พบผลลัพธ์ทั้งหมด 172 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2965/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค: การลงวันที่เช็คไม่ตรงตามข้อตกลงวงแชร์ทำให้ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยเป็นผู้เล่นแชร์วงเดียวกัน มีข้อตกลงกันว่าผู้เล่นแชร์ที่ประมูลได้ต้องออกเช็คสั่งจ่ายเงินฉบับละ30,000 บาท โดยไม่ลงวันสั่งจ่ายให้หัวหน้าวงแชร์นำไปเก็บเงินค่าแชร์และมอบเช็คนั้นให้ผู้เล่นแชร์ที่ยังประมูลไม่ได้เมื่อถึงเดือนที่ผู้เล่นแชร์ประมูลได้ก็ให้ลงวันที่ 27 ของเดือนปีที่ประมูลได้ในเช็คที่รับไว้แล้วนำไปเรียกเก็บเงิน เช็คดังกล่าวจึงเป็นเช็คที่มีวันสั่งจ่ายที่ถูกต้องแท้จริงเป็นวันที่ 27 ของเดือนปีที่ผู้ทรงเช็คประมูลได้ เมื่อจำเลยประมูลได้แล้ววงแชร์ล้ม ผู้ร่วมเล่นแชร์ที่ยังประมูลไม่ได้และได้รับเช็คของจำเลยไว้ได้มีการจับสลากกันว่าผู้ใดจะนำเช็คไปเรียกเก็บเงินในเดือนใด โจทก์จับสลากได้และจะต้องลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คเป็นวันที่ 27 มิถุนายนหรือกรกฎาคม 2523 ตามข้อตกลง แต่โจทก์กลับลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คเป็นวันที่ 14 มกราคม 2525 จึงเป็นวันสั่งจ่ายที่ไม่ถูกต้องแท้จริง เป็นการไม่สุจริตและเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ถูกต้องแท้จริงในเช็คคดีโจทก์จึงขาดอายุความ คดีที่ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่ถ้าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวน ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็คในคดีล้มละลาย: เช็คขาดอายุความทำให้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้และหักกลบลบหนี้ไม่ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 102 กรณีจะหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายได้นั้น หนี้นั้นต้องเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ เมื่อเช็คที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างเพื่อขอหักกลบลบหนี้กับหนี้ของตนนั้นลงวันที่สั่งจ่ายเงินในวันที่ 3 พฤษภาคม 2522 แต่จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2523 ในวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เช็คนั้นจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 และเป็น หนี้ที่ จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็คดังกล่าวเพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94(1)เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องก็จะขอให้หักกลบลบหนี้ตามมาตรา 102 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายต้องเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องได้ก่อนศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์
ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 102 กรณีจะหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายได้นั้น หนี้นั้นต้องเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้เมื่อเช็คที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างเพื่อขอหักกลบลบหนี้กับหนี้ของตนนั้นลงวันที่สั่งจ่ายเงินในวันที่ 3 พฤษภาคม 2522แต่จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2523 ในวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เช็คนั้นจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002และเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็คดังกล่าวเพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94(1)เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ผู้ร้องก็จะขอให้หักกลบลบหนี้ตาม มาตรา 102หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3658/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เช็คไร้ประโยชน์ทางแพ่งและอาญา การลงวันที่ย้อนหลังทำให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
การที่จำเลยเขียนกรอกข้อความลงในเช็คผู้ถือซึ่งมิได้ลงวันที่ไว้เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2515 ซึ่งย้อนหลังไปจากวันที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขอแลกเงินจากจำเลยเป็นเวลาถึง 8 ปีเศษ ซึ่งธนาคารชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะถือเป็นความผิดของผู้ทรงที่ยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันออกเช็ค และผู้ทรงเช็คก็หมดสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยผู้สั่งจ่าย หากจำเลยสู้ว่าฟ้องพ้นอายุความหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 (2) และ1002การกระทำของจำเลยย่อมแสดงว่ามีเจตนาที่จะให้เสียหายและไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารเช็คในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3658/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เช็คไร้ประโยชน์ การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
การที่จำเลยเขียนกรอกข้อความลงในเช็คผู้ถือซึ่งมิได้ลงวันที่ไว้เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2515 ซึ่งย้อนหลังไปจากวันที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขอแลกเงินจากจำเลยเป็นเวลาถึง 8 ปีเศษ ซึ่งธนาคารชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะถือเป็นความผิดของผู้ทรงที่ยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันออกเช็ค และผู้ทรงเช็คก็หมดสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยผู้สั่งจ่าย หากจำเลยสู้ว่าฟ้องพ้นอายุความหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991(2) และ1002การกระทำของจำเลยย่อมแสดงว่ามีเจตนาที่จะให้เสียหายและไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารเช็คในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนเช็คผู้ถือ การสลักหลังเป็นประกัน และสิทธิของผู้ทรง
เช็คพิพาทจำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยการส่งมอบ ให้กันโดยไม่จำต้องสลักหลัง การที่โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทขายลดให้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นเพียงประกัน(อาวัล) จำเลยผู้สั่งจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921,989 เมื่อเช็คพิพาท เรียกเก็บเงินไม่ได้ ธนาคารผู้รับซื้อเช็คจึงหักเงินจากบัญชีโจทก์และส่งเช็คกลับคืนมาให้โจทก์ครอบครองโจทก์จึงเป็นผู้ถือ ย่อมเป็นผู้ทรงตามมาตรา 904จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายภายในอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1002. กรณีไม่เข้ามาตรา 1003 ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน เพราะโจทก์ มิใช่ผู้สลักหลังตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผู้ถือ สลักหลังเป็นประกัน (อาวัล) ผู้ถือมีสิทธิฟ้องภายใน 1 ปี
เช็คพิพาทจำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยการส่งมอบให้กันโดยไม่จำต้องสลักหลัง การที่โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทขายลดให้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) จำเลยผู้สั่งจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921, 989 เมื่อเช็คพิพาทเรียกเก็บเงินไม่ได้ ธนาคารผู้รับซื้อเช็คจึงหักเงินจากบัญชีโจทก์และส่งเช็คกลับคืนมาให้โจทก์ครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ถือ ย่อมเป็นผู้ทรงตาม มาตรา 904 จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายภายในอายุความ 1 ปีตามมาตรา 1002 กรณีไม่เข้ามาตรา 1003 ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน เพราะโจทก์มิใช่ผู้สลักหลังตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกเงินจากเช็ค: ผู้โอนเช็คไม่ใช่ผู้สลักหลังลอย มีสิทธิฟ้องในฐานะผู้ทรงเช็คภายในหนึ่งปี
โจทก์โอนเช็คพิพาทไปโดยมิได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทโจทก์จึงมิใช่ผู้สลักหลังลอยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 919 เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกเงินจากเช็ค: การโอนเช็คโดยไม่ลงลายมือชื่อทำให้มีฐานะเป็นผู้ทรงเช็ค
โจทก์โอนเช็คพิพาทไปโดยมิได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท โจทก์จึงมิใช่ผู้สลักหลังลอยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 919 เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค: นับวันเริ่มทำงานใหม่เมื่อวันครบกำหนดเป็นวันหยุด
ผู้ทรงเช็คมีสิทธิฟ้องผู้สั่งจ่ายให้รับผิดใช้เงินตามเช็คได้ภายในเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดใช้เงิน เมื่อวันออกเช็คตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาซึ่งเป็นวันหยุดราชการและวันหยุดของธนาคารโจทก์ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ อายุความจึงเริ่มนับในวันรุ่งขึ้นของ วันออกเช็ค และเมื่อวันสุดท้ายซึ่งครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาและติดต่อกับวันเสาร์วันอาทิตย์ตามลำดับ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันที่เริ่มทำงานใหม่ได้
วันหยุดราชการเป็นข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปจึงไม่จำต้องบรรยายฟ้องหรือนำสืบแสดงเหตุผลให้ปรากฏ และข้อที่ว่าถ้าวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเป็นวันหยุดราชการ ให้นับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วย เป็นข้อกฎหมายซึ่งศาลรับรู้เองและศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
วันหยุดราชการเป็นข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปจึงไม่จำต้องบรรยายฟ้องหรือนำสืบแสดงเหตุผลให้ปรากฏ และข้อที่ว่าถ้าวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเป็นวันหยุดราชการ ให้นับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วย เป็นข้อกฎหมายซึ่งศาลรับรู้เองและศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้