พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดพยานก่อนหมดการสืบหลักฐาน ทำให้ไม่สามารถพิพากษาคดีได้อย่างถูกต้อง
คดีที่โจทก์ยังประสงค์สืบพยานต่อไปและไม่อาจรู้ได้ว่า โจทก์จะมีพยานสนับสนุนข้อกล่าวอ้างเพียงใดนั้น ศาลจะไปสั่งตัดพยานเสียแล้วพิพากษายกฟ้อง ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดพยานก่อนหมดการสืบพยานไม่ชอบ ศาลต้องรอฟังพยานทั้งหมดก่อนตัดสิน
คดีที่โจทก์ยังประสงค์สืบพยานต่อไป และไม่อาจรู้ได้ว่า โจทก์จะมีพยานสนับสนุนข้อกล่าวอ้างเพียงใดนั้น ศาลจะไปสั่งตัดพยานเสียแล้วพิพากษายกฟ้อง ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ ศาลมีอำนาจพิจารณาเฉพาะพยานโจทก์ที่ถูกงดไว้
ในคดีแพ่ง ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่สืบพยานก่อน จำเลยก็รับรองไม่คัดค้าน จนสืบพยานจำเลยไป 4 ปากแล้วยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามคำพยานจำเลยว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์กับข้ออ้างตราจองประกอบการวินิจฉัย ส่วนพยานอื่น ๆ ของดสืบพยานจำเลยโดยความสมัครใจของจำเลยเอง การที่ศาลชั้นต้นสั้งงดสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดีนั้น ต้องถือว่าเป็นการสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่จะสืบต่อไปฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวน พิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่นั้น ก็หมายความว่า ให้สืบพยานโจทก์ที่ศาลสั่งงดไว้นั้นต่อไปเท่านั้น และเมื่อศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยก็มิได้แถลงหรือคัดค้านจะขอสืบพยานจำเลยต่อไปแต่อย่างใด จนเมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วจำเลยจึงแถลงขอสืบพยานจำเลยต่อไป ดังนี้ศาลสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดีจึงเป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานโดยความสมัครใจของจำเลย และผลกระทบต่อการสืบพยานโจทก์ในภายหลัง
ในคดีแพ่ง ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่สืบพยานก่อน จำเลยก็รับรองไม่คัดค้าน จนสืบพยานจำเลยไป 4 ปาก แล้วยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามคำพยานจำเลยว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์กับขออ้างตราจองประกอบการวินิจฉัย ส่วนพยานอื่นๆ ของดสืบต่อไป ดังนี้ เป็นการของดสืบพยานจำเลยโดยความสมัครใจของจำเลยเอง การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดีนั้น ต้องถือว่าเป็นการสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่จะสืบต่อไป ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่นั้น ก็หมายความว่า ให้สืบพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดไว้นั้นต่อไปเท่านั้น และเมื่อศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยก็มิได้แถลงหรือคัดค้านจะขอสืบพยานจำเลยต่อไปแต่อย่างใด จนเมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วจำเลยจึงแถลงขอสืบพยานจำเลยต่อไป ดังนี้ ศาลสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดี จึงเป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีของโจทก์และการดำเนินการพิจารณาต่อไปตามกฎหมาย
การที่โจทก์ซึ่งรับเป็นฝ่ายสืบก่อนได้ขอเลื่อนวันสืบพะยานโจทก์มาถึง 2 นัดแล้ว นัดที่ 3 โจทก์ขอเลื่อนอีก โดยอ้างว่ากำลังทำความปรองดองกับจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง และพยานโจทก์ไม่มีมาศาลทั้งโจทก์กลับสั่งห้ามไม่ให้พะยานโจทก์ที่รับหมายแล้วมาศาลดังนี้ได้ชื่อว่าโจทก์ประวิง คดีให้ชักช้าตาม ม.86 วิ.แพ่ง
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพะยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพะยานจำเลยถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่าโจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตาม ม. 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพะยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม ม. 205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย ม. 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพะยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพะยานจำเลยถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่าโจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตาม ม. 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพะยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม ม. 205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย ม. 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประวิงคดีและการขาดนัดพิจารณา ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์ซึ่งรับเป็นฝ่ายสืบก่อนได้ขอเลื่อนวันสืบพยานโจทก์มาถึง 2 นัดแล้ว นัดที่ 3 โจทก์ขอเลื่อนอีก โดยอ้างว่ากำลังทำความปรองดองกับจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง และพยานโจทก์ไม่มีมาศาลทั้งโจทก์กลับสั่งห้ามไม่ให้พยานโจทก์ที่รับหมายแล้วมาศาล ดังนี้ได้ชื่อว่า โจทก์ประวิงคดีให้ชักช้าตาม มาตรา 86ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพยานจำเลย ถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่า โจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตามมาตรา 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม มาตรา205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย มาตรา 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพยานจำเลย ถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่า โจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตามมาตรา 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม มาตรา205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย มาตรา 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อาจนำสืบพยานหลังไม่ได้ถามค้านพยานฝ่ายตรงข้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
จำเลยมิได้ถามค้านพยานโจทก์ในประเด็นข้อใดไว้ แล้วนำพยานของตนในประเด็นข้อนั้นมาสืบในภายหลัง เป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ศาลจะไม่ยอมรับฟังคำพยานจำเลยในประเด็นข้อนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อาจนำสืบพยานภายหลังหากไม่ซักค้านพยานฝ่ายตรงข้ามตาม ป.ว.พ. ม.89
จำเลยมิได้ถามค้านพยานโจทก์ในประเด็นข้อใดไว้ แล้วนำพยานของตนในประเด็นข้อนั้นมาสืบในภายหลัง เป็นการต้องห้าม ป.ม.วิแพ่งมาตรา 89 ศาลจะไม่ยอมรับฟังคำจำเลยในประเด็นข้อนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และความรับผิดชอบในการนำตัวพยานมาศาล
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีเองโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานแล้วและศาลทำการไต่สวนมูลฟ้องจนสั่งคดีมีมูลแล้ว นัดพิจารณาต่อไปในชั้นพิจารณาศาลก็ออกหมายเรียกพยานตามบัญชีระบุพยานนั้นมอบให้โจทก์รับไป แม้จะไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอีกในชั้นพิจารณาก็ย่อมถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลตามกฎหมายแล้ว
โจทก์รับหมายพยานไปแล้ว จะส่งให้พยานได้หรือไม่ไม่ปรากฏ พยานไม่มาศาลโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์พยายามเสือกใสหน่วงเหนี่ยว จะว่าโจทก์ประวิงความและไม่ให้โจทก์เลื่อนคดีไม่ได้
โจทก์รับหมายพยานไปแล้ว จะส่งให้พยานได้หรือไม่ไม่ปรากฏ พยานไม่มาศาลโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์พยายามเสือกใสหน่วงเหนี่ยว จะว่าโจทก์ประวิงความและไม่ให้โจทก์เลื่อนคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิเคราะห์หลักฐานขัดแย้งในคดีกรรมสิทธิ์ที่ดิน: ศาลต้องสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
กรณีที่ศาลชั้นต้นสืบตัวโจทก์หนึ่งปากแล้ว งดสืบพยานต่อไป พิพากษายกฟ้องโจทก์เสีย เมื่อปรากฏว่าข้อที่สืบยังไม่เป็นหลักฐานที่แน่นอนพอจะพิพากษาชี้ขาดคดีได้โดยแน่ชัด ศาลสูงก็ต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่