คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 198

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926-2929/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาคดีไม่ชอบ ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ และการนำสืบไม่เกินขอบเขตคำฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การวันนัดพร้อมจำเลยที่ 2 มิได้มาศาลศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ไม่เคยแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 2 ทราบเลย ดังนี้ กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 นับตั้งแต่วันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกและภายหลังแต่นั้นมาไม่ชอบ และไม่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 2 ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า อ. ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกโดยประมาทล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถด้านขวาด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์นั่ง ทำให้สามีโจทก์ที่ 1 ตาย โจทก์ที่ 2 บาดเจ็บสาหัส ดังนี้ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว การที่โจทก์นำสืบว่า อ. ขับรถยนต์บรรทุกแซงรถยนต์บรรทุกคันอื่นขึ้นมาเฉี่ยวชนกับรถฝ่ายโจทก์ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียด ไม่เป็นการนำสืบนอกคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การคดีแพ่ง & บัญชีระบุพยานรวมสำนวนอาญา-แพ่ง ศาลฎีกายืนตามศาลล่าง
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และโจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดภายในเวลา (15 วัน) ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 นั้น มาตรานี้เพียงแต่ให้ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดี ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งจำหน่าย โจทก์ยื่นคำขอเรื่องขาดนัดได้
โจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งมาในสำนวนเดียวกันกับได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว โดยมิได้เจาะจงว่าจะให้เป็นบัญชีพยานในคดีส่วนอาญาหรือส่วนแพ่ง จึงต้องถือว่าเป็นบัญชีระบุพยานของคดีนี้ตลอดเรื่อง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานส่วนอาญาฉบับหนึ่ง และส่วนแพ่งอีกฉบับหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การและบัญชีระบุพยานในคดีแพ่งที่ฟ้องรวมกับคดีอาญา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่าง
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และโจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดภายในเวลา (15วัน) ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 นั้นมาตรานี้เพียงแต่ให้ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดี ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งจำหน่าย โจทก์ยื่นคำขอเรื่องขาดนัดได้
โจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งมาในสำนวนเดียวกันกับได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว โดยมิได้เจาะจงว่าจะให้เป็นบัญชีพยานในคดีส่วนอาญาหรือส่วนแพ่ง จึงต้องถือว่าเป็นบัญชีระบุพยานของคดีนี้ตลอดเรื่อง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานส่วนอาญาฉบับหนึ่งและส่วนแพ่งอีกฉบับหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเมื่อโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องต้องดำเนินการภายในกำหนดเวลา
ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยานผู้ร้อง จึงเข้าใจว่าโจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การและให้นัดสืบพยานผู้ร้องไป หามีผลลบล้างให้ผู้ร้องไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 198 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องต้องยื่นคำขอให้โจทก์ขาดนัดตามกำหนดเวลา มิเช่นนั้นศาลมีอำนาจจำหน่ายคดี
ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความ ผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยาน ผู้ร้องจึงเข้าใจว่า โจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกโดยปิดหมายตามคำสั่งศาล และสิทธิในการยื่นคำให้การของผู้ถูกฟ้อง
เจ้าพนักงานส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องโดยวิธีปิดหมายและสำเนาฟ้อง ซึ่งศาลได้สั่งไว้แล้วตอนรับฟ้อง เป็นการส่งตามคำสั่งศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 76
ส่วนการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 นั้น เป็นเรื่องศาลมิได้มีคำสั่งกำหนดวิธีการส่งไว้ล่วงหน้า ต่อมาไม่สามารถส่งตามวิธีปกติได้ ศาลจึงมีคำสั่งกำหนดวิธีการส่งโดยวิธีการอื่นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยที่ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอให้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดี ศาลฎีกาจะวินิจฉัยเสียเองโดยไม่ย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการพิพากษากลับถึงจำเลยขาดนัดในคดีที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนด จำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนี้ขาดนัด และศาลชั้นต้นก็มิได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยผู้นี้ แต่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนด จำเลยที่ 1, 2, 3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยทุกคนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245 เพราะคำพิพากษาคดีนี้เกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ถึงจำเลยที่ขาดนัด
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนดจำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนี้ขาดนัด และศาลชั้นต้นก็มิได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยผู้นี้แต่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนดจำเลยที่ 1,2,3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยทุกคนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245 เพราะคำพิพากษาคดีนี้เกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยขาดนัด
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนด.จำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การ. โจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนี้ขาดนัด. และศาลชั้นต้นก็มิได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยผู้นี้. แต่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ถอนชื่อจำเลยทั้งสี่ออกจากโฉนด. จำเลยที่ 1,2,3อุทธรณ์. ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยทุกคนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245. เพราะคำพิพากษาคดีนี้เกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่หลังถูกบังคับคดี: พฤติการณ์นอกเหนือควบคุมและระยะเวลาการยื่นคำร้อง
ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงขั้นออกคำบังคับคดี โจทก์ได้ใช้วิธีขอให้ศาลประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ให้จำเลยแก้คดี กำหนดวันสืบพยานและประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับตลอดมา เมือจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ได้ขอให้บังคับคดียึดสวนยางของจำเลยอันอยู่ในหมู่เดียวกับภูมิลำเนาที่จำเลยอยู่ตามฟ้องโจทก์ จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่ได้ไปจากบ้านตามภูมิลำเนาที่ปรากฏอยู่ตามฟ้อง คงอยู่ที่ภูมิลำเนาของจำเลยตลอดมาจำเลยยังไม่ทราบคำบังคับของศาล เมื่อจำเลยถูกยึดทรัพย์ จำเลยไม่ทราบว่าถูกยึดและถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร บ้านจำเลยอยู่ไกลตัวเมืองห่างความเจริญ ไม่มีหนังสือพิมพ์จะอ่านหากตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนดังกล่าว ประกอบกับข้อที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้ เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อจำเลยได้ไปยื่นคำขอตรวจและคัดสำเนาต่อศาลที่ได้ออกคำบังคับ ทราบแน่ว่าจำเลยถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร และศาลได้มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต่อจากนั้นอีก 7 วันจำเลยได้ไปยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ จึงยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
of 10