พบผลลัพธ์ทั้งหมด 151 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่วิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ไม่อาจฟ้องร้องลงโทษอีกฝ่ายได้
โจทก์จำเลยวิวาททำร้ายกันคู่วิวาทจะฟ้องให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของทรัพย์มีสิทธิฟ้องคดีรับของโจร แม้ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการยักยอก
ในความผิดฐานรับของโจรถือได้ว่าเจ้าของทรัพย์นั้นเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะฟ้องคดีในความผิดฐานนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของทรัพย์มีสิทธิฟ้องคดีรับของโจร แม้ไม่ได้ถูกโจรกรรมโดยตรง
ในความผิดฐานรับของโจรถือได้ว่าเจ้าของทรัพย์นั้นเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะฟ้องคดีในความผิดฐานนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ไม่ทันในชั้นศาล และการร้องทุกข์ของผู้เช่าเรือที่ได้รับความเสียหาย
ข้อ ก.ม.ที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123,124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121 และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญามาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123,124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121 และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญามาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้น และการร้องทุกข์ในคดีอาญาเกี่ยวกับเรือ
ข้อกฎหมายที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสารจำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสาร จำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและการหมิ่นประมาท: การกระทำต้องมุ่งต่อผู้เสียหายโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตาม ม.119 นั้น ผู้กระทำผิดต้องกระทำแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายดังนี้ เมื่อจำเลยกระทำการต่อสู้หรือขัดขวางแก่พนักงานเทศบาล มิได้กระทำต่อโจทก์(อดีตนายกเทศมนตรี) เป็นส่วนตัว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย คำว่า"มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้น หาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาท: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามมาตรา 119 นั้นผู้กระทำผิดต้องกระทำแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายดังนี้ เมื่อจำเลยกระทำการต่อสู้หรือขัดขวางแก่พนักงานเทศบาล มิได้กระทำต่อโจทก์(อดีตนายกเทศมนตรี)เป็นส่วนตัว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำว่า "มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้นหาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำว่า "มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้นหาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจโจทก์ฟ้องอาญา, การวิวาทต่อเนื่อง, การลดโทษฐานยั่วโทสะ, และการยกฟ้อง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีย์วิวาทกัน ผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.244,60, ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทษะ จึงแก้ให้ลดโทษตามม.55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกา เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาฉะเพาะคดีเดี่ยว คู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึ่งที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกัน ศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฉะเพาะคดีทีศาลลงโทษบทหนักนี้ คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.244,60, ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทษะ จึงแก้ให้ลดโทษตามม.55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกา เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาฉะเพาะคดีเดี่ยว คู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึ่งที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกัน ศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฉะเพาะคดีทีศาลลงโทษบทหนักนี้ คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป