คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 138

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 176 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเจ้าพนักงานมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในขณะเกิดเหตุ
นายตำรวจกลับจากงานแต่งงานเกิดโต้เถียงกับจำเลย ไม่ได้ทำการตามหน้าที่ และไม่แสดงบัตรให้จำเลยดู จำเลยไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ ไม่เป็นการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกล่าวคำไม่สุภาพ ขณะโต้เถียงกันไม่เป็นดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319-320/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจเมื่อผู้ต้องหาส่งเสียงขัดขวางการจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า เมื่อเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดต่อสู้ขัดขวาง กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับว่าเขาต้องถูกจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319-320/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมเจ้าพนักงานเมื่อผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุมในความผิดซึ่งหน้า
เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า เมื่อเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดต่อสู้ขัดขวาง กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะต้องถูกจับว่าเขาต้องถูกจับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีอาญาที่มีโทษสูง: ศาลต้องพิจารณาโทษของแต่ละกระทงความผิดก่อนตัดสินว่าอุทธรณ์ได้หรือไม่
การอุทธรณ์คดีอาญาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ศาลจะต้องพิจารณาอัตราโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายสำหรับข้อหาแต่ละกระทงความผิดว่าต้องห้ามอุทธรณ์หรือไม่ ความผิดตามมาตรา 138 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่โจทก์ฟ้องเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกับการกระทำในกระทงควมผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ซึ่งมีอัตราโทษในบทหนักตามมาตรา 289, 80 ถึงจำคุกตลอดชีวิต ฉะนั้น จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีอาญาต้องพิจารณาโทษหนักสุด หากความผิดเป็นกรรมเดียวกับโทษหนักกว่า ย่อมไม่ขัดต่อการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
การอุทธรณ์คดีอาญาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ศาลจะต้องพิจารณาอัตราโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายสำหรับข้อหาแต่ละกระทงความผิดว่าต้องห้ามอุทธรณ์หรือไม่ ความผิดตามมาตรา 138 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่โจทก์ฟ้องเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกับการกระทำในกระทงความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ซึ่งมีอัตราโทษในบทหนักตามมาตรา 289,80 ถึงจำคุกตลอดชีวิต ฉะนั้น จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุบทลงโทษ และการยกเว้นโทษตามกฎหมายใหม่ ศาลฎีกาพิพากษาแก้
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานและทำลายบัตรประจำตัวข้าราชการ แต่ในคำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 138, 140, 188 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วยนั้น ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 138, 140, 188 ไม่ได้ และการที่โจทก์อ้างประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษมาด้วย ก็ไม่พอจะอนุมานว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่มิได้อ้าง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุบทลงโทษ และการยกเว้นโทษตามกฎหมายอาวุธปืน
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานและทำลายบัตรประจำตัวข้าราชการ แต่ในคำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 138,140,188 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วยนั้น ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 138,140,188 ไม่ได้ และการที่โจทก์อ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษมาด้วยก็ไม่พอจะอนุมานว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่มิได้อ้าง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมเจ้าพนักงาน: การกระทำความผิดซึ่งหน้า แม้เจ้าพนักงานทำหน้าที่อื่น
จำเลยไม่ยอมให้ร้อยตำรวจโท ว. จับกุม ได้ชกต่อยร้อยตำรวจโท ว.ที่จะเข้าจับกุมจำเลยซึ่งทำร้ายผู้อื่นซึ่งหน้า แม้ขณะเกิดเหตุร้อยตำรวจโท ว. จะเป็นร้อยเวรสอบสวนทำหน้าที่สอบสวน และไปนั่งในร้านอาหารที่เกิดเหตุ แต่ร้อยตำรวจโท ว.ก็เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ย่อมมีอำนาจจับกุมจำเลยซึ่งกระทำผิดซึ่งหน้า ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 การที่ร้อยตำรวจโท ว.ทำหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน และไปนั่งในร้านขายอาหาร ไม่ทำให้ ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และทำร้ายเจ้าพนักงานเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมเจ้าพนักงานเมื่อพบเห็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า แม้ไม่ได้อยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่สอบสวนโดยตรง
จำเลยไม่ยอมให้ร้อยตำรวจโท ว.จับกุม ได้ชกต่อยร้อยตำรวจโท ว.ที่จะเข้าจับกุม จำเลยซึ่งทำร้ายผู้อื่นซึ่งหน้า แม้ขณะเกิดเหตุร้อยตำรวจโท ว. จะเป็นร้อยเวรสอบสวนทำหน้าที่ สอบสวน และไปนั่งในร้านอาหารที่เกิดเหตุ แต่ร้อยตำรวจโท ว.ก็เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ย่อมมีอำนาจจับกุมจำเลยซึ่งกระทำความผิดซึ่งหน้าได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 การที่ร้อยตำรวจโท ว.ทำหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน และไปนั่งในร้านขายอาหาร ไม่ทำให้ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และทำร้ายเจ้าพนักงานเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2186/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางการจับกุมโดยเจ้าพนักงาน แม้ไม่มีหมายค้น แต่เจ้าของบ้านยินยอม และผู้ใหญ่บ้านร่วมตรวจค้น ไม่ถือเป็นเหตุให้พ้นผิด
แม้จ่าสิบตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านราษฎรเพื่อจับคนร้ายโดยไม่มีหมายค้นแต่ บ. เจ้าของบ้านที่ถูกค้นยินยอมให้ค้นได้ จำเลยซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่และได้ร่วมค้นด้วยแต่กลับขัดขวางการจับกุมคนร้าย จะอ้างว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่มีหมายค้นมาเป็นเหตุให้ตนพ้นผิดหาได้ไม่
of 18