คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 198

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638-1640/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบุกรุก: การพิพากษาคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน และการจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โจทก์ฟ้องคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุก ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ไม่รู้หลักเขตที่ดินของตนแน่นอน จะฟังว่ามีเจตนาบุกรุกยังไม่ได้ และเป็นกรณีพิพาททางแพ่ง ดั่งนี้ศาลไม่พึงสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ เพราะโจทก์ไม่ได้ทิ้งฟ้องหรือขาดนัด หากศาลชอบที่จะพิพากษาตามรูปคดีชี้ขาดไปตามท้องสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638-1640/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบุกรุก: การพิพากษาคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่รู้หลักเขตที่ดินและไม่มีเจตนาบุกรุก
โจทก์ฟ้องคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุก ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ไม่รู้หลักเขตที่ดินของตนแน่นอน จะฟังว่ามีเจตนาบุกรุกยังไม่ได้ และเป็นกรณีพิพาททางแพ่ง ดั่งนี้ ศาลไม่พึงสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ เพราะโจทก์ไม่ได้ทิ้งฟ้องหรือขาดนัด หากศาลชอบที่จะพิพากษาตามรูปคดีชี้ขาดไปตามท้องสำนวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951-952/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกานี้วินิจฉัยเรื่องพินัยกรรมฉบับพิพาท ความถูกต้องของลายมือชื่อ และการเปลี่ยนแปลงเจตนาเดิมของผู้ทำพินัยกรรม
โจทก์ฟ้องขอทำลายพินัยกรรม อ้างว่าปลอมหรือทำโดยสำคัญผิดจำเลยให้การว่า เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ โจทก์ขอแก้ฟ้องยืนยันว่าเป็นพินัยกรรมปลอมอย่างเดียว จำเลยไม่ให้การอย่างไรอีก ดังนี้จะถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไม่ถนัด เพราะจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้ไว้ในชั้นแรกแล้ว
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ไม่ขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดใน 15 วัน ศาลไม่สั่งจำหน่ายคดีก็ได้
ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงมาโดยละเอียด แล้วลงท้ายว่าผู้ตายไม่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือในพินัยกรรมหรือจำเลยแอบกดลายนิ้วมือผู้ตายลงโดยผู้ตายไม่รู้ตัวขอให้แสดงว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะเป็นที่เข้าใจว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ทายาทโดยธรรม ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรมได้แม้จะมีพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่งซึ่งโจทก์ไม่มีส่วนได้รับมรดกเลยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวหลังจำเลยขาดนัดและโจทก์มิได้ยื่นคำร้องภายใน 15 วัน
เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน 15 วัน นั้นตามบทบัญญัติใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 198 เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมือพ้น 15 วันได้ ฉะนั้นศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียวได้ เมื่อโจทก์ร้องขอ แม้จะเป็นเวลาภายหลัง 15 วันในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งพิจารณาคดีฝ่ายเดียวหลังจำเลยขาดนัดและโจทก์มิได้ร้องขอจำหน่ายคดีภายใน 15 วัน
เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน 15 วัน นั้นตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมื่อพ้น 15 วันได้ฉะนั้นศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียวได้ เมื่อโจทก์ร้องขอ แม้จะเป็นเวลาภายหลัง 15 วันในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและผลกระทบจากประกาศที่ขัดแย้งกับหมายเรียก ศาลพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศแลศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การ: การพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้องและอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึง วันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศและศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การ: การพิจารณาความพยายามในการเดินทางมาสู้คดีของผู้จำเลย
โจทฟ้องขอไห้จำเลยชำระหนี้สินซึ่งสามีจำเลยเปนผู้กู้ จำเลยขาดนัดยื่นคำไห้การเนื่องจากจำเลยหยู่ต่างประเทส เมื่อจำเลยได้ซาบว่าถูกฟ้องก็ได้รีบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อสู้คดี และได้ยื่นคำไห้การพายไน 6 วันนับแต่มาถึงดังนี้ แม้ครบกำหนดยื่นคำไห้การก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้จงไจขาดนัดยื่นคำไห้การ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การ: เหตุสุดวิสัยจากการเดินทางจากต่างประเทศ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้สินซึ่งสามีจำเลยเป็นผู้กู้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ เนื่องจากจำเลยอยู่ต่างประเทศเมื่อจำเลยได้ทราบว่าถูกฟ้องก็ได้รีบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อสู้คดี และได้ยื่นคำให้การภายใน 6 วันนับแต่มาถึง ดังนี้ แม้ครบกำหนดยื่นคำให้การก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีก่อนอายุความ และผลของการขาดนัดคดีต่ออายุความ การฟ้องคดีใหม่หลังศาลจำหน่ายคดีไม่ทำให้ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องแพ่งแล้วขาดนัดชั้นพิจารณาโดยเข้าใจวันพิจารณาโดยเข้าใจวันพิจารณาผิดไปและศาลสั่งจำหน่ายคดีเสียนั้นก็ยังคงเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
of 10