คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทัศนีย์ ธรรมเกณฑ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5671/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานก่อนฟ้องคดี: ความชอบด้วยกฎหมายและการให้โอกาสจำเลยซักค้าน
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้สืบพยานไว้ก่อนโดยคำร้องอ้างเหตุถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 237 ทวิ ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานให้และเห็นว่าไม่อาจตั้งทนายความให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ทัน จึงชอบด้วยเหตุผล ทั้งตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ทำในวันนั้นปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้แจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบและให้โอกาสซักถามพยานได้ ซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่คัดค้าน โดยจำเลยที่ 1 เองก็ได้ซักถามพยานด้วยแต่จำเลยอื่นไม่ติดใจถามค้านตามบันทึกท้ายคำเบิกความ ส่วนที่ศาลชั้นต้นไม่ซักถามพยานนั้นเป็นดุลพินิจที่ทำได้โดยชอบ หากเห็นว่าคำเบิกความชัดเจนแล้ว ดังนี้การสืบพยานปากผู้เสียหายไว้ก่อนฟ้องคดีของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5671/2552 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานก่อนฟ้องคดี และความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจ, จับคนเรียกค่าไถ่, กรรโชก, ทำร้ายร่างกาย
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้สืบพยานไว้ก่อนวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นสืบพยานปากดังกล่าว โดยคำร้องอ้างเหตุถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 237 ทวิ ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานให้และเห็นว่าไม่อาจตั้งทนายความให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ทัน จึงชอบด้วยเหตุผล ทั้งตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ทำในวันนั้นยังปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้แจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบและให้โอกาสซักถามพยานได้ ซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่คัดค้าน โดยจำเลยที่ 1 เองก็ได้ซักถามพยานด้วยแต่จำเลยอื่นไม่ติดใจถามค้านตามบันทึกท้ายคำเบิกความ ส่วนที่ศาลชั้นต้นไม่ซักถามพยานนั้นเป็นดุลพินิจที่ทำได้โดยชอบ หากเห็นว่าคำเบิกความชัดเจนแล้ว ดังนี้ การสืบพยานปากผู้เสียหายไว้ก่อนฟ้องคดีของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5671/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานก่อนฟ้องคดี: ชอบด้วยเหตุผลเมื่อโจทก์มีเหตุตามกฎหมาย และจำเลยไม่คัดค้าน
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้สืบพยานไว้ก่อนวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นสืบพยานปากดังกล่าว โดยคำร้องอ้างเหตุถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 237 ทวิ การที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานให้และเห็นว่าไม่อาจตั้งทนายความให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ทันจึงชอบด้วยเหตุผล ทั้งในวันนั้นศาลชั้นต้นได้แจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบและให้โอกาสซักถามพยานได้ ซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่คัดค้านโดยจำเลยที่ 1 เองก็ได้ซักถามพยานด้วย แต่จำเลยอื่นไม่ติดใจถามค้านส่วนที่ศาลชั้นต้นไม่ซักถามพยานเป็นดุลพินิจที่ทำได้โดยชอบ ดังนี้การสืบพยานปากผู้เสียหายไว้ก่อนฟ้องคดีจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้รถจักรยานจอดล้มขวางถนน ไม่ถือเป็นยานพาหนะตามมาตรา 340 ตรี
การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ต้องเป็นการใช้ตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะที่เป็นเครื่องนำไป หรือเครื่องขับขี่ แต่การใช้รถจักรยานจอดล้มขวางถนนให้ผู้เสียหายหยุดรถจักรยานยนต์พาหนะซึ่งใช้เป็นเครื่องนำผู้ขับขี่เคลื่อนที่ไป จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้รถจักรยานจอดขวางถนนไม่ใช่การใช้ยานพาหนะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดตามความใน ป.อ. มาตรา 340 ตรี ต้องเป็นการใช้ตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะที่เป็นเครื่องนำไป หรือเครื่องขับขี่ แต่การใช้รถจักรยานของกลางจอดล้มขวางถนนไว้ไม่ใช่เป็นการใช้รถจักรยานของกลางตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะซึ่งใช้เป็นเครื่องนำผู้ขับขี่เคลื่อนที่ไปจำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5170/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำคุกต่อจากคดีที่ยังไม่ถึงที่สุด หากจำเลยเป็นบุคคลเดียวกัน
จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาของศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุก 3 ปี จำเลยยังต้องถูกบังคับตามคำพิพากษาอยู่ แม้คดีดังกล่าวจะยังไม่ถึงที่สุดและอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ ศาลก็สามารถนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษในคดีดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4993/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงและหักกลบลบหนี้: ต้องเป็นทรัพย์สินของโจทก์ที่จำเลยครอบครอง และหนี้ต้องมีจำนวนแน่นอน
แม้จำเลยจะได้รับความเสียหายจำนวน 900,000 บาท เนื่องจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโจทก์ซึ่งจำเลยจ้างไปรักษาความปลอดภัยให้แก่อาคารชุดของจำเลย ซึ่งจำเลยได้ทวงถามค่าเสียหายดังกล่าวแล้วแต่โจทก์เพิกเฉย จำเลยก็ไม่มีสิทธิยึดหน่วงค่าจ้างที่จำเลยค้างชำระโจทก์จำนวน 401,761.46 บาท เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ที่จำเลยครอบครองอยู่ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 241
ความเสียหายที่โจทก์ต้องรับผิดชอบต่อจำเลยยังไม่ยุติ จะต้องตกลงกันอีก ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ดังนี้ แม้เป็นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาจ้างฉบับเดียวกัน ก็ต้องถือว่าสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีต่อโจทก์ยังมีข้อต่อสู้อยู่ตาม ป.พ.พ. 344 จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิขอหักกลบลบหนี้ได้ เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงและจะขอหักกลบลบหนี้ไม่ได้ดังกล่าวข้างต้น จำเลยจึงโต้แย้งว่ายังไม่ผิดนัดมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4993/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงและหักกลบลบหนี้: จำเลยไม่มีสิทธิยึดค่าจ้างโจทก์เพื่อชดใช้ความเสียหายที่ไม่ยุติ และไม่อาจหักกลบลบหนี้ได้
จำเลยค้างชำระค่าจ้างโจทก์ และมีความเสียหายที่โจทก์ต้องรับผิดชอบต่อจำเลยตามสัญญาจ้าง เงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ที่จำเลยครอบครองอยู่ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 241 จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงไว้
ความเสียหายที่โจทก์ต้องรับผิดชอบต่อจำเลยยังไม่ยุติ จะต้องตกลงกันอีกซึ่งยังไม่แน่ว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ แม้เป็นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาจ้างฉบับเดียวกันก็ต้องถือว่าสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีต่อโจทก์ยังมีข้อต่อสู้อยู่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 344 จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิขอหักกลบลบหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์/ฎีกาไม่ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันในศาลอุทธรณ์
อุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ให้เหตุผลโดยชัดแจ้งว่า ที่ศาลชั้นต้นยกเหตุต่างๆ ที่แสดงว่า ง. ไม่ได้ยกที่ดินพิพาทให้โจทก์นั้นไม่ชอบอย่างไร พยานหลักฐานอื่นที่แสดงว่าโจทก์ได้รับมอบที่ดินพิพาทในวันแต่งงานดังที่โจทก์อ้าง โจทก์ก็ไม่ได้ระบุไว้ในอุทธรณ์ ดังนั้น อุทธรณ์โจทก์ข้อนี้จึงไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์รับพิจารณาประเด็นดังกล่าวจึงไม่ชอบ ดังนั้น ฎีกาโจทก์ที่ว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักและเหตุผลน่าเชื่อว่า ง. ได้ยกที่ดินพิพาทให้โจทก์จริง จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2484/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าจ้างซ่อมรถยนต์: การซ่อมรถยนต์ที่เอาประกันภัยให้บริษัทประกันภัยถือเป็นการทำเพื่อกิจการของลูกหนี้
รถยนต์ที่โจทก์ซ่อมให้จำเลยเป็นรถยนต์ของผู้อื่นที่เอาประกันไว้กับจำเลยและรถยนต์ของบุคคลภายนอกที่จำเลยต้องรับผิดชอบตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งผู้อื่นทำไว้กับจำเลยมิใช่รถยนต์ของจำเลยเอง ดังนี้ การที่โจทก์ซ่อมรถยนต์ให้จำเลยจึงเป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายลูกหนี้นั่นเอง ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (1) ตอนท้าย อันมีอายุความห้าปีตามมาตรา 193/33 (5) คดีจึงไม่ขาดอายุความ
of 7