คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 287

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 397 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินตามคำพิพากษา vs. การบังคับคดี: คำพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์มีผลผูกพันก่อนการบังคับคดี
ในระหว่างที่โจทก์นำยึดที่ดินพิพาทของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมนั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นในคดีที่ผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยได้พิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องคำพิพากษาในคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจึงย่อมมีผลผูกพันทั้งฝ่ายจำเลยและผู้ร้องนับตั้งแต่ได้มีคำพิพากษาดังกล่าวจนกระทั่งถึงวันที่คำพิพากษาดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับ หรืองดเสีย ดังนั้น แม้ผู้ร้องและจำเลยจะได้อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวของศาลชั้นต้นและคดียังไม่ถึงที่สุดก็ตามหากไม่ปรากฏว่าคำพิพากษาดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรืองดเสียแต่ประการใด ผู้ร้องก็ย่อมอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษาดังกล่าวได้ โจทก์ไม่มีสิทธิยึดที่พิพาท แม้ว่าที่พิพาทจะยังมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์อยู่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ร้องที่ศาลพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์ ย่อมได้รับการคุ้มครอง แม้กรรมสิทธิ์ยังไม่โอน และโจทก์มิอาจบังคับคดียึดได้
ในระหว่างที่โจทก์นำยึดที่ดินพิพาทของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมนั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นในคดีที่ผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ได้พิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง คำพิพากษาในคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจึงย่อมมีผลผูกพันทั้งฝ่ายจำเลยและผู้ร้องนับตั้งแต่ได้มีคำพิพากษาดังกล่าวจนกระทั่งถึงวันที่คำพิพากษาดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับ หรืองดเสีย ดังนั้น แม้ผู้ร้องและจำเลยจะได้อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวของศาลชั้นต้นและคดียังไม่ถึงที่สุดก็ตาม หากไม่ปรากฏว่าคำพิพากษาดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรืองดเสียแต่ประการใด ผู้ร้องก็ย่อมอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษาดังกล่าวได้ โจทก์ไม่มีสิทธิยึดที่พิพาท แม้ว่าที่พิพาทจะยังมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์อยู่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อที่ดินก่อนเจ้าหนี้ผู้ขาย: แม้ยังมิได้จดทะเบียน ผู้ซื้อมีสิทธิเหนือเจ้าหนี้
ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินที่ซื้อขายให้แก่ผู้ขายเรียบร้อยแล้ว. และได้ฟ้องผู้ขายจนศาลพิพากษาให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ คดีถึงที่สุดไปแล้ว. ผู้ซื้อย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อน แม้จะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายซึ่งฟ้องคดีภายหลัง หามีสิทธิบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวให้เป็นการกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ซื้อไม่. (อ้างฎีกาที่ 737/2511)
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดที่ดินที่ผู้ขายจะต้องโอนให้แก่ผู้ซื้อตามคำพิพากษาไว้เพื่อบังคับคดีนั้น.ไม่เป็นเหตุขัดข้องที่จะโอนที่ดินนั้นแก่ผู้ซื้อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อที่ดินก่อนเจ้าหนี้ผู้ขาย: แม้ยังมิได้จดทะเบียน ผู้ซื้อมีสิทธิเหนือเจ้าหนี้
ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินที่ซื้อขายให้แก่ผู้ขายเรียบร้อยแล้ว และได้ฟ้องผู้ขายจนศาลพิพากษาให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ คดีถึงที่สุดไปแล้ว ผู้ซื้อย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อน แม้จะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายซึ่งฟ้องคดีภายหลัง หามีสิทธิบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวให้เป็นการกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ซื้อไม่
(อ้างฎีกาที่ 737/2511)
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดที่ดินที่ผู้ขายจะต้องโอนให้แก่ผู้ซื้อตามคำพิพากษาไว้เพื่อบังคับคดีนั้นไม่เป็นเหตุขัดข้องที่จะโอนที่ดินนั้นแก่ผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อที่ดินก่อนเจ้าหนี้ผู้ขาย: การบังคับคดีกระทบสิทธิผู้ซื้อไม่ได้
ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินที่ซื้อขายให้แก่ผู้ขายเรียบร้อยแล้ว และได้ฟ้องผู้ขายจนศาลพิพากษาให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ คดีถึงที่สุดไปแล้วผู้ซื้อย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อน แม้จะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายซึ่งฟ้องคดีภายหลัง หามีสิทธิบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวให้เป็นการกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ซื้อไม่
(อ้างฎีกาที่ 737/2511)
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดที่ดินที่ผู้ขายจะต้องโอนให้แก่ผู้ซื้อตามคำพิพากษาไว้เพื่อบังคับคดีนั้นไม่เป็นเหตุขัดข้องที่จะโอนที่ดินนั้นแก่ผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนสิทธิในที่ดินสำคัญกว่าข้อตกลงปากเปล่า ผู้รับจำนองโดยสุจริตมีสิทธิเหนือทรัพย์สิน
ที่ดินโฉนดที่ 12135 เดิมเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ 1402 ก.แบ่งแยกขายที่ดินให้จำเลยไปตามโฉนดที่ 12135 โดยรังวัดแบ่งแยกส่วนที่จะตัดเป็นถนนสาธารณะ ให้จำเลยไปด้วย ดังนี้ ข้อที่ ก.กับจำเลยตกลงกันว่าจะรังวัดแบ่งแยกที่พิพาทให้เป็นถนนสาธารณะในภายหลังนั้น เมื่อมิได้จดทะเบียนสิทธิ จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้รับจำนองจากจำเลยโดยที่โจทก์ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินส่วนที่เป็นถนนสาธารณะที่ตกลงกันแต่ยังมิได้จดทะเบียน ไม่สามารถยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองสุจริตได้
ที่ดินโฉนดที่ 12135 เดิมเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ 1402. ก.แบ่งแยกขายที่ดินให้จำเลยไปตามโฉนดที่ 12135 โดยรังวัดแบ่งแยกส่วนที่จะตัดเป็นถนนสาธารณะ ให้จำเลยไปด้วย. ดังนี้ ข้อที่ ก.กับจำเลยตกลงกันว่าจะรังวัดแบ่งแยกที่พิพาทให้เป็นถนนสาธารณะในภายหลังนั้น. เมื่อมิได้จดทะเบียนสิทธิ. จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้รับจำนองจากจำเลยโดยที่โจทก์ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนสิทธิในที่ดินสำคัญกว่าข้อตกลงปากเปล่า ผู้รับจำนองยึดทรัพย์ได้แม้มีข้อตกลงเรื่องถนน
ที่ดินโฉนดที่ 12135 เดิมเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ 1402 ก.แบ่งแยกขายที่ดินให้จำเลยไปตามโฉนดที่ 12135 โดยรังวัดแบ่งแยกส่วนที่จะตัดเป็นถนนสาธารณะ ให้จำเลยไปด้วย ดังนี้ ข้อที่ ก.กับจำเลยตกลงกันว่าจะรังวัดแบ่งแยกที่พิพาทให้เป็นถนนสาธารณะในภายหลังนั้น เมื่อมิได้จดทะเบียนสิทธิ จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้รับจำนองจากจำเลยโดยที่โจทก์ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินตามคำพิพากษาชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีลำดับก่อนการยึดทรัพย์ของเจ้าหนี้รายอื่น
คดีแพ่งแดงที่ 199/2507 ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้โอนที่ดินรายพิพาทให้ผู้ร้องตามสัญญาจะซื้อขาย. วันที่ 28 กรกฎาคม 2507 จำเลยกับผู้ร้องยอมความกันในคดีนั้นว่าจำเลยยอมขายที่ดินแปลงพิพาทให้ผู้ร้อง. โดยจะไปทำโอนกันต่อเจ้าพนักงานภายใน 7 วัน.ถ้าไม่ไปทำโอน. ให้ถือเอาสัญญานั้นเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย และจำเลยยอมรับราคาที่ดินที่ค้างจากผู้ร้องในวันทำโอน. ศาลพิพากษาตามยอม. ต่อมาวันที่ 13 กันยายน 2507 โจทก์คดีนี้นำเจ้าหน้าที่ศาลยึดที่ดินรายพิพาท ดังนี้ การนำยึดทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นการทำภายหลังวันที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินรายพิพาทให้ผู้ร้องไปแล้ว. ตลอดทั้งขณะที่นำยึดคำพิพากษานั้นก็ถึงที่สุดและครบกำหนดระยะเวลาที่บังคับให้โอนตามคำพิพากษานั้นด้วย. แม้ว่าในขณะที่ศาลพิพากษาตามยอมให้โอนที่ดินนั้น ที่ดินรายพิพาทต้องถูกยึดไว้ชั่วคราวในคดีอื่นอยู่ก็ดี. แต่ภายหลังก็ได้มีการถอนการยึดไปแล้ว โจทก์เพิ่งมาขอยึดภายหลังจากวันถอนการยึดอีกหลายวันสิทธิในที่ดินของผู้ร้องตามคำพิพากษานั้นก็ย่อมมีอยู่ก่อนวันที่โจทก์จะมาทำการยึดนั้นแล้ว. ไม่ชอบที่โจทก์จะนำยึดมาบังคับชำระหนี้โจทก์ได้อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินตามคำพิพากษาตามยอมมีลำดับก่อนการยึดทรัพย์ของเจ้าหนี้รายอื่น แม้มีการยึดไว้ชั่วคราวก่อนหน้า
คดีแพ่งแดงที่ 199/2507 ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้โอนที่ดินรายพิพาทให้ผู้ร้องตามสัญญาจะซื้อขาย วันที่ 28 กรกฎาคม 2507 จำเลยกับผู้ร้องยอมความกันในคดีนั้นว่าจำเลยยอมขายที่ดินแปลงพิพาทให้ผู้ร้อง โดยจะไปทำโอนกันต่อเจ้าพนักงานภายใน 7 วัน ถ้าไม่ไปทำโอน ให้ถือเอาสัญญานั้นเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย และจำเลยยอมรับราคาที่ดินที่ค้างจากผู้ร้องในวันทำโอน ศาลพิพากษาตามยอม ต่อมาวันที่ 13 กันยายน 2507 โจทก์คดีนี้นำเจ้าหน้าที่ศาลยึดที่ดินรายพิพาท ดังนี้ การนำยึดทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นการทำภายหลังวันที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินรายพิพาทให้ผู้ร้องไปแล้ว ตลอดทั้งขณะที่นำยึดคำพิพากษานั้นก็ถึงที่สุดและครบกำหนดระยะเวลาที่บังคับให้โอนตามคำพิพากษานั้นด้วย แม้ว่าในขณะที่ศาลพิพากษาตามยอมให้โอนที่ดินนั้น ที่ดินรายพิพาทต้องถูกยึดไว้ชั่วคราวในคดีอื่นอยู่ก็ดี แต่ภายหลังก็ได้มีการถอนการยึดไปแล้ว โจทก์เพิ่งมาขอยึดภายหลังจากวันถอนการยึดอีกหลายวันสิทธิในที่ดินของผู้ร้องตามคำพิพากษานั้นก็ย่อมมีอยู่ก่อนวันที่โจทก์จะมาทำการยึดนั้นแล้ว ไม่ชอบที่โจทก์จะนำยึดมาบังคับชำระหนี้โจทก์ได้อีก
of 40