คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 248

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,123 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้อนุบาลผู้ไร้ความสามารถ: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีไม่มีทุนทรัพย์
คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นผู้ไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาลนั้น เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท และเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาจำเลยหลายแห่ง: ศาลมีอำนาจฟ้องได้หากจำเลยทราบและต่อสู้คดี
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล. ก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่.เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506).
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93บาท. ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ถิ่นที่อยู่จำเลยหลายแห่ง ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้หากจำเลยทราบฟ้องและต่อสู้คดี
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506)
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน 774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาจำเลยหลายแห่ง การฟ้องคดีต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณา และการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล ก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506)
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน 774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิผู้เช่าถูกจำกัด คดีขับไล่ผู้ละเมิดอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ & สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในคดีขับไล่ผู้ละเมิด
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่าผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิในการอ้างเงื่อนเวลาทำไม่ได้ คดีขับไล่ผู้ละเมิดอุทธรณ์ฎีกาได้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่า. ผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่.
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์. ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย.
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์. จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าและการสิ้นสุดของสัญญาต่างตอบแทน: การเช่าต่อหลังสัญญาต่างตอบแทนหมดอายุ
คดีฟ้องขับไล่ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น เมื่อผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
จำเลยช่วยออกเงินค่าก่อสร้างให้แก่โจทก์และโจทก์ยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนด 6 ปีนั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อหมดอายุสัญญาเช่านั้นแล้ว จำเลยได้เช่าต่อมาสัญญาเช่าใหม่นี้เป็นสัญญาเช่าธรรมดา หาใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือจากสัญญาเช่าไม่
จำเลยส่งค่าเช่าไปชำระภายหลังโจทก์บอกเลิกไปแล้วหาทำให้สัญญาที่โจทก์บอกเลิกไปแล้วมีผลให้ต้องผูกพันโจทก์แต่ประการใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าและการสิ้นสุดของสัญญาต่างตอบแทน กรณีช่วยเหลือค่าก่อสร้าง
คดีฟ้องขับไล่ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น. เมื่อผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง. และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้. จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.
จำเลยช่วยออกเงินค่าก่อสร้างให้แก่โจทก์และโจทก์ยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนด 6 ปีนั้น. เป็นสัญญาต่างตอบแทน.เมื่อหมดอายุสัญญาเช่านั้นแล้ว. จำเลยได้เช่าต่อมาสัญญาเช่าใหม่นี้เป็นสัญญาเช่าธรรมดา. หาใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือจากสัญญาเช่าไม่.
จำเลยส่งค่าเช่าไปชำระภายหลังโจทก์บอกเลิกไปแล้ว.หาทำให้สัญญาที่โจทก์บอกเลิกไปแล้วมีผลให้ต้องผูกพันโจทก์แต่ประการใดไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่า, สัญญาต่างตอบแทน, การบอกเลิกสัญญา, ค่าเสียหาย, สิทธิการเช่า
คดีฟ้องขับไล่ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น เมื่อผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
จำเลยช่วยออกเงินค่าก่อสร้างให้แก่โจทก์และโจทก์ยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนด 6 ปีนั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อหมดอายุสัญญาเช่านั้นแล้ว จำเลยได้เช่าต่อมาสัญญาเช่าใหม่นี้เป็นสัญญาเช่าธรรมดาหาใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือจากสัญญาเช่าไม่
จำเลยส่งค่าเช่าไปชำระภายหลังโจทก์บอกเลิกไปแล้วหาทำให้สัญญาที่โจทก์บอกเลิกไปแล้วมีผลให้ต้องผูกพันโจทก์แต่ประการใดไม่
of 113