คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 656

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิการครอบครองที่ชอบด้วยกฎหมายหลังเจ้าหนี้รับมอบ
ข.ทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อ ข.ตายแล้วให้ที่พิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลยเจ้าหนี้แทนการชำระหนี้ เมื่อจำเลยยินยอมตามนี้โดยได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตั้งแต่ ข.ตายก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีกระทำได้โดยชอบไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 656 วรรค 2 และวรรคสุดท้าย ดังนั้น การครอบครองของ ข.จึงเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่ ข.ตาย จำเลยหาได้ครอบครองที่พิพาทแทน ข. หรือโจทก์ซึ่งเป็นทายาทไม่ จำเลยจึงไม่ตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยึดถือแทนตามประมวลกกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังโจทก์หรือทายาทอื่นของ ข. จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิของเจ้าหนี้และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์
ข. ทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อ ข. ตายแล้วให้ที่พิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลยเจ้าหนี้แทนการชำระหนี้ เมื่อจำเลยยินยอมตามนี้โดยได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตั้งแต่ ข. ตาย ก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีกระทำได้โดยชอบไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง และวรรคสุดท้ายดังนั้น การครอบครองของ ข. จึงเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่ ข.ตาย จำเลยหาได้ครอบครองที่พิพาทแทน ข. หรือโจทก์ซึ่งเป็นทายาทไม่ จำเลย จึงไม่ตกอยู่ในฐานะผู้ยึดถือแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381ไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังโจทก์หรือทายาทอื่นของ ข. จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินจากการไม่ชำระหนี้และการครอบครองเพื่อตนเองของผู้อื่น
โจทก์กู้เงินจำเลยไป 10,000 บาท มอบนาพิพาทอันเป็นที่ดินมือเปล่าให้จำเลยไว้ทำกินต่างดอกเบี้ย และมีข้อตกลงกันว่า ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี โจทก์ยอมยกนาให้เป็นสิทธิแก่จำเลย โจทก์มิได้ชำระหนี้ภายใน 1 ปี จำเลยได้ครอบครองนาพิพาทติดต่อกันมา 18 ปีแล้ว ดังนี้ การกู้เงินของโจทก์มิได้มอบนาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยอย่างเดียว หากมีข้อตกลงยกนาให้จำเลย ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปีด้วย แม้เป็นข้อตกลงที่จำเลยยอมรับเอานาพิพาทเป็นการชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืม โดยมิได้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาของทรัพย์นั้นในเวลาและสถานที่ส่งมอบ อันตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรค 2 และวรรค 3 ก็ตาม แต่โจทก์จำเลยได้แสดงเจตนาล่วงหน้าไว้ต่อกันแล้วว่า ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี โจทก์ยอมยกนาให้จำเลย นาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เจ้าของมีแต่สิทธิครอบครอง การที่โจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี จากนั้นจำเลยได้ครอบครองติดต่อกันมานานถึง 18 ปีนั้น เห็นได้ว่าโจทก์ได้สละการครอบครองตั้งแต่เวลาพ้นกำหนด 1 ปี และจำเลยก็ได้ครอบครองเพื่อตนมาแต่เวลาเดียวกันนั้นแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินจากการไม่ชำระหนี้ และการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยอายุความ
โจทก์กู้เงินจำเลยไป 10,000 บาท มอบนาพิพาทอันเป็นที่ดินมือเปล่าให้จำเลยไว้ทำกินต่างดอกเบี้ย และมีข้อตกลงกันว่า ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี โจทก์ยอมยกนาให้เป็นสิทธิแก่จำเลย โจทก์มิได้ชำระหนี้ภายใน 1 ปี จำเลยได้ครอบครองนาพิพาทติดต่อกันมา 18 ปีแล้ว ดังนี้ การกู้เงินของโจทก์มิได้มอบนาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยอย่างเดียว หากมีข้อตกลงยกนาให้จำเลย ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปีด้วยแม้เป็นข้อตกลงที่จำเลยยอมรับเอานาพิพาทเป็นการชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืมโดยมิได้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาของทรัพย์นั้นในเวลาและสถานที่ส่งมอบ อันตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรค 2 และวรรค 3 ก็ตาม แต่โจทก์จำเลยได้แสดงเจตนาล่วงหน้าไว้ต่อกันแล้วว่า ถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี โจทก์ยอมยกนาให้จำเลย นาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เจ้าของมีแต่สิทธิครอบครอง การที่โจทก์ไม่ชำระหนี้ภายใน 1 ปี จากนั้นจำเลยได้ครอบครองติดต่อกันมานานถึง 18 ปีนั้น เห็นได้ว่าโจทก์ได้สละการครอบครองตั้งแต่เวลาพ้นกำหนด 1 ปี และจำเลยก็ได้ครอบครองเพื่อตนมาแต่เวลาเดียวกันนั้นแล้ว จำเลยจึงได้สิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยการสละการครอบครองที่ดิน: ราคาตลาดและผลของการระงับหนี้
กู้เงินแล้วผู้กู้ทำหนังสือสละการครอบครองที่ดินมือเปล่าให้เป็นการชำระหนี้เมื่อถึงกำหนดใช้เงินแล้ว ผู้ให้กู้ตกลงยอมรับ ผู้ให้กู้เข้าครอบครองได้ทันที ถือเป็นการชำระหนี้ คิดราคาท้องตลาดเท่ากับจำนวนหนี้ตามมาตรา 656 หนี้ระงับตามมาตรา 321

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์เพื่อชำระหนี้จำนอง: นิติกรรมไม่เป็นโมฆะ แม้มิได้ยกขึ้นอ้างในชั้นต้น
แม้ข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตามแต่ปัญหาที่ว่า นิติกรรมเป็นโมฆะหรือไม่ นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจำเลยยกขึ้นอ้างอิงฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรค 2
จำเลยโอนสวนยางรายพิพาทตีใช้หนี้จำนองที่สามีของจำเลยติดค้างโจทก์อยู่เป็นการชำระหนี้จำนองแก่กันให้เสร็จสิ้นไป ไม่ตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้จำนองด้วยการโอนทรัพย์สิน: นิติกรรมไม่เป็นโมฆะ แม้มิได้ยกขึ้นอ้างในชั้นต้น
แม้ข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม แต่ปัญหาที่ว่า นิติกรรมเป็นโมฆะหรือไม่ นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจำเลยยกขึ้นอ้างอิงฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรค 2
จำเลยโอนสวนยางรายพิพาทตีใช้หนี้จำนองที่สามีของจำเลยติดค้างโจทก์อยู่ เป็นการชำระหนี้จำนองแก่กันให้เสร็จสิ้นไปไม่ตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ค่าสินค้าเป็นหนี้เงินกู้ และหลักฐานการชำระหนี้ตามสัญญากู้
การกู้ยืมเงินกันนั้น ผู้กู้อาจยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอื่นแทนจำนวนเงินหรืออาจนำหนี้สินอย่างอื่นมาแปลงเป็นหนี้เงินกู้ก็ได้ หาจำต้องมีการรับเงินกันเสมอไปไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกันจำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใด เมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้ สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงินก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสองจำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้เดิมเป็นหนี้เงินกู้ สัญญากู้สมบูรณ์ การพิสูจน์การชำระหนี้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การกู้ยืมเงินกันนั้น ผู้กู้อาจยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอื่นแทนจำนวนเงินหรืออาจนำหนี้สินอย่างอื่นมาแปลงเป็นหนี้เงินกู้ก็ได้ หาจำต้องมีการรับเงินกันเสมอไปไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่ แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกัน จำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใดเมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงิน ก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942-943/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากโมฆะแต่มีเจตนาสละสิทธิครอบครอง ผู้ซื้อได้สิทธิครอบครองเมื่อพ้นกำหนดไถ่
ทำสัญญาขายฝากที่ดินมือเปล่าโดยมิได้จดทะเบียนและผู้ขายมอบนาให้ผู้ซื้อทำกินโดยมีข้อตกลงว่า ถ้าไม่ไถ่ภายในกำหนด 3 เดือน ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อโดยผู้ขายไม่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ ถึงแม้สัญญาขายฝากจะเป็นโมฆะ แต่ก็ยังถือได้ว่าผู้ขายได้สละสิทธิครอบครองไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว ผู้ซื้อย่อมได้สิทธิครอบครองตั้งแต่วันพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว และกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ให้กู้ยอมรับเอาทรัพย์สินอย่างอื่นแทนจำนวนเงินที่กู้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656
of 10