พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาใหม่เมื่อพฤติการณ์นอกเหนือควบคุมทำให้ไม่สามารถดำเนินการภายในกำหนดเวลาได้
ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงขั้นออกคำบังคับคดี โจทก์ได้ใช้วิธีขอให้ศาลประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ให้จำเลยแก้คดี กำหนดวันสืบพยานและประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับตลอดมา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ได้ขอให้บังคับคดียึดสวนยางของจำเลยอันอยู่ในหมู่เดียวกับภูมิลำเนาที่จำเลยอยู่ตามฟ้องโจทก์ จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่ได้ไปจากบ้านตามภูมิลำเนาที่ปรากฏอยู่ตามฟ้อง คงอยู่ที่ภูมิลำเนาของจำเลยตลอดมาจำเลยยังไม่ทราบคำบังคับของศาล เมื่อจำเลยถูกยึดทรัพย์ จำเลยไม่ทราบว่าถูกยึดและถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร บ้านจำเลยอยู่ไกลตัวเมืองห่างความเจริญ ไม่มีหนังสือพิมพ์จะอ่านหากตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนดังกล่าว ประกอบกับข้อที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้ เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อจำเลยได้ไปยื่นคำขอตรวจและคัดสำนวนต่อศาลที่ได้ออกคำบังคับ ทราบแน่ว่าจำเลยถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร และศาลได้มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต่อจากนั้นอีก 7 วันจำเลยได้ไปยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ จึงยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498-499/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งจำหน่ายคดีขาดนัด และข้อจำกัดการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง/ข้อกฎหมายใหม่
บทบัญญัติใน ป.วิ.พ.มาตรา 198 มิได้บังคับให้ศาลจำต้องสั่งจำหน่ายคดีเสมอไป เพียงแต่ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมื่อพ้น 15 วันได้ ฉะนั้น ในกรณีที่ศาลยังมิได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี แม้โจทก์จะยื่นคำขอเมื่อพ้น 15 วัน ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ อ้างฎีกาที่ 1464/2495
ข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นอ้างมาแต่ศาลชั้นต้น เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ ย่อมต้องห้ามฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249
ปัญหาที่ว่าการขาดนัดมิได้เป็นไปโดยจงใจก็ดี ศาลชั้นต้นไม่เลื่อนการพิจารณาไปสืบจำเลยเป็นพยานเป็นการไม่ชอบก็ดี และพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบฝ่ายเดียวยังรับฟังบังคับขับไล่จำเลยไม่ได้ก็ดี เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อปัญหาเหล่านี้ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 224 ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นอ้างมาแต่ศาลชั้นต้น เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ ย่อมต้องห้ามฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249
ปัญหาที่ว่าการขาดนัดมิได้เป็นไปโดยจงใจก็ดี ศาลชั้นต้นไม่เลื่อนการพิจารณาไปสืบจำเลยเป็นพยานเป็นการไม่ชอบก็ดี และพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบฝ่ายเดียวยังรับฟังบังคับขับไล่จำเลยไม่ได้ก็ดี เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อปัญหาเหล่านี้ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 224 ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นฎีกาจำเลยมิได้ยกขึ้นในอุทธรณ์ ย่อมไม่สามารถยกขึ้นฎีกาได้อีก และสิทธิในการสืบพยานของผู้รับมรดก
ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ย่อมยุติ จะรื้อฟื้นขึ้นมาฎีกาอีกไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดสิทธิในการฎีกาประเด็นใหม่ และสิทธิของผู้รับมรดกในฐานะคู่ความ
ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ย่อมยุติ จะรื้อฟื้นขึ้นมาฎีกาอีกไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
ผู้ร้องเข้ามาในคดีในฐานะเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะ จึงมีสิทธิดำเนินคดีเท่าสิทธิของจำเลยที่มีอยู่เท่านั้น
ผู้ร้องเข้ามาในคดีในฐานะเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะ จึงมีสิทธิดำเนินคดีเท่าสิทธิของจำเลยที่มีอยู่เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายไม่เป็นฟ้องซ้ำคดีแพ่ง หากประเด็นต่างกัน คือ คดีแพ่งชี้สถานะลูกหนี้ ส่วนคดีล้มละลายชี้สถานะหนี้สินล้นพ้นตัว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย แต่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ ทรัพย์ที่เหลือไม่พอชำระหนี้ โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย การฟ้องเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีแพ่งซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้นเป็นเรื่องชี้ขาดว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ ส่วนคดีนี้มีประเด็นว่า เมื่อจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว ควรตกเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ การวินิจฉัยคดีทั้งสองนี้มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่: ศาลมีอำนาจพิจารณาโดยไม่ต้องรอคำแก้คดี หากจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลอาจพิจารณาแต่คำฟ้องอย่างเดียว เมื่อเห็นว่าเป็นคดีมโนสาเร่ ก็ออกหมายเรียกจำเลยอย่างคดีมโนสาเร่ได้ทีเดียว ยังไม่ต้องพิจารณาคำแก้คดีด้วย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาท การที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่ แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วย ก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้ว จำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่า ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาดคีในวัดนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรค 4 และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้ว ฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวัดนัดตามหมายนั้นเป็นวัดนัดสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาท การที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่ แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วย ก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้ว จำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่า ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาดคีในวัดนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรค 4 และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้ว ฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวัดนัดตามหมายนั้นเป็นวัดนัดสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่: ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีโดยไม่ต้องรอคำให้การ และการนัดสืบพยานในวันเดียวกับหมายเรียกชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอาจพิจารณาแต่คำฟ้องอย่างเดียว เมื่อเห็นว่าเป็นคดีมโนสาเร่ก็ออกหมายเรียกจำเลยอย่างคดีมโนสาเร่ได้ทีเดียวยังไม่ต้องพิจารณาคำให้การแก้คดีด้วย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาทการที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วยก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้วจำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่าศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาคดีในวันนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรคสี่และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้วฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวันนัดตามหมายนั้นเป็นวันสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาทการที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วยก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้วจำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่าศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาคดีในวันนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรคสี่และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้วฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวันนัดตามหมายนั้นเป็นวันสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการนำสืบของโจทก์เมื่อจำเลยขาดนัด และสิทธิในการเพิ่มเติมคำให้การของจำเลย
ในกรณีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมฟ้อง เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ในประเด็นเกี่ยวกับข้อนำสืบของโจทก์นั้นได้
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาลจำเลยมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ดังนี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด จำเลยมีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยาน
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาลจำเลยมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ดังนี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด จำเลยมีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำให้การเกินกำหนด และอำนาจศาลในการพิจารณาคำให้การที่ยื่นภายหลัง
กรณีที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การตามกำหนดและศาลได้มีคำสั่งว่า จำเลยขาดยื่นคำให้การแล้วนั้น เมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยมาศาลและแถลงว่าป่วย จึงมิได้ยื่นคำให้การตามกำหนด โจทก์ไม่คัดค้าน เช่นนี้ ศาลชอบที่จะมีคำสั่ง ในรายงานพิจารณาอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในเวลากำหนดโดยไม่จำต้องให้จำเลยทำเป็นคำร้องขอเข้ามาได้ ไม่เป็นการผิดวิธีพิจารณาอย่างใด
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การเกินเวลาที่ศาลนัดไว้ ศาลควรพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้นไว้เสียก่อน
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การเกินเวลาที่ศาลนัดไว้ ศาลควรพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้นไว้เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การเกินกำหนดและสิทธิในการต่อสู้คดี ศาลมีอำนาจอนุญาตยื่นได้หากไม่ใช่การจงใจขาดนัด
กรณีที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การตามกำหนดและศาลได้มีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้วนั้นเมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยมาศาลและแถลงว่าป่วย จึงมิได้ยื่นคำให้การตามกำหนด โจทก์ไม่คัดค้านเช่นนี้ ศาลชอบที่จะมีคำสั่งในรายงานพิจารณาอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในเวลากำหนดโดยไม่จำต้องให้จำเลยทำเป็นคำร้องขอเข้ามาได้ไม่เป็นการผิดวิธีพิจารณาอย่างใด
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การเกินเวลาที่ศาลนัดไว้ ศาลควรพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้นไว้เสียก่อน
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การเกินเวลาที่ศาลนัดไว้ ศาลควรพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้นไว้เสียก่อน