเหตุจากการผิดสัญญาเช่าโดยตรง การชำระค่าเช่าทางอื่นไม่ถือผิดนัด
การที่ผู้ให้เช่าไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าตลอดมา เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ให้เช่ามิได้ถือเด็ดขาดว่าผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าณ สำนักงานหรือที่อยู่ของผู้ให้เช่าตามสัญญาเช่า เมื่อผู้ให้เช่าไม่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าจะว่าผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าไม่ได้ต่อมามีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าผู้เช่าขอชำระค่าเช่าที่ค้างชำระให้แก่ผู้รับโอน แต่ผู้รับโอนไม่ยอมรับชำระ ผู้เช่าจึงส่งค่าเช่านั้นทางธนาณัติไปให้ผู้รับโอน ผู้รับโอนก็ไม่รับอีก ดังนี้ ถือว่าผู้เช่ามิได้ผิดนัดชำระค่าเช่า
การที่ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่า อาจกระทำได้ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่า หรือทำผิดหน้าที่ตามกฎหมายในเรื่องเช่าหรือในกรณีอื่นซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการเช่าโดยตรง ส่วนการที่ผู้เช่าไม่ไปให้ความยินยอมในการที่ผู้ให้เช่ารังวัดแบ่งแยกที่ดินที่เช่านั้นไม่เกี่ยวกับการเช่าจึงไม่เป็นเหตุที่ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเช่าได้และกรณีนี้ก็มิใช่เรื่องที่ผู้เช่าต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 553 แต่อย่างใด
of 6