คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 289

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 364 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1262/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์และการใช้ความรุนแรงจนถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาแก้ไขบทลงโทษตามความผิดที่แท้จริง
จำเลยทั้งสี่ปล้นบ้านเจ้าทรัพย์ โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ขึ้นไปปล้นบนบ้านส่วนจำเลยที่ 1 คอยเฝ้าระวังเหตุการณ์อยู่ริมรั้วขณะจำเลยกำลังทำการปล้นอยู่บนบ้านส่วนจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงพวกเจ้าทรัพย์คนหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 340 วรรคท้าย จำเลยนอกนั้นไม่รู้เห็นในการที่จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตาย จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ห้ามมิให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย เว้นแต่โจทก์จะได้อุทธรณ์ทำนองนั้น มิได้บัญญัติห้ามมิให้ศาลปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1262/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาในคดีปล้นทรัพย์และการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ
จำเลยทั้งสี่ปล้นบ้านเจ้าทรัพย์ โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ขึ้นไปปล้นบนบ้านส่วนจำเลยที่ 1 คอยเฝ้าระวังเหตุการณ์อยู่ริมรั้วขณะจำเลยกำลังทำการปล้นอยู่บนบ้านส่วนจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงพวกเจ้าทรัพย์คนหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 340 วรรคท้าย จำเลยนอกนั้นไม่รู้เห็นในการที่จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตาย จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ห้ามมิให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย เว้นแต่โจทก์จะได้อุทธรณ์ทำนองนั้น มิได้บัญญัติห้ามมิให้ศาลปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การใช้ดุลยพินิจศาล
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การลดโทษจากคำรับสารภาพ
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111-112/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้ใช้ให้กระทำผิดต้องรับโทษเสมือนตัวการ การฎีกาเรื่องลดโทษเป็นดุลยพินิจ
จำเลยที่ 2 กับพวกรับจ้างจำเลยที่ 1 ไปฆ่าผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กับพวกได้เตรียมอาวุธปืนไปดักยิงผู้เสียหาย แล้วยิงผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดนี้ต้องรับโทษเสมือนหนึ่งเป็นตัวการด้วย
การที่จำเลยฎีกาว่าควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยตามประมวลผลกฎหมายอาญามาตรา 76 นั้น เป็นการฎีกาคัดค้านดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ ถือเสมือนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การของผู้ตายก่อนเสียชีวิตเป็นพยานหลักฐานได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานคำตายของผู้ตายที่ยืนยันตัวผู้กระทำผิดต่อหน้าพยานก่อนสิ้นใจ รับฟังได้แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พยานจากแผนการร่วมและการแสดงออกก่อนลงมือ
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตาย ชวนผู้ตายพูดคุยด้วย และเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พยานหลักฐานแผนการร่วมกันและคำพูดก่อนลงมือ
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตายชวนผู้ตายพูดคุยด้วยและเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบร่วมกันฆ่าโดยเจตนาประกอบกับข่มขืนโทรมหญิง: ตัวการร่วม
จำเลยทั้งสามมีเจตจำนงร่วมกันที่จะเข้าแย่งผู้เสียหายจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ดังนั้น การที่จำเลยคนหนึ่งเข้ากำจัดขัดขวางผู้ตายด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็ย่อมอยู่ในวิถีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของจำเลยทุกคน ซึ่งจำเลยทุกคนอาจเล็งเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วยกัน
การที่จำเลยใช้ไม้ไผ่ตันมีรูเล็ก ๆ ขนาดนิ้วก้อย ยาวประมาณ2 ศอก โตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ทีถูกศีรษะเป็นบาดแผลถึงขนาดทำให้กะโหลกศีรษะแตกแยกเป็น 4 เสี่ยงมีเลือดออกในและรอบ ๆ กะโหลกศีรษะมาก แสดงให้เห็นว่า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้เป็นเจตนาฆ่าให้ตาย
แย่งหญิงไปจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ตายขัดขวางจึงทำร้ายผู้ตายถึงตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (6)
of 37