คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 293

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 314 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามคำพิพากษา การอ้างสัญญาใหม่นอกศาลเพื่อหลีกเลี่ยงบังคับคดีเป็นโมฆะ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว. ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาล. โดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่. อ้างฎีกาที่ 417/2504).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดี: ต้องมีการบังคับคดีเกิดขึ้นแล้ว จึงจะยื่นคำร้องได้
ถ้าปรากฏว่าจากวันที่ศาลพิพากษาและออกคำบังคับแก่จำเลยแล้ว ก็ยังไม่มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาอันจะต้องขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลย จำเลยจะร้องต่อศาลให้งดการบังคับคดีไว้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 293 ยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีเมื่อยังไม่มีการบังคับคดีเกิดขึ้น และมีคดีอื่นที่อาจหักกลบได้
ถ้าปรากฏว่าจากวันที่ศาลพิพากษาและออกคำบังคับแก่จำเลยแล้ว ก็ยังไม่มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาอันจะต้องขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลย จำเลยจะร้องต่อศาลให้งดการบังคับคดีไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคท้าย ต้องเป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่นที่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ได้
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคท้าย จะบัญญัติไว้ว่า คำสั่งของศาลที่สั่งงดการบังคับคดีไว้ภายในระยะเวลาที่เห็นสมควร นั้น คำสั่งเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุดก็ตามแต่ถ้าคู่ความจะอุทธรณ์หรือฎีกาขึ้นมาว่า ศาลนำเอามาตรา 293 มาใช้บังคับไม่ถูกต้อง เพราะกรณีมิได้เป็นไปตามบทบัญญัติของวรรคแรกแห่งมาตรานั้นเช่นนี้คู่ความนั้นย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้อย่างเดียวกันกับบทบัญญัติที่ห้ามอุทธรณ์คดีมโนสาเร่แม้ศาลชั้นต้นจะชี้ขาดว่าเป็นคดีมโนสาเร่ และพิพากษาให้คู่ความฝ่ายหนึ่งแพ้คดีไปแล้วคู่ความฝ่ายนั้นก็ย่อมจะอุทธรณ์โต้เถียงได้ว่าคดีนั้น หาใช่คดีมโนสาเร่ไม่
ศาลจะสั่งงดการบังคับคดีไว้ตามมาตรา 293 ได้โดยเหตุ'ที่ตนได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันนั้นฯลฯ เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้' แสดงให้เห็นว่า การฟ้องคดีใหม่นั้นต้องเป็นการฟ้องเรื่องอื่น ซึ่งเมื่อชนะคดีแล้ว อาจนำเอาหนี้ตามคำพิพากษานั้นมาหักกลบลบหนี้กับหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องแรกได้
ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 3 เป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ครั้นโจทก์บังคับคดีเอากับจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ไปฟ้องโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่า จำเลยหลุดพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน ดังนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่น จึงไม่อาจจะบังคับตามมาตรา 293 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิในการของดการบังคับคดี: เมื่อยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาลแล้ว จะกลับมายื่นคำร้องใหม่ไม่ได้
แม้ศาลจะพิพากษาและหมายบังคับคดีไปแล้ว หากมีพฤติการณ์ภายหลังเปลี่ยนแปลงไป อันทำให้การบังคับคดีไร้ผลแล้ว คู่ความที่ถูกศาลบังคับนั้นอาจขอให้ศาลไต่สวนเพื่องดการ บังคับคดีเสียได้
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลขอให้งดการบังคับคดี ศาลเรียกโจทก์จำเลยมาพร้อมกัน จำเลยกลับยอมปฏิบัติตามบังคับศาล โดยขอให้โจทก์ผ่อนระยะเวลาให้ จนศาลสั่งให้เป็นไปตามที่ตกลงกันแล้ว ดังนี้ จำเลยจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลงดการบังคับคดีอีก โดยอ้างเหตุอย่างเดิมไม่ได้ เพราะถือได้ว่า จำเลยได้สละสิทธิในการที่จะให้งดการบังคับคดีเสียแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดี: การยอมปฏิบัติตามคำบังคับศาลทำให้สละสิทธิในการขอให้งดบังคับคดี
แม้ศาลจะพิพากษาและหมายบังคับคดีไปแล้ว หากมีพฤติการณ์ภายหลังเปลี่ยนแปลงไป อันทำให้การบังคับคดีไร้ผลแล้วคู่ความที่ถูกศาลบังคับนั้นอาจขอให้ศาลไต่สวนเพื่องดการบังคับคดีเสียได้
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลขอให้งดการบังคับคดี ศาลเรียกโจทก์จำเลยมาพร้อมกัน จำเลยกลับยอมปฏิบัติตามคำบังคับศาล โดยขอให้โจทก์ผ่อนระยะเวลาให้จนศาลสั่งให้เป็นไปตามที่ตกลงกันแล้ว ดังนี้ จำเลยจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลงดการบังคับคดีอีก โดยอ้างเหตุอย่างเดิมไม่ได้เพราะถือได้ว่าจำเลยได้สละสิทธิในการที่จะให้งดการบังคับคดีเสียแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457-458/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีและการใช้ดุลพินิจของศาลเมื่อมีคดีอื่นเกี่ยวข้อง
มาตรา 293 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติไว้สำหรับงดการบังคับคดีในเรื่องขายทอดตลาด หรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในเมื่อลูกหนี้นั้นอาจกลับชนะคดี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องอื่น อันจะก่อให้เกิดหนี้มาหักกลบลบกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังมีการบังคับคดีนั้นเท่านั้น
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าคดีถึงที่สุดแล้วจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยอ้างว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งขอให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คดียังอยู่ระหว่างพิจารณานั้น ศาลชั้นต้นหาอาจเอามาตรา 293 อนุโลมมาใช้ในกรณีเช่นคดีนี้ไม่ ฉะนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดการบังคับคดีในคดีนี้นั้น จึงต้องถือว่าเป็นคำสั่งตามดุลพินิจดังบัญญัติไว้ในมาตรา 292(2) ซึ่งคำสั่งโดยทั่วไปเช่นนี้คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ และในกรณีดังกล่าวข้างต้นยังไม่เป็นเหตุเพียงพอให้ศาลงดการบังคับคดี
of 32