คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 289

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 364 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และการพิจารณาความทารุณโหดร้ายในการลงโทษ
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่า ร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใดจะถือเอาเป็นการฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่าเอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองและไม่เข้าข่ายทารุณโหดร้าย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษา
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่าร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใด จะถือเอาเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่า เอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้าย ยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดและขัดขวางเจ้าพนักงาน ศาลฎีกามีอำนาจปรับบทและกำหนดโทษตามความเหมาะสม
ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมและแย่งปืนกับจำเลยที่ 1 อยู่นั้น จำเลยที่ 2 เข้าช่วยแย่งปืนจากตำรวจ เมื่อตำรวจจับจำเลยที่ 2 ได้จำเลยที่ 2 ได้ร้องบอกให้จำเลยที่ 1 ขว้างระเบิดมือใส่ตำรวจดังนี้ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกระทงหนึ่ง และใช้ให้ฆ่าเจ้าพนักงานอีกกระทงหนึ่ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 บอกให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดมือขว้างเจ้าพนักงาน ก็เท่ากับโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ใช้ให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดมือขว้างเจ้าพนักงานเพื่อจะฆ่าให้ตาย (แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างมาตรา 84 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม)ถือได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้ใช้แล้ว
จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ฆ่าเจ้าพนักงาน แต่จำเลยที่ 1 ไม่กระทำตามจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 84 วรรค 2 ซึ่งต้องระวางโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิตกฎหมายไม่ได้บัญญัติโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิตไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 52(1) มาใช้เป็นหลักในการกำหนดโทษ กล่าวคือ ให้ลดโทษประหารชีวิตเสีย 1 ใน 3 ก่อน คงเหลือโทษเพียง 2 ใน 3 โดยให้จำคุกขั้นต่ำ 16 ปี แล้วคำนวณเอาเพียงครึ่งหนึ่งของอัตราโทษ 2 ใน 3 ผลลัพธ์ก็คือ ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 8 ปี
โจทก์ไม่ได้ฎีกาในทำนองขอให้เพิ่มโทษ ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้นหาได้ไม่
ศาลล่างปรับบทกฎหมายไม่ถูกต้อง แม้โจทก์จะไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตามศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดทางอาญา แม้ผู้อื่นไม่ลงมือทำ ผู้ใช้ก็มีความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมและแย่งปืนกับจำเลยที่ 1 อยู่นั้น จำเลยที่ 2 เข้าช่วยแย่งปืนจากตำรวจ เมื่อตำรวจจับจำเลยที่ 2 ได้จำเลยที่ 2 ได้ร้องบอกให้จำเลยที่ 1 ขว้างระเบิดมือใส่ตำรวจ ดังนี้ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกระทงหนึ่ง และใช้ให้ฆ่าเจ้าพนักงานอีกกระทงหนึ่ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 บอกให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดมือขว้างเจ้าพนักงาน ก็เท่ากับโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ใช้ให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดขว้างเจ้าพนักงานเพื่อจะฆ่าให้ตาย (แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างมาตรา 84 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม) ถือได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้ใช้แล้ว
จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ฆ่าเจ้าพนักงาน แต่จำเลยที่ 1 ไม่กระทำตามจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 84 วรรค 2 ซึ่งต้องระวางโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิต กฎหมายไม่ได้บัญญัติโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิตไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 (1) มาใช้เป็นหลักฐานในการกำหนดโทษ กล่าวคือ ให้ลดโทษประหารชีวิตเสีย 1 ใน 3 ก่อน คงเหลือโทษเพียง 2 ใน 3 โดยให้จำคุกขั้นต่ำ 16 ปี แล้วคำนวณเอาเพียงครึ่งหนึ่งของอัตราโทษ 2 ใน 3 ผลลัพธ์ก็คือ ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 8 ปี
โจทก์ไม่ได้ฎีกาในทำนองขอให้เพิ่มโทษ ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้นหาได้ไม่
ศาลล่างปรับบทกฎหมายไม่ถูกต้อง แม้โจทก์จะไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตาม ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฆ่าโดยทารุณโหดร้ายจากการปล้นทรัพย์ ศาลฎีกายืนโทษประหารชีวิตจำเลย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเองเป็นผู้ใช้มีดเชือดคอเด็กหญิงอายุ 5 ขวบถึงแก่ความตาย และจำเลยยังร่วมกับจำเลยอื่นกระทืบเด็กชายอายุ 8 เดือน ทั้งได้ใช้ผ้าอุดจมูกจนหายใจไม่ออกตาย นอกจากนี้ยังใช้ยาพิษกรอกปากกับใช้มีดเชือดคอมารดาของเด็กทั้งสองผู้ตายจนหลอดเสียงขาดเพื่อจะฆ่าให้ตายด้วย การกระทำของจำเลยดังกล่าวนี้จึงถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้ายระหว่างปล้นทรัพย์ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเองเป็นผู้ใช้มีดเชือดคอเด็กหญิงอายุ 5 ขวบถึงแก่ความตาย และจำเลยยังร่วมกับจำเลยอื่นกระทืบเด็กชายอายุ 8 เดือน ทั้งได้ใช้ผ้าอุดจมูกจนหายใจไม่ออกตาย นอกจากนี้ยังใช้ยาพิษกรอกปากกับใช้มีดเชือดคอมารดาของเด็กทั้งสองผู้ตายจนหลอดเสียงขาด เพื่อจะฆ่าให้ตายด้วย การกระทำของจำเลยดังกล่าวนี้จึงถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน: เหตุโกรธแค้นจากการถูกลูกชายผู้ตายฆ่าบิดา
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจง เมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้ว บุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้น ดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไม่ไตร่ตรอง: การกระทำผิดเกิดจากความโกรธแค้นขณะเห็นผู้ตาย ไม่ได้มีเจตนายิงมาก่อน
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจงเมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้วบุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้นดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำโดยมีเหตุโกรธเคืองและเตรียมอาวุธ
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบ จำเลยก็พากันไป ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคน พอจำเลยที่ 1,2 กับพวก เห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำร่วมกัน การเตรียมอาวุธ และเจตนาฆ่า
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบจำเลยก็พากันไปต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคนพอจำเลยที่ 1,2 กับพวกเห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
of 37