พบผลลัพธ์ทั้งหมด 126 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการยกให้โดยหน้าที่ vs. เสน่หา และการหมิ่นประมาทบุพการี ส่งผลต่อการเพิกถอนการให้ได้
จำเลยมิได้ให้การไว้ว่า กรณีเป็นการยกให้โดยหน้าที่ศีลธรรมไม่ใช่ยกให้โดยเสน่หาเช่นที่จำเลยยกขึ้นอ้างในฎีกาของจำเลยคดีไม่มีประเด็นตามที่จำเลยฎีกา แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาทถือเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่จำเลยด่าโจทก์ว่า 'แม่เป็นหมา แม่ไม่มีศีลธรรม' นั้น เมื่อโจทก์เป็นบุพการีของจำเลย การที่จำเลยด่าโจทก์ว่าเป็นหมาเท่ากับด่าโจทก์ว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานและเป็นคนไม่มีศีลธรรม ถือได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ได้
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ได้ให้อภัยจำเลยแล้วตามข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นอ้างในฎีกา เป็นข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ในศาลชั้นต้นและไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่จำเลยด่าโจทก์ว่า 'แม่เป็นหมา แม่ไม่มีศีลธรรม' นั้น เมื่อโจทก์เป็นบุพการีของจำเลย การที่จำเลยด่าโจทก์ว่าเป็นหมาเท่ากับด่าโจทก์ว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานและเป็นคนไม่มีศีลธรรม ถือได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ได้
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ได้ให้อภัยจำเลยแล้วตามข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นอ้างในฎีกา เป็นข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ในศาลชั้นต้นและไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3627/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายหลังการฟ้องเพิกถอนการให้โดยเสน่หา จำเลยซื้อโดยสุจริต
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 โดยเสน่หา แล้วจำเลยที่ 1 โอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 โจทก์ฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยที่ 1 ประพฤติเนรคุณ และขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 โดยอ้างว่าเป็นการสมยอมกันเพื่อฉ้อฉลโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 รับซื้อที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต โจทก์ก็ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 คืนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณากับมิได้อุทธรณ์ คงอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังนี้ คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องโจทก์ตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 คืนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณากับมิได้อุทธรณ์ คงอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังนี้ คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องโจทก์ตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3627/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายหลังการให้โดยเสน่หาและการประพฤติเนรคุณ ศาลจำกัดขอบเขตการเพิกถอนเฉพาะจำเลยที่ 1
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 โดยเสน่หา แล้วจำเลยที่ 1 โอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 โจทก์ฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยที่ 1 ประพฤติเนรคุณ และขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 โดยอ้างว่าเป็นการสมยอมกันเพื่อฉ้อฉลโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 รับซื้อที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต โจทก์ก็ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 คืนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณากับมิได้อุทธรณ์ คงอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังนี้ คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องโจทก์ตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 คืนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณากับมิได้อุทธรณ์ คงอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังนี้ คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องโจทก์ตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ที่ดินไม่มีเอกสิทธิ ผลผูกพันตามเจตนา การส่งมอบ และสิทธิครอบครอง
โจทก์ให้ที่ดินที่ไม่มีหนังสือสำคัญหรือเอกสารสิทธิสำหรับที่แก่จำเลยแม้มิได้มีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีผลใช้บังคับ เพราะโจทก์ได้ส่งมอบและสละเจตนาครอบครองให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 แล้ว โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ให้ ถ้าจำเลยประพฤติเนรคุณโจทก์ย่อมฟ้องขอถอนคืนการให้ได้จะอ้างว่าการยกให้เป็นโมฆะ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาได้ไม่ เพราะที่ดินชนิดนี้ผู้เป็นเจ้าของมีแต่เพียงสิทธิครอบครองหามีกรรมสิทธิ์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ: ฟ้องไม่ถึงสามีจำเลยจำกัดสิทธิเรียกร้องเฉพาะส่วนของโจทก์
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ โดยบรรยายว่าทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินให้สามีจำเลยด้วย เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องสามีจำเลยว่า ประพฤติเนรคุณขอให้เรียกถอนคืนการให้ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสามีจำเลย จึงต้องพิพากษาให้จำเลยโอนคืนเฉพาะส่วนที่โจทก์ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยเท่านั้น เมื่อเรียกถอนคืนการให้ได้เฉพาะส่วนของจำเลย ก็ไม่มีเหตุที่จะกำหนดค่าเสียหายเพิ่มให้โจทก์รวมถึงส่วนที่ยกให้สามีจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องถอนคืนที่ดินเนื่องจากประพฤติเนรคุณ: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้ไม่ได้ระบุเวลาขอความช่วยเหลือ
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดิน เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์พยายามพบและพูดกับจำเลยเพื่อขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิต จำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบและไม่ยอมพูดด้วย แม้มิได้กล่าวว่าโจทก์ไปขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยเมื่อใด โจทก์ยากจนเมื่อใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าเป็นคู่ความแทนที่ และการประพฤติเนรคุณเพื่อถอนคืนการให้
จำเลยที่ 1 ตาย ท. เป็นบุตรจำเลยที่ 1 ซึ่งเกิดแต่บุตรสาวของโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นภริยาจำเลยที่ 1 ฉะนั้นการที่จะให้ ท. เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 1 แม้อาจกระทำได้แต่เห็นได้ว่าจะไม่เป็นการรักษาประโยชน์ของทายาทอื่น เพราะ ท. เป็นญาติใกล้ชิดกับโจทก์ซึ่งเป็นปรปักษ์กับจำเลยที่ 1 จึงสมควรให้จำเลยที่ 2 เข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลย ที่ 1
ผู้รับให้พูดด่าผู้ให้ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ว่า โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทำไว้หรือเปล่า ปลาร้าทำใส่ไหไว้มึงก็สนุกกินสนุกแดก ข้าวทำใส่ยุ้งไว้ก็กิน ไม่ได้ทำงานทำการ และยังด่าว่าคำอื่น ๆ อีก พร้อมกับขับไล่ผู้ให้ ถ้อยคำดังกล่าวเป็นถ้อยคำในทำนองว่าผู้ให้เป็น คนดีแต่กิน ไม่ทำงานทำการ จึงมิใช่แต่เพียงคำกล่าวที่ไม่สมควรเท่านั้นแต่เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง อันถือได้ว่า เป็นการประพฤติเนรคุณเป็นเหตุให้ผู้ให้เรียกถอนคืนการให้ได้
ผู้รับให้พูดด่าผู้ให้ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ว่า โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทำไว้หรือเปล่า ปลาร้าทำใส่ไหไว้มึงก็สนุกกินสนุกแดก ข้าวทำใส่ยุ้งไว้ก็กิน ไม่ได้ทำงานทำการ และยังด่าว่าคำอื่น ๆ อีก พร้อมกับขับไล่ผู้ให้ ถ้อยคำดังกล่าวเป็นถ้อยคำในทำนองว่าผู้ให้เป็น คนดีแต่กิน ไม่ทำงานทำการ จึงมิใช่แต่เพียงคำกล่าวที่ไม่สมควรเท่านั้นแต่เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง อันถือได้ว่า เป็นการประพฤติเนรคุณเป็นเหตุให้ผู้ให้เรียกถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมยกทรัพย์เนื่องจากความเสียหายจากคำหมิ่นประมาทและการฉ้อฉล
จำเลยที่ 1 ด่าโจทก์ว่าโจทก์ประพฤติตัวไม่ดี เคยมีชู้ ถือได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามความหมายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) โจทก์ถอนคืนการให้ได้และเมื่อจำเลยที่ 1 ทำนิติกรรมยกที่พิพาทที่โจทก์ยกให้นั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ต่อไปเพื่อจะไม่ให้โจทก์เรียกคืนโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 หาจำเป็นที่โจทก์จะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในขณะที่จำเลยที่ 1 ทำนิติกรรมนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การสืบพยานนอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณโดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยด่าว่าโจทก์และทำร้ายร่างกายโจทก์จนได้รับบาดเจ็บเป็นการเนรคุณโจทก์ ดังนี้ ข้อที่จำเลยไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์เพราะความยากไร้ของโจทก์ และจำเลยสามารถที่จะให้ได้ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของการประพฤติเนรคุณนั้น โจทก์มิได้บรรยายยกเป็นประเด็นในคำฟ้อง แม้โจทก์จะได้นำสืบในข้อนี้ก็เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษายกฟ้องคดีถอนคืนการให้ที่ดิน กรณีจำเลยไม่ได้ประพฤติเนรคุณและแจ้งความยักยอกเป็นสิทธิชอบธรรม
โจทก์ไม่เคยขออะไรจากจำเลย และโจทก์ไม่อยากได้ของของ จำเลย จำเลยบอกจะส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ ขออย่าฟ้องร้องกันจำเลยชวนโจทก์ไปอยู่ด้วยเพื่อเลี้ยงดูแต่โจทก์ไม่ยอมไปต้องการเอาที่พิพาท คืนจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์บอกปัด ไม่ให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์
เมื่อบิดาจำเลยตาย จำเลยซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์ได้ไปทวง โฉนดพิพาทกับโจทก์โจทก์ว่าไม่รู้ไม่เห็นจำเลยจึงไปปรึกษาเจ้าพนักงานที่ดิน และที่สุดไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ยักยอกโฉนดที่พิพาท การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิอันชอบธรรม ไม่เป็นการหมิ่นประมาทต่อโจทก์อย่างร้ายแรง
เมื่อบิดาจำเลยตาย จำเลยซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์ได้ไปทวง โฉนดพิพาทกับโจทก์โจทก์ว่าไม่รู้ไม่เห็นจำเลยจึงไปปรึกษาเจ้าพนักงานที่ดิน และที่สุดไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ยักยอกโฉนดที่พิพาท การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิอันชอบธรรม ไม่เป็นการหมิ่นประมาทต่อโจทก์อย่างร้ายแรง