คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 86

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินไม่ตรงกับ น.ส.3 ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง ทำให้ขาดอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยออก น.ส.3 ให้โจทก์ไม่เต็มตามเนื้อที่ดินของโจทก์ ข้อเท็จจริงที่ยุติมีว่า น.ส.3 ที่โจทก์รับมานั้นไม่เต็มเนื้อที่ดินที่โจทก์อ้างขาดไป 16 ตารางวา ซึ่งส่วนที่ขาดนี้ตามคำฟ้องโจทก์อ้างว่าโจทก์ครอบครองอยู่ไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะ จำเลยให้การว่าโจทก์ยกส่วนนี้ให้เป็นทางสาธารณะ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่โต้แย้งกันอยู่ ต้องฟังพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายต่อไป การที่โจทก์ยอมรับเอา น.ส.3 ไปทั้งที่เนื้อที่ดินตาม น.ส.3 ขาดไป 16 ตารางวานั้น ข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้จะถือว่าที่ดินที่ไม่อยู่ใน น.ส.3 ของโจทก์นั้นถูกแย่งการครอบครองยังมิได้ ถึงแม้โจทก์จะรับ น.ส.3 ไปเกิน 1 ปีเมื่อมิใช่กรณีแย่งการครองครอง จึงถือว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับ น.ส.3 ที่มีเนื้อที่ดินไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยออกน.ส.3ให้โจทก์ไม่เต็มตามเนื้อที่ดินของโจทก์ข้อเท็จจริงที่ยุติมีว่าน.ส.3ที่โจทก์รับมานั้นไม่เต็มเนื้อที่ดินที่โจทก์อ้างขาดไป16ตารางวาซึ่งส่วนที่ขาดนี้ตามคำฟ้องโจทก์อ้างว่าโจทก์ครอบครองอยู่ไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะจำเลยให้การว่าโจทก์ยกส่วนนี้ให้เป็นทางสาธารณะจึงเป็นข้อเท็จจริงที่โต้แย้งกันอยู่ต้องฟังพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายต่อไปการที่โจทก์ยอมรับเอาน.ส.3ไปทั้งที่เนื้อที่ดินตามน.ส.3ขาดไป16ตารางวานั้นข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้จะถือว่าที่ดินที่ไม่อยู่ในน.ส.3ของโจทก์นั้นถูกแย่งการครอบครองยังมิได้ถึงแม้โจทก์จะรับน.ส.3ไปเกิน1ปีเมื่อมิใช่กรณีแย่งการครองครองจึงถือว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับ น.ส.3 ที่มีเนื้อที่ดินไม่ตรงกับที่ครอบครอง ไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยออก น.ส.3 ให้โจทก์ไม่เต็มตามเนื้อที่ดินของโจทก์ ข้อเท็จจริงที่ยุติมีว่า น.ส.3 ที่โจทก์รับมานั้นไม่เต็มเนื้อที่ดินที่โจทก์อ้างขาดไป 16 ตารางวา ซึ่งส่วนที่ขาดนี้ตามคำฟ้องโจทก์อ้างว่าโจทก์ครอบครองอยู่ไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะ จำเลยให้การว่าโจทก์ยกส่วนนี้ให้เป็นทางสาธารณะ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่โต้แย้งกันอยู่ ต้องฟังพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายต่อไป การที่โจทก์ยอมรับเอาน.ส.3 ไปทั้งที่เนื้อที่ดินตาม น.ส.3ขาดไป 16 ตารางวานั้นข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้จะถือว่าที่ดินที่ไม่อยู่ใน น.ส.3ของโจทก์นั้นถูกแย่งการครอบครองยังมิได้ ถึงแม้โจทก์จะรับน.ส.3 ไปเกิน1 ปี เมื่อมิใช่กรณีแย่งการครองครอง จึงถือว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3432/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการไม่อนุญาตระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานโจทก์เสร็จ
ชั้นสืบพยานจำเลยจำเลยขอเลื่อนคดีหลายครั้งจนในนัดสุดท้ายจำเลยแถลงรับรองต่อศาลว่าในนัดต่อไปจำเลยมีพยานมาศาลเท่าใดก็จะสืบเพียงนั้นแต่พอถึงวันนัดจำเลยยังคงไม่มีพยานมาสืบพร้อมกันนี้ทนายจำเลยก็ขอถอนตัวและจำเลยได้ตั้งทนายความใหม่ในโอกาสเดียวกันนี้ทนายจำเลยคนใหม่ก็ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมและขอเลื่อนคดีซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตทั้งสองกรณีเห็นว่าการขอระบุพยานเพิ่มเติมนั้นเป็นเวลาภายหลังที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนนำสืบพยานเสร็จแล้วเหตุผลในคำร้องของจำเลยไม่เข้าเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา88วรรคท้ายที่ศาลจะอนุญาตตามคำขอได้เพราะจำเลยย่อมทราบดีแล้วในขณะสืบพยานโจทก์ว่าพยานที่จำเลยขอระบุเพิ่มเติมเป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนจากพยานโจทก์ดำเนินการต่อมาจำเลยชอบที่จะขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้เสียแต่ตอนนั้นเมื่อจำเลยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องแต่เพิ่งมายื่นบัญชีขอระบุพยานเพิ่มเติมเอาในนัดสุดท้ายซึ่งจำเลยได้แถลงรับรองต่อศาลแล้วว่าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกจึงเป็นพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นเจตนาที่จะประวิงคดีโดยตรง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3432/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานโจทก์ และเจตนาประวิงคดี ศาลชอบด้วยเหตุผลในการไม่อนุญาต
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมภายหลังเสร็จการสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนโดยจำเลยทราบดีแล้วว่าพยานดังกล่าวมีอยู่ขณะสืบพยานโจทก์จึงไม่อยู่ภายในเงื่อนไขแห่งป.วิ.พ.มาตรา88วรรคท้ายที่ศาลจะอนุญาตตามคำขอ พฤติการณ์ที่จำเลยขอเลื่อนคดีมาหลายครั้งจนนัดสุดท้ายแถลงว่าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกโดยจะสืบพยานเท่าที่มาศาลแต่พอถึงวันนัดกลับไม่มีพยานมาศาลพร้อมกับทนายจำเลยขอถอนตัวและจำเลยได้ตั้งทนายความใหม่ทนายจำเลยคนใหม่ยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมและขอเลื่อนคดีพฤติการณ์ดังกล่าวส่อให้เห็นเจตนาที่จะประวิงคดีที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตทั้งสองกรณีจึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3427/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ายังไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลต้องสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนตัดสิน
โจทก์ตกลงเช่าห้องอาหารของจำเลยเป็นเวลา1ปีแบ่งชำระค่าเช่าเป็น4งวดโจทก์ได้ชำระค่าเช่างวดแรกให้จำเลยครบถ้วนแล้วคู่กรณีโต้เถียงกันว่าเหตุที่ไม่อาจทำสัญญาเป็นหนังสือกันได้เพราะอีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติผิดข้อตกลงดังนี้ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้มีนิติสัมพันธ์กันแล้วตามข้อตกลงในเรื่องการเช่าแต่เหตุที่ยังไม่อาจทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้เพราะยังคงโต้เถียงกันจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยต่อไปหาใช่กรณีเป็นที่สงสัยอันจะเข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ให้ถือว่าโจทก์จำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกันจนกว่าจะได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา366วรรคสองไม่ทั้งเงินที่จำเลยรับไว้จากโจทก์ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นลาภมิควรได้เพราะจำเลยรับไว้เป็นค่าเช่างวดแรกตามข้อตกลงจึงไม่ใช่รับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้การที่ศาลล่างด่วนตัดพยานทั้งที่คู่กรณียังมีข้อเท็จจริงที่โต้เถียงกันอยู่เช่นนี้เป็นการไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3427/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ายังไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลต้องสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนตัดสิน
โจทก์ตกลงเช่าห้องอาหารของจำเลยเป็นเวลา 1 ปี แบ่งชำระค่าเช่าเป็น 4 งวด โจทก์ได้ชำระค่าเช่างวดแรกให้จำเลยครบถ้วนแล้วคู่กรณีโต้เถียงกันว่า เหตุที่ไม่อาจทำสัญญาเป็นหนังสือกันได้เพราะอีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติผิดข้อตกลง ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้มีนิติสัมพันธ์กันแล้วตามข้อตกลงในเรื่องการเช่าแต่เหตุที่ยังไม่อาจทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้เพราะยังคงโต้เถียงกันจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยต่อไปหาใช่กรณีเป็นที่สงสัยอันจะเข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ให้ถือว่าโจทก์จำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกันจนกว่าจะได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคสองไม่ทั้งเงินที่จำเลยรับไว้จากโจทก์ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นลาภมิควรได้ เพราะจำเลยรับไว้เป็นค่าเช่างวดแรกตามข้อตกลงจึงไม่ใช่รับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้การที่ศาลล่างด่วนตัดพยานทั้งที่คู่กรณียังมีข้อเท็จจริงที่โต้เถียงกันอยู่เช่นนี้เป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3427/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ายังไม่สมบูรณ์ สิทธิและหน้าที่เกิดขึ้นแล้ว ศาลต้องสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์ตกลงเช่าห้องอาหารของจำเลยเป็นเวลา 1 ปี แบ่งชำระค่าเช่าเป็น 4 งวด โจทก์ได้ชำระค่าเช่างวดแรกให้จำเลยครบถ้วนแล้วคู่กรณีโต้เถียงกันว่า เหตุที่ไม่อาจทำสัญญาเป็นหนังสือกันได้เพราะอีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติผิดข้อตกลง ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้มีนิติสัมพันธ์กันแล้ว ตามข้อตกลงในเรื่องการเช่า แต่เหตุที่ยังไม่อาจทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้เพราะยังคงโต้เถียงกัน จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยต่อไป หาใช่กรณีเป็นที่สงสัยอันจะเข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ให้ถือว่าโจทก์จำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกันจนกว่าจะได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคสองไม่ ทั้งเงินที่จำเลยรับไว้จากโจทก์ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นลาภมิควรได้ เพราะจำเลยรับไว้เป็นค่าเช่างวดแรกตามข้อตกลงจึงไม่ใช่รับไว้โดยปราศจากมูลอัน จะอ้างกฎหมายได้ การที่ศาลล่างด่วนตัดพยานทั้งที่คู่กรณียังมีข้อเท็จจริงที่โต้เถียงกันอยู่เช่นนี้ เป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2811/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลและการยกเลิกประมูล: สิทธิและผลผูกพันตามสัญญา
จำเลยประกาศเรียกประมูลให้เช่าลานพื้นคอนกรีตโจทก์เป็นผู้เข้าประมูลโดยเสนอให้ผลประโยชน์สูงกว่าผู้เข้าประมูลอื่นเมื่อปรากฏว่ามีเงื่อนไขการประมูลกำหนดไว้ให้จำเลยมีสิทธิที่ยกเลิกการประมูลครั้งนี้เสียก็ได้ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดและผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆทั้งสิ้นจากจำเลยดังนี้เห็นได้ว่าแม้มีผู้เข้าประมูลแล้วจำเลยก็มีสิทธิยกเลิกการประมูลได้เมื่อจำเลยไม่ต้องผูกพันทำสัญญาตามประกาศประกาศนั้นจึงไม่เป็นคำเสนอของจำเลยถือได้เพียงว่าเป็นคำเชื้อเชิญให้ทำคำเสนอเท่านั้นหนังสือประมูลของโจทก์จึงจะนับได้ว่าเป็นคำเสนอ หนังสือประมูลของโจทก์เป็นคำเสนอแต่ตามเงื่อนไขการประมูลจำเลยมีสิทธิยกเลิกการประมูลและมีเอกสิทธิที่จะตัดสินให้ผู้ประมูลรายใดเป็นผู้ชนะการประมูลก็ได้และกำหนดว่าผู้ประมูลได้จะต้องทำสัญญาเช่ากับจำเลยตามแบบของจำเลยภายใน15วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกองกฎหมายของจำเลยฉะนั้นเมื่อจำเลยยกเลิกการประมูลเสียอันเป็นการบอกปัดคำเสนอโดยยังไม่มีการตัดสินและไม่มีการทำสัญญาเป็นหนังสือสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้นจะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญามิได้ โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยยกเลิกการประมูลโดยไม่สุจริตเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาผูกพันระหว่างโจทก์กับจำเลยการยกเลิกการประมูลย่อมไม่ทำให้เสียหายแก่สิทธิของโจทก์ทั้งโจทก์ก็มีคำขอเพียงให้บังคับจำเลยทำสัญญาเช่าส่งมอบที่เช่าและห้ามนำที่นั้นไปให้ผู้อื่นเช่าซึ่งเป็นคำขอในกรณีมีสัญญาและให้ปฏิบัติตามสัญญานั้นหาได้ขอค่าสินไหมทดแทนไม่จึงบังคับให้ไม่ได้ดังนี้จึงไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาสืบพยานต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2811/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลที่ไม่เป็นคำเสนอ การยกเลิกการประมูลโดยชอบธรรม และสิทธิของผู้อื่น
จำเลยประกาศเรียกประมูลให้เช่าลานพื้นคอนกรีต โจทก์เป็นผู้เข้าประมูลโดยเสนอให้ผลประโยชน์สูงกว่าผู้เข้าประมูลอื่น เมื่อปรากฏว่ามีเงื่อนไขการประมูลกำหนดไว้ให้จำเลยมีสิทธิที่ยกเลิกการประมูลครั้งนี้เสียก็ได้ ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดและผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นจากจำเลย ดังนี้เห็นได้ว่าแม้มีผู้เข้าประมูลแล้ว จำเลยก็มีสิทธิยกเลิกการประมูลได้ เมื่อจำเลยไม่ต้องผูกพันทำสัญญาตามประกาศ ประกาศนั้นจึงไม่เป็นคำเสนอของจำเลย ถือได้เพียงว่าเป็นคำเชื้อเชิญให้ทำคำเสนอเท่านั้น หนังสือประมูลของโจทก์จึงจะนับได้ว่าเป็นคำเสนอ
หนังสือประมูลของโจทก์เป็นคำเสนอ แต่ตามเงื่อนไขการประมูลจำเลยมีสิทธิยกเลิกการประมูล และมีเอกสิทธิที่จะตัดสินให้ผู้ประมูลรายใดเป็นผู้ชนะการประมูลก็ได้ และกำหนดว่าผู้ประมูลได้จะต้องทำสัญญาเช่ากับจำเลยตามแบบของจำเลยภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกองกฎหมายของจำเลยฉะนั้นเมื่อจำเลยยกเลิกการประมูลเสีย อันเป็นการบอกปัดคำเสนอ โดยยังไม่มีการตัดสินและไม่มีการทำสัญญาเป็นหนังสือ สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้นจะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญามิได้
โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยยกเลิกการประมูลโดยไม่สุจริต เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาผูกพันระหว่างโจทก์กับจำเลย การยกเลิกการประมูลย่อมไม่ทำให้เสียหายแก่สิทธิของโจทก์ ทั้งโจทก์ก็มีคำขอเพียงให้บังคับจำเลยทำสัญญาเช่า ส่งมอบที่เช่าและห้ามนำที่นั้นไปให้ผู้อื่นเช่า ซึ่งเป็นคำขอในกรณีมีสัญญาและให้ปฏิบัติตามสัญญานั้นหาได้ขอค่าสินไหมทดแทนไม่ จึงบังคับให้ไม่ได้ ดังนี้จึงไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาสืบพยานต่อไป.
of 79