พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: กำหนดเวลาและเหตุสุดวิสัย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 153 การขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 119 แห่งกฎหมายล้มละลาย จะพึงกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและผู้ร้องมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วัน เว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัย เมื่อผู้ร้องมิได้ปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทุนของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามมาตรา 119 การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอปฏิเสธหนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาโดยอ้างว่าทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องแล้วไม่ดำเนินการให้ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด มิใช่กรณีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาให้ผู้ร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: กำหนดเวลาและเหตุสุดวิสัย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 153 การขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 119 แห่งกฎหมายล้มละลาย จะพึงกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและผู้ร้องมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วันเว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัย เมื่อผู้ร้องมิได้ปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทุนของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามมาตรา 119 การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอปฏิเสธหนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาโดยอ้างว่าทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องแล้วไม่ดำเนินการให้ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด มิใช่กรณีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาให้ผู้ร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังยกเลิกการล้มละลาย และการจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชี
เมื่อศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของห้างหุ้นส่วนจำกัด ย่อมมีผลให้ห้างหุ้นส่วนนั้นหลุดพ้นจากการล้มละลาย กลับมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีก อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมสิ้นสุดลง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจดำเนินการบังคับตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลาย เรียกให้ผู้ร้องชำระหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อไป และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในฎีกา ศาลฎีกาก็ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังยกเลิกการล้มละลาย และผลต่อการเรียกร้องหนี้ค่าหุ้น
เมื่อศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของห้างหุ้นส่วนจำกัดย่อมมีผลให้ห้างหุ้นส่วนนั้นหลุดพ้นจากการล้มละลายกลับมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนอีก อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมสิ้นสุดลงเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจดำเนินการบังคับตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลาย เรียกให้ผู้ร้องชำระหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อไป และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในฎีกา ศาลฎีกาก็ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ยืมเงินจากกองมรดก ไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายได้
ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยยืมเงินไปใช้ แต่ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยเป็นผู้ยืม จึงเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ซึ่งเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลาย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจะนำมาหักกลบลบหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 102 ประกอบด้วยมาตรา 94(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ และผลกระทบต่อการหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลาย
ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยยืมเงินไปใช้ แต่ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยเป็นผู้ยืม จึงเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ซึ่งเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลาย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจะนำมาหักกลบลบหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 102 ประกอบด้วยมาตรา 94(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4009/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อขายสินค้ากับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม: การตีความ 'อุตสาหกรรม' ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำว่า 'อุตสาหกรรม'ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) วรรคสุดท้าย หมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของนั้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายสินค้านั้น ผู้ร้องเพียงแต่ประกอบการค้าโดยส่งสัตว์ทะเลออกไปขายต่างประเทศห้องเย็นของผู้ร้องมีไว้เพื่อเก็บรักษาสัตว์ทะเลมิให้เน่าเปื่อยก่อนส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้นผู้ร้องมิได้ประกอบการผลิตห้องเย็นเป็นสินค้าแต่อย่างใด จึงไม่ใช่เป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมห้องเย็น น้ำยาเคมีที่ผู้ร้องสั่งซื้อจากจำเลยก็เพื่อทำความสะอาดภายในห้องเย็นเท่านั้นจึงถือเป็นการส่งมอบสินค้าธรรมดา กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) วรรคท้าย สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องจึงมีอายุความ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4009/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อขายสินค้า: การประกอบกิจการค้ากับอุตสาหกรรมและการกำหนดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำว่า 'อุตสาหกรรม'ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) วรรคสุดท้าย หมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของนั้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายสินค้านั้น ผู้ร้องเพียงแต่ประกอบการค้าโดยส่งสัตว์ทะเลออกไปขายต่างประเทศห้องเย็นของผู้ร้องมีไว้เพื่อเก็บรักษาสัตว์ทะเลมิให้เน่าเปื่อยก่อนส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้นผู้ร้องมิได้ประกอบการผลิตห้องเย็นเป็นสินค้าแต่อย่างใด จึงไม่ใช่เป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมห้องเย็น น้ำยาเคมีที่ผู้ร้องสั่งซื้อจากจำเลยก็เพื่อทำความสะอาดภายในห้องเย็นเท่านั้นจึงถือเป็นการส่งมอบสินค้าธรรมดา กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)วรรคท้าย สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องจึงมีอายุความ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความ, ประเด็นนอกคำร้อง, สิทธิอุทธรณ์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย
ปัญหาเรื่องอายุความ ผู้ร้องมิได้กล่าวแก้เป็นประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ เมื่อผู้ร้องฎีกาในปัญหาเรื่องอายุความศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 119 วรรค 3 ไม่ได้บัญญัติว่าคำสั่งของศาลที่จำหน่ายจากบัญชีลูกหนี้ให้เป็นที่สุด ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายผู้ร้องจากบัญชีลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเป็นคู่ความ ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 145(4)
พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 119 วรรค 3 ไม่ได้บัญญัติว่าคำสั่งของศาลที่จำหน่ายจากบัญชีลูกหนี้ให้เป็นที่สุด ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายผู้ร้องจากบัญชีลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเป็นคู่ความ ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 145(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้จากการเบิกจ่ายเงินทดรองก่อสร้าง: ไม่ใช่หนี้สองปี แต่เป็นหนี้สิบปี
เงินที่บริษัทผู้ล้มละลายมอบให้ผู้ร้องซึ่งเป็นคนของบริษัทเองนำไปใช้จ่ายในการก่อสร้างที่บริษัทรับเหมาทำ หาเข้าลักษณะเป็นค่าที่ได้ออกเงินทดรองไป ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ไม่ จึงมิใช่หนี้ที่มีอายุความสองปี หรือห้าปีตามที่บัญญัติไว้ในบทมาตราดังกล่าว หากเป็นหนี้ที่มีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เมื่อนับจากวันที่บริษัทผู้ล้มละลายจ่ายเงินให้ผู้ร้องจนถึงวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์เรียกร้องให้ผู้ร้องชำระหนี้ ยังไม่ถึงสิบปี สิทธิเรียกร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงยังไม่ขาดอายุความ