คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 156

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 287 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสาบานตัวขอเป็นคนอนาถาต้องกระทำด้วยตนเอง ผู้รับมอบอำนาจสาบานแทนไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 บัญญัติให้ ผู้จะฟ้องหรือต่อสู้คดีอย่างคนอนาถายื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง พร้อมกับคำฟ้อง ฯลฯ และสาบานตัวให้คำชี้แจงว่า ตน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาล แสดงให้เห็นว่าการสาบานตัวดังกล่าวผู้ฟ้องหรือผู้ต่อสู้คดีจะต้องสาบานด้วยตนเอง จะมอบให้บุคคลอื่นสาบานตัวแทนไม่ได้ เพราะ การสาบานตัวเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่จะต้องกระทำด้วยตนเองผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องหรือต่อสู้คดีจึงสาบานตัว แทนคู่ความผู้มอบอำนาจไม่ได้ เพราะผู้รับมอบอำนาจมิใช่ผู้ฟ้องหรือ ผู้ต่อสู้คดีตามความหมายแห่ง มาตรา 156 (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2527)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนสาบานตัวตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกระบวนการพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยมิได้มีการสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดถ้อยคำสาบานไว้และส่งสำเนาไปให้อีกฝ่ายหนึ่งพร้อมกับคำฟ้อง เป็นเรื่องที่โจทก์และเจ้าหน้าที่ศาลมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม ฉะนั้น กระบวนพิจารณาในเรื่องการขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาทั้งหมดตลอดจนคำสั่งหรือคำพิพากษาในเรื่องนี้จึงไม่ชอบ เมื่อความปรากฏขึ้นในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่ให้ถูกต้องแล้วไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการสาบานตัวตามกฎหมาย มิฉะนั้นกระบวนการพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยมิได้มีการสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดถ้อยคำสาบานไว้และส่งสำเนาไปให้อีกฝ่ายหนึ่งพร้อมกับคำฟ้องเป็นเรื่องที่โจทก์และเจ้าหน้าที่ศาลมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมฉะนั้นกระบวนพิจารณาในเรื่องการขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาทั้งหมดตลอดจนคำสั่งหรือคำพิพากษาในเรื่องนี้จึงไม่ชอบเมื่อความปรากฏขึ้นในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่ให้ถูกต้องแล้วไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3470/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาล: ต้องมีพฤติการณ์พิเศษตามมาตรา 23 วางหลักเกณฑ์การพิจารณา
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1กับอนุญาตให้จำเลยที่ 3 ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมบางส่วน และกำหนดเวลาให้จำเลยทั้งสองเสียค่าธรรมเนียม จำเลยทั้งสองไม่ชำระ แต่ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องและกำหนดเวลาให้จำเลยทั้งสองเสียค่าธรรมเนียมตามคำสั่งของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการกำหนดเวลาโดยอาศัยอำนาจศาลที่มีอยู่ทั่วไป ในการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใดที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะหรือห้ามไว้ไปในทางที่เห็นว่ายุติธรรมและสมควร แต่การที่จำเลยทั้งสอง ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมตามคำสั่งของ ศาลอุทธรณ์ดังกล่าวอีก ย่อมต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคำร้องโดยอาศัยบทบัญญัติดังกล่าวหาใช่อาศัยอำนาจที่มีอยู่ทั่วไปไม่
จำเลยทั้งสองขอขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนด โดยจำเลยอ้างว่าในช่วงระยะเวลาที่ต้องวางเงินตามคำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นเทศกาลตรุษจีนตามประเพณีการค้าจะต้องคิดบัญชีหนี้สิน ประกอบกับจำเลยที่1 ล้มป่วยด้วยโรคหอบประจำตัวไม่ได้ประกอบอาชีพ ทำให้การค้าทรุดโทรมไม่สามารถหาเงินมาได้ทันในกำหนด ส่วนจำเลยที่ 3 อ้างว่า จำเลยที่ 3 เงินเดือนน้อยจะหยิบยืมจากผู้อื่นในระยะตรุษจีนเป็นการยากต้องรอให้พ้นระยะตรุษจีน ข้ออ้างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ที่จะให้ศาลสั่งขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2346/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอนาถา: เลือกวิธีดำเนินการครั้งเดียว เมื่ออุทธรณ์แล้ว สิทธิขอพิจารณาใหม่ไม่มี
การขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 ถ้าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วนหรือให้ยกคำขอ ผู้ขอมิได้ใช้สิทธิขอให้ศาลพิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของตนใหม่ตามวรรคสี่ แต่เลือกใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ตามวรรคห้า เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอย่างไรแล้ว ก็เป็นที่สุดผู้ขอจะย้อนไปขอให้ศาลพิจารณาคำขอของตนใหม่ตามวรรคสี่ไม่ได้ เพราะผู้ขอมีสิทธิเลือกวิธีดำเนินการได้เพียงอย่างเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนาถา: ศาลอนุญาตให้แสดงพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่จำกัดเวลาที่เกิดเหตุการณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรค 4 ดังนี้ โจทก์ไม่จำต้องระบุข้อเท็จจริงอันเป็นพยานหลักฐานใหม่นั้นไว้ในคำร้องที่ขอให้พิจารณาใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์จะแสดงให้ปรากฏในชั้นไต่สวนคำร้องใหม่
พยานหลักฐานที่จะนำมาแสดงเพิ่มเติมในชั้นไต่สวนพิจารณาคำร้องใหม่ดังกล่าว ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีขึ้นหลังจากศาลสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิมพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้นไม่ว่าจะมีอยู่ก่อนหรือหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิมก็มีสิทธินำมาแสดงเพิ่มเติมได้เสมอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องขออนาถาใหม่ ผู้ขอมีสิทธินำพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่จำกัดเวลาที่เกิดเหตุ
การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ใหม่ตามป.ว.พ. ม.156 วรรค 4 ไม่จำต้องกล่าวระบุพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติมไว้ในคำร้อง เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ขอจะต้องแสดงให้ ปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนคำร้องใหม่ และมีสิทธินำพยานหลักฐาน มาแสดงเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่ว่าพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้นจะมีอยู่ก่อน หรือหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์หลังกำหนดเวลา ศาลไม่รับฟ้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยหากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ และขอให้ศาลสั่งรอการนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระจนกว่าจะได้ไต่สวนคำร้องใหม่แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และกำหนดเวลาให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 7 วัน จำเลยอุทธรณ์ฎีกาต่อมา ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน ดังนี้ เป็นการพิพากษายืนที่ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ให้พิจารณาคำขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่เท่านั้นมิใช่เห็นพ้องหรือเห็นชอบตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่กำหนดเวลาให้วางเงินค่าธรรมเนียม เพราะกำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลแต่ละชั้นศาล เมื่อศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาพิพากษาโดยมิได้กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมให้ใหม่ การที่จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระเมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่ามิได้ยื่นอุทธรณ์ให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลา ไม่เป็นอุทธรณ์ที่จะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์ภายในกำหนด ทำให้คำสั่งศาลถึงที่สุด และฎีกาต้องห้าม
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาหากจำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นก็ต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันทราบคำสั่งนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156วรรคท้าย แต่จำเลยเพิ่งยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายหลังครบกำหนดดังกล่าวแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาจึงถึงที่สุดแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งนั้นได้อีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเพราะจำเลยไม่นำค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้ดำเนินคดีแบบคนอนาถา เนื่องจากเป็นคำสั่งที่สิ้นสุดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยเป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีในชั้นอุทธรณ์เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลไม่มากจึงอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถาโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาล ดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่าคดีชั้นอุทธรณ์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาลโดยเห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ไม่ถูกต้องนั้น เป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นวินิจฉัยในการใช้ดุลพินิจยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามคำสั่ง อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์ อย่างคนอนาถาซึ่งคำสั่งเช่นว่านี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 บัญญัติให้เป็นที่สุด ต้องด้วยข้อยกเว้นมิให้ฎีกาตาม มาตรา 247, 223
of 29