พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,123 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินส่วนแบ่งทนายความโดยไม่มีหลักฐานหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลได้ และการฎีกาในข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย
การที่ทนายความจ่ายเงินส่วนได้ของลูกความที่ตนรับมาจากศาลให้แก่ลูกความนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้นแม้ตัวความจะไม่ได้ออกใบรับเงินให้ ทนายก็นำสืบพยานบุคคลได้
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาทเศษ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาทเศษ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับฟัง เพราะข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยปฏิเสธต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท)เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และศาลอุทธรณ์กลับว่า จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้องก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องขัดทรัพย์: ศาลไม่อำนาจพิจารณาค่าเสียหายในชั้นขัดทรัพย์ ผู้ร้องต้องฟ้องแยกต่างหาก
การร้องขัดทรัพย์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 นั้น กฎหมายให้อำนาจผู้ร้องที่จะร้องขอได้ แต่เพียงให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดเท่านั้นจะเรียกร้องค่าเสียหายในการที่ถูกยึดด้วยไม่ได้ หากติดใจเรียกร้องเอาค่าเสียหาย ก็ต้องว่ากล่าวอีกส่วนหนึ่ง
ร้องขัดทรัพย์ และตั้งทุนทรัพย์มาเป็นเงิน 2000 บาท กับเรียกค่าเสียหายอีก 1000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ทักท้วงประการใดคงรับวินิจฉัยคดีให้ ในที่สุดพิพากษาต้องกันว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ มิใช่ของผู้ร้อง จึงยกคำร้องของผู้ร้องเสียดังนี้ ผู้ร้องจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่พิพาทในคดี ถือได้ว่ามีเพียง 2000 บาท เท่านั้น ส่วนค่าเสียหายอีก 1000 บาท ผู้ร้องจะร้องขึ้นมาด้วยไม่ได้ ต้องตัดออกเสีย
ร้องขัดทรัพย์ และตั้งทุนทรัพย์มาเป็นเงิน 2000 บาท กับเรียกค่าเสียหายอีก 1000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ทักท้วงประการใดคงรับวินิจฉัยคดีให้ ในที่สุดพิพากษาต้องกันว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ มิใช่ของผู้ร้อง จึงยกคำร้องของผู้ร้องเสียดังนี้ ผู้ร้องจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่พิพาทในคดี ถือได้ว่ามีเพียง 2000 บาท เท่านั้น ส่วนค่าเสียหายอีก 1000 บาท ผู้ร้องจะร้องขึ้นมาด้วยไม่ได้ ต้องตัดออกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องขัดทรัพย์: ศาลมีอำนาจสั่งปล่อยทรัพย์เท่านั้น ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการยึดได้
การร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 นั้น กฎหมายให้อำนาจผู้ร้องที่จะร้องขอได้ แต่เพียงให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดเท่านั้น จะเรียกร้องค่าเสียหายในการที่ถูกยึดด้วยไม่ได้ หากติดใจเรียกร้องเอาค่าเสียหาย ก็ต้องว่ากล่าวอีกส่วนหนึ่ง
ร้องขัดทรัพย์ และตั้งทุนทรัพย์มาเป็นเงิน 2000 บาท กับเรียกค่าเสียหายอีก 1000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ทักท้วงประการใดคงรับวินิจฉัยคดีให้ ในที่สุดพิพากษาต้องกันว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ มิใช่ของผู้ร้อง จึงยกคำร้องของผู้ร้องเสียดังนี้ ผู้ร้องจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่พิพาทในคดีถือได้ว่ามีเพียง 2000 บาทเท่านั้น ส่วนค่าเสียหายอีก 1000 บาท ผู้ร้องจะร้องขึ้นมาด้วยไม่ได้ ต้องตัดออกเสีย
ร้องขัดทรัพย์ และตั้งทุนทรัพย์มาเป็นเงิน 2000 บาท กับเรียกค่าเสียหายอีก 1000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ทักท้วงประการใดคงรับวินิจฉัยคดีให้ ในที่สุดพิพากษาต้องกันว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ มิใช่ของผู้ร้อง จึงยกคำร้องของผู้ร้องเสียดังนี้ ผู้ร้องจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่พิพาทในคดีถือได้ว่ามีเพียง 2000 บาทเท่านั้น ส่วนค่าเสียหายอีก 1000 บาท ผู้ร้องจะร้องขึ้นมาด้วยไม่ได้ ต้องตัดออกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาจำกัดเฉพาะประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และการรับรองข้อเท็จจริงไม่ถือเป็นการรับรองให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า ศาลชั้นต้น พิพากษาให้ยกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์ยังมิได้บอกเลิกสัญญาเช่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ยกคำ พิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณา พิพากษาใหม่ ดังนี้ คู่ความจะฎีกาได้แต่เฉพาะผัญหาข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้เท่านั้น
ผู้พิพากษาพิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า "ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้" ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้ มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้พิพากษาพิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า "ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้" ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้ มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกา: ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโดยอ้างว่าโจทก์ยังมิได้บอกเลิกสัญญาเช่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ คู่ความจะฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้เท่านั้น
ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า 'ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้' ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า 'ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้' ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยและการเพิ่มราคาทรัพย์สินในชั้นฎีกา
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000บาท โจทก์แพ้คดีจำเลยในข้อเท็จจริงมาแล้ว 2 ศาล จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 โจทก์จะมายื่นคำร้องขอเพิ่มราคาทรัพย์สินที่พิพาทในชั้นฎีกาเพื่อจะให้ฎีกาได้นั้น ไม่ต้องด้วยความประสงค์ศาลฎีกาย่อมให้ยกฎีกาโจทก์เสีย (อ้างฎีกาที่ 1274/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายหลังศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7,000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7,000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสียโจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีก ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น: ข้อจำกัดในการฎีกา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสีย โจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีกดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่มีราคาซื้อขายต่ำ ไม่เข้าข่ายเหตุฎีกา
โจทก์จำเลยโต้เถียงพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดินกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ที่นาเป็นของจำเลย ที่ดินที่ไม่ใช่นาเป็นของโจทก์ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ทั้งที่นาและไม่ใช่ที่นาเป็นของจำเลย ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้น้อยเมื่อที่ดินพิพาททั้งหมดมีราคาเพียง 500 บาท ก็จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้