พบผลลัพธ์ทั้งหมด 293 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกโดยมิชอบและการพิจารณาคำขอพิจารณาคดีใหม่ การส่งหมายโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ไม่ชอบหากส่งถึงภูมิลำเนาได้
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ซึ่งจะต้องยื่นภายในไม่เกินหกเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว ถ้าการส่งคำบังคับได้กระทำโดยมิชอบจะถือว่ามีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อพ้นเวลากำหนดไม่ได้
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาลโดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาลโดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกโดยไม่ชอบและการขอพิจารณาคดีใหม่หลังพ้นกำหนดเวลา ศาลต้องไต่สวนก่อน
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ซึ่งจะต้องยื่นภายในไม่เกินหกเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว ถ้าการส่งคำบังคับได้กระทำโดยมิชอบจะถือว่ามีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อพ้นเวลากำหนดไม่ได้
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาล โดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาล โดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1767/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งนัดพยาน: ระยะเวลาแจ้งนัดต้องเหมาะสมเพื่อให้จำเลยทราบวันนัดตามกฎหมาย หากระยะเวลาไม่เพียงพอ ศาลต้องเลื่อนคดี
เมื่อระยะเวลานับแต่วันที่ปิดหมายนัดแจ้งให้ผู้ร้องทราบวันนัดสืบพยานจนถึงวันนัดสืบพยานดังกล่าวยังไม่พ้นกำหนดเวลาสิบห้าวันอันจะถือว่าการส่งหมายนัดมีผลดังนั้นแม้ผู้ร้องจะไม่มาศาลและไม่ขอเลื่อนคดีศาลก็จำเป็นต้องเลื่อนคดีอยู่แล้วเพราะยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ทราบวันนัดสืบพยานตามกฎหมายกรณีจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีตามที่ขอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหนังสือทวงหนี้ไปยังภูมิลำเนาที่เปลี่ยนแปลง และผลของการไม่ปฏิเสธหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
ผู้ร้องมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งสับเปลี่ยนกันไป ถือได้ว่าบ้านแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 45 การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งหนังสือทวงหนี้และหนังสือเตือนให้ผู้ร้องชำระหนี้ไปที่บ้านแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นการชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74,79 แล้ว
ผู้ร้องได้รับหนังสือทวงหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยชอบแล้วแต่มิได้ปฏิเสธหนี้ดังกล่าวภายในกำหนด ถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ตามจำนวนที่แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 วรรคแรก
ผู้ร้องได้รับหนังสือทวงหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยชอบแล้วแต่มิได้ปฏิเสธหนี้ดังกล่าวภายในกำหนด ถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ตามจำนวนที่แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3336/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหนังสือแจ้งยึดทรัพย์และการขายทอดตลาดเมื่อจำเลยไม่อยู่ที่ภูมิลำเนา ศาลอนุญาตให้ส่งโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ได้
หลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4 ไว้แล้ว ได้มีหนังสือแจ้งความยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 เพื่อทราบโดยไปส่งที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แต่ส่งหนังสือดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ไม่ได้เพราะไม่พบตัวและไม่มีผู้ใดรับแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งให้ถ้าไม่มีผู้ใดรับโดยชอบให้ปิดหมายได้ ปรากฏว่าพบผู้มีชื่อที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แจ้งว่าจำเลยที่ 4 ไม่อยู่โดยได้ย้ายออกไปจากบ้านเรือนไปนานแล้ว โจทก์จึงยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ ดังนี้ ถือได้ว่าการส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีส่งธรรมดา จึงต้องส่งโดยวิธีอื่นแทนดังระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรก เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งหนังสือดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ จึงเป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรชอบด้วยกฎหมายแล้ว และประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ดังกล่าวย่อมมีผลใช้ได้ เมื่อกำหนด 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้ว ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 79 วรรคสอง ทนายจำเลยที่ 4 จะคัดค้านว่าจำเลยที่ 4 มิได้อยู่ในประเทศไทยเพราะเดินทางไปต่างประเทศแล้วจะถือว่าได้มีการส่งคำคู่ความหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3336/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหนังสือแจ้งยึดทรัพย์ทางวิธีประกาศเมื่อส่งทางธรรมดาไม่ได้ ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยอ้างว่าไม่ได้อยู่ในประเทศ
หลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4 ไว้แล้ว ได้มีหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 เพื่อทราบโดยไปส่งที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แต่ส่งหนังสือ ดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ไม่ได้เพราะไม่พบตัวและไม่มีผู้ใดรับแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่ง+ถ้าไม่มีผู้ใดรับโดยชอบให้ปิดหมายได้ปรากฏว่าพบผู้มีชื่อที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แจ้งว่าจำเลยที่ 4 ไม่อยู่โดยได้ย้ายออกจากบ้านเรือนไปนานแล้ว โจทก์จึงยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ ดังนี้ ถือได้ว่าการส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ได้ จำเลยที่ 4 ไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีส่งธรรมดา จึงต้องส่งโดยวิธีอื่นแทนดังระบุไว้ในประมวลกำหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรก เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งหนังสือดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ จึงเห็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรชอบด้วยกฎหมายแล้ว และประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ดังกล่าวย่อมมีผลใช้ได้ เมื่อกำหนด 15 วัน ได้ล่วงพ้นไปแล้ว ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 79 วรรคสอง ทนายจำเลยที่ 4 จะคัดค้านว่าจำเลยที่ 4 มิได้อยู่ในประเทศไทยเพราะเดินทางไปต่างประเทศแล้วจะถือว่าได้มีการส่งคำคู่ความหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกผิดที่อยู่ การขาดนัดยื่นคำให้การ และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
แม้สัญญาประกันผู้ต้องหาที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ระบุว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 172 ซอยสุวรรณสวัสดิ์ฯลฯ ก็ตาม แต่ต่อมาจำเลยได้ย้ายจากภูมิลำเนาเดิมไปอยู่บ้านเลขที่ 633 ถนนสุขุมวิท ฯลฯ แล้ว และปรากฏจากการติดต่อนัดส่งตัวผู้ต้องหาระหว่างโจทก์ที่ 2 กับจำเลย แสดงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ทราบถึงภูมิลำเนาใหม่ของจำเลยแล้วด้วยเช่นนี้ การที่โจทก์ฟ้องโดยระบุว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 172 ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม จึงมิใช่ภูมิลำเนาจำเลย ครั้นส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยไม่ได้ โจทก์ก็แถลงศาลว่า ไม่ทราบว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด เป็นเหตุให้ศาลเชื่อสั่งให้โฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทน จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 จะถือว่าจำเลยทราบการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้วไม่ได้ จำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งประกาศขายทอดตลาดที่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ผู้รับประกาศไม่อยู่ ณ ที่อยู่ และการประเมินราคาทรัพย์สินที่เหมาะสม
ศาลส่งประกาศขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองแก่ผู้จำนองไม่ได้เพราะบ้านจำเลยใส่กุญแจ จึงปิดประกาศไว้ที่บ้านเรือนอันเป็นภูมิลำเนาของผู้จำนอง เป็นการส่งประกาศถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จำเลยอ้างว่าไม่ทราบ เพราะไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้กระบวนการพิจารณาเป็นโมฆะ และสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำหลังจากการส่งหมายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่มีผลผูกพัน
เจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย จำเลยไม่ยอมรับ เจ้าพนักงานศาลจึงวางหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ต่อหน้าจำเลยโดยมิได้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่มีอำนาจหรือเจ้าพนักงานตำรวจไปด้วยเพื่อเป็นพยานไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 78 และการที่เจ้าพนักงานศาลส่งหมายแจ้งวันนับสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดหมาย โดยศาลมิได้สั่งให้ส่งโดยวิธีนี้ ไม่ชอบด้วยมาตรา 79 จึงต้องถือว่าศาลยังมิได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่นั้นมาจึงเป็นการไม่ชอบและไม่มีผลตามกฎหมาย ดังนั้น การที่จำเลยถูกจับกุมตัวมาศาลเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลและจำเลยแถลงต่อศาลว่ายินดีที่จะโอนที่ดินตามคำพิพากษาให้โจทก์ จึงไม่มีผลไปด้วย
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยโดยไม่ชอบนั้น เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การนั้นเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยโดยไม่ชอบนั้น เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การนั้นเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทำให้การพิจารณาคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย จำเลยไม่ยอมรับ เจ้าพนักงานศาลจึงวางหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ต่อหน้าจำเลยโดยมิได้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีอำนาจหรือเจ้าพนักงานตำรวจไปด้วยเพื่อเป็นพยานไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 78 และการที่เจ้าพนักงานศาลส่งหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดหมายโดยศาลมิได้สั่งให้ส่งโดยวิธีนี้ ไม่ชอบด้วยมาตรา 79 จึงต้องถือว่าศาลยังมิได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่นั้นมาจึงเป็นการไม่ชอบและไม่มีผลตามกฎหมาย ดังนั้น การที่จำเลยถูกจับกุมตัวมาศาลเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลและจำเลยแถลงต่อศาลว่ายินดีที่จะโอนที่ดินตามคำพิพากษาให้โจทก์ จึงไม่มีผลไปด้วย
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยโดยไม่ชอบนั้น เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งให้ข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การนั้นเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยโดยไม่ชอบนั้น เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งให้ข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การนั้นเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ได้