คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 247

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8725/2563

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์คดีอาญา-แพ่ง: การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนตามคดีอาญา และสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาตาม ป.อ. มาตรา 44/1 ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 ดังนั้น สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทนในคดีส่วนแพ่งต้องถือคดีส่วนอาญาเป็นหลัก หากคดีส่วนอาญาขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา คดีส่วนแพ่งก็ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์หรือฎีกา ฉะนั้น จำเลยจึงไม่จำต้องขออนุญาตฎีกาในคดีส่วนแพ่ง และการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะคดีส่วนอาญา และให้ส่งคำร้องขออนุญาตฎีกาในคดีส่วนแพ่งดังกล่าวมาให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่งจึงเป็นการไม่ชอบ จึงให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นเฉพาะในส่วนที่ให้ส่งคำร้องขออนุญาตฎีกาในคดีส่วนแพ่งมาให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง และเมื่อคดีส่วนอาญาขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรมีคำสั่งใหม่เป็นรับฎีกาในคดีส่วนแพ่งของจำเลย และหยิบยกขึ้นวินิจฉัยโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนลงไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2125/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการบังคับคดีต้องยื่นภายใน 15 วันนับแต่วันที่ทราบข้อเท็จจริง การไม่ยื่นตามกำหนดทำให้คำร้องไม่ชอบ
คำร้องของจำเลยที่ 1 กล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ต้องเสียหายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง การยื่นคำร้องของจำเลยที่ 1 จึงต้องกระทำก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้นตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสาม เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 179 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2546 โดยให้งดการขายที่ดินโฉนดเลขที่ 2067 และ 2068 ไว้เนื่องจากไม่มีผู้เสนอราคา จำเลยที่ 1 ย่อมทราบดีว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องนำที่ดินโฉนดเลขที่ 2067 และ 2068 ออกขายทอดตลาดในครั้งต่อไปตามประกาศของเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งประกาศให้ทราบทั่วกันล่วงหน้าก่อนแล้ว ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2546 จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 ช้ากว่าสิบห้าวัน นับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้นแล้ว คำร้องของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสาม ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบด้วยมาตรา 246 และ 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฎีกาและการแจ้งคำสั่งศาล: จำเลยไม่ทราบคำสั่ง จึงไม่ถือเป็นการทิ้งฎีกา
แม้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 1 ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาได้ และมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ในวันเดียวกันก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ในภายหลัง ซึ่งไม่ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยที่ 1 ได้ลงนามทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นที่รับฎีกาและให้จำเลยที่ 1 นำส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้โจทก์เพื่อแก้ฎีกา ทั้งไม่ปรากฏว่ามีหมายแจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ยังไม่ทราบคำสั่งรับฎีกาของศาลชั้นต้นที่กำหนดให้จำเลยที่ 1 ดำเนินการส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 7 วันนั้นจะถือว่าจำเลยที่ 1 เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด อันเป็นการทิ้งฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2),247ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการเรียกดอกเบี้ยเกิน 5 ปี แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและชำระหนี้บางส่วน
ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเพียง5 ปี ในชั้นฎีกาโจทก์จะขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันกู้ถึงวันฟ้องซึ่งเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2921/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องหนี้จากการไถ่ถอนจำนองและดอกเบี้ย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ไม่เพิ่มดอกเบี้ยตามที่โจทก์ขอ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จำเลยเป็นฝ่ายฎีกา โจทก์มิได้ฎีกาแต่กล่าวมาในคำแก้ฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิได้ดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มดอกเบี้ยให้โจทก์หาได้ไม่ เพราะไม่มีคำขอและคำฟ้องฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิสามีทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ผู้อื่นได้ หากทรัพย์สินนั้นมีราคาไม่เกินส่วนแบ่งของตน และมีเหตุผลสมควร
สามีมีสิทธิทำพินัยกรรมยกสินบริคณห์ให้แก่บุคคลอื่นได้ในเมื่อทรัพย์ที่ยกให้นั้นมีราคาไม่เกินส่วนของสามี และทรัพย์นั้นมีพฤติการณ์ที่ศาลเห็นว่าควรตกได้เป็นส่วนแบ่งของสามี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2498)
ฎีกาที่ตั้งต้นเรื่องเอาที่การคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยยกข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นกล่าวอ้างไว้ชัดเจนแล้วย่อมเป็นฎีกาที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกา: ผลของการไม่จัดการเมื่อศาลสั่งให้ดำเนินการ
จำเลยยื่นฎีกา เจ้าพนักงานกองหมายนำหมายนัดและสำเนาฎีกาส่งแก่โจทก์แต่ส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า"ให้จำเลยทราบและจะจัดการอย่างไร" ทนายจำเลยได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 10 มกราคม 2494 และจนถึงวันที่29 มกราคม 2494 ก็มิได้แถลงให้ศาลทราบ จนศาลชั้นต้นส่งสำนวนมาศาลฎีกา พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามความในมาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามมาตรา 132 ประกอบมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน, การผ่อนผันชำระหนี้, และการมอบอำนาจฟ้องร้อง: หลักเกณฑ์และข้อยกเว้น
สัญญาค้ำประกันไม่จำต้องระบุสถานที่ทำและไม่ต้องมีชื่อพยานและผู้เขียน
ค้ำประกันหนี้ไนอนาคตและไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ เจ้าหนี้ผ่อนไห้ลูกหนี้ชำระเปนงวด ๆ และไห้หาประกันมาไหม่อีกได้ไม่ทำไห้ผู้ค้ำประกันเดิมหลุดพ้น
ข้อบังคับของบริสัทไห้อำนาดกัมการคนเดียวลงนามแทนบริสัทได้ ก็ย่อมมีอำนาดลงนามผู้เดียวมอบอำนาดไห้ผู้อื่นฟ้องความได้ตาม ม. 1144 ไม่เกี่ยวกับ ม. 801
ข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวไนสาลล่าง จะยกขึ้นดีกาไม่ได้
คำแถลงไนสาลล่างนั้นไม่ถือว่าเปนประเด็นที่ยกขึ้นว่ากล่าวไนชั้นั้นเพราะคำแถลงเปนเพียงอธิบายประเด็นแห่งคดี
การที่จะอ้างพยานเปนครั้งแรกไนสาลอุธรน์ได้หรือไม่นั้น หากอ้างได้ก็หยู่ไนดุลพินิจของสาลอุธรน์ที่จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้
พรึติการน์ที่ถือว่าไม่ควนอนุญาตไห้พยานหลักถานที่พึ่งค้นพบไนชั้นสาลอุธรน์.