คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 656

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้และที่ดินเป็นประกัน ชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินตามราคาที่ตกลง
จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ 250 บาท โดยมอบที่ดินบ้านให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันและมีเงื่อนไขว่า จะชำระเงินกู้ภายในกำหนด 15 วันถ้าพ้นกำหนด 15 วัน ที่ดินรายนี้คิดเป็นราคาที่ดิน 250 บาทต้องได้กับโจทก์ ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ต้องให้ที่ดินรายนี้แก่โจทก์เพราะได้กำหนดที่ดินโดยกำหนดราคาลงแน่นอนเป็นการชำระหนี้แทนตัวเงินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 656 วรรค 2 โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินนั้นแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทนเงิน และผลของการไม่คืนสัญญาหลังชำระหนี้แล้ว
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้ แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับชำระหนี้ด้วยสิ่งอื่นแทนเงิน และสิทธิของผู้ค้ำประกันในการขอคืนสัญญา
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยที่ดิน: การสละการครอบครองทำให้เจ้าหนี้ได้สิทธิครอบครอง
เอาที่ดินมือเปล่าตีใช้หนี้เงินกู้นั้น. เพียงแต่สละการครอบครองให้เจ้าหนี้ครอบครองต่อไปนั้น. เจ้าหนี้ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่นั้นแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิที่ดินเพื่อชำระหนี้ เจ้าหนี้ได้สิทธิครอบครอง
เอาที่ดินมือเปล่าตีใช้หนี้เงินกู้นั้น เพียงแต่สละการครอบครองให้เจ้าหนี้ครอบครองต่อไปนั้น เจ้าหนี้ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่นั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีเงื่อนไขโอนที่ดินเป็นสิทธิ: ศาลไม่อนุมัติการบังคับโอน หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้
กู้เงินกันแล้วมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ครอบครองโดยมีเงื่อนไขว่าถ้าไม่ชำระเงินกู้ภายใน 1 ปี ผู้กู้ยอมโอนที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้ ดังนี้ เป็นเรื่องตาม ป.ม. แพ่งฯมาตรา 656 วรรค 2 ซึ่งผู้ให้กู้จะเอาที่ดินซึ่งผู้กู้ได้มอบให้ไว้ เพื่อได้ตกลงกันไว้หาได้ไม่เพราะกฎหมายให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาห้องตลาดแห่งสิ่งของหรือทรัพย์นั้น ฉะนั้นผู้ให้กู้จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้จัดการโอนที่ดินให้แก่โจทก์ไม่ได้และในกรณีเช่นนี้จะถือว่า ผู้ให้กู้ใด้สละสิทธิครองครองที่ดินที่มอบให้ไว้ก็ไม่ได้ เพราะยังจะต้องดำเนินการในเรื่องที่จะยอมโอนต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้เงินและมอบที่ดินเป็นประกัน: สิทธิของผู้ให้กู้เมื่อผู้กู้ผิดนัด
กู้เงินกันแล้วมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ครอบครองโดยมีเงื่อนไขว่าถ้าไม่ชำระเงินกู้ภายใน 1 ปี ผู้กู้ยอมโอนที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้ ดังนี้ เป็นเรื่องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสองซึ่งผู้ให้กู้จะเอาที่ดินซึ่งผู้กู้ได้มอบให้ไว้เพื่อยึดถือเป็นประกันเงินกู้ตามที่ได้ตกลงกันไว้หาได้ไม่ เพราะกฎหมายให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาท้องตลาดแห่งสิ่งของหรือทรัพย์นั้น ฉะนั้น ผู้ให้กู้จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้จัดการโอนที่ดินให้แก่โจทก์ไม่ได้และในกรณีเช่นนี้จะถือว่า ผู้ให้กู้ได้สละสิทธิครอบครองที่ดินที่มอบให้ไว้ก็ไม่ได้ เพราะยังจะต้องดำเนินการในเรื่องที่จะยอมโอนต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเอาทรัพย์สินชำระหนี้แทนเงินโมฆะ: สัญญากู้ที่ระบุโอนที่นาหากไม่ชำระหนี้
สัญญากู้เงินมีใจความว่ากู้เงินไปจำนวนหนึ่ง สัญญาจะใช้คืนภายในกำหนดและมีข้อความว่าผู้กู้ได้นำนาแปลงหนึ่งมาให้ผู้กู้ยึดถือไว้เป็นปะกันโดยมีบันทึกว่า "นายรายนี้ข้าพเจ้าไม่นำต้นเงินและดอกเบี้ยมาให้ท่านตามสัญญานี้ ข้าพเจ้าขอยอมโอนที่นารายนี้ให้แก่ท่านเป็นกรรมนสิทธิ" ดังนี้ถือว่าเป็นสัญญากู้หนี้ธรรมดาไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายที่นาฉะนั้นจึงต้องบังคับตาม ก.ม.ว่าด้วยการยืมใช้สิ้นเปลือง คือ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 650 เมื่อตกลงกันล่วงหน้าว่าถ้าไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดยอมโอนที่นาให้เป็นกรรมสิทธิจึงเป็นการเอาทรัพย์สินอย่าง อื่นชำระหนี้แทนเงินกันทีเดียวโดยมิได้คำนึงถึงราคาเสียเลย จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 656 วรรค 2 และตกเป็นโมฆะตาม วรรค 3 ผู้ให้กู้จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้โอนที่นาให้แก่ตนตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีข้อตกลงโอนที่ดินเมื่อผิดนัดชำระ เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656
สัญญากู้เงินมีใจความว่ากู้เงินไปจำนวนหนึ่ง สัญญาจะใช้คืนภายในกำหนด และมีข้อความว่า ผู้กู้ได้นำนาแปลงหนึ่งมาให้ผู้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันโดยมีบันทึกว่า "นารายนี้ข้าพเจ้าไม่นำต้นเงินและดอกเบี้ยมาให้ท่านตามสัญญานี้ ข้าพเจ้าขอยอมโอนที่นารายนี้ให้แก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์" ดังนี้ ถือว่าเป็นสัญญากู้หนี้ธรรมดาไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายที่นา ฉะนั้นจึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยยืมใช้สิ้นเปลือง คือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 650 เมื่อตกลงกันล่วงหน้าว่า ถ้าไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดยอมโอนที่นาให้เป็นกรรมสิทธิ์ จึงเป็นการเอาทรัพย์สินอย่างอื่นชำระหนี้แทนเงินกันทีเดียวโดยมิได้คำนึงถึงราคานาเสียเลยจึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 656 วรรคสองและตกเป็นโมฆะตามวรรคสาม ผู้ให้กู้จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้โอนที่นาให้แก่ตนตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่เกิดจากการตกลงกันหลังยืมข้าวและเปลี่ยนเป็นเงิน: ศาลยืนตามสัญญา
ขอยืมข้าวเขาครั้งหนึ่งแล้วถึงกำหนดไม่มีข้าวใช้จึงได้ขอยืมข้าวเขามาอีกแล้วตกลงกันกับเจ้าหนี้ว่า ให้ผู้ยืมใช้เป็นเงินจำนวนหนึ่งแล้วได้ทำสัญญากู้ยืมขึ้นไว้ 1 ฉบับ ระบุจำนวนเงินที่ตกลงกันนั้นไว้ดังนี้เจ้าหนี้ย่อมฟ้องร้องให้บังคับตามสัญญากู้นั้นได้
of 10