คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 248

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,123 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแท้จริงในสัญญายอมความ: รายการทรัพย์ที่ระบุชัดเจนมีผลเหนือข้อความกว้างๆ ในตอนต้น
สัญญายอมความซึ่งข้อความตอนต้นกล่าวว่าให้แบ่งมรดกตามพินัยกรรม แต่ในตอนหลังของข้อเดียวกันนั้นระบุรายการทรัพย์ไว้ชัดแจ้งว่าให้แบ่งทรัพย์อย่างใด ให้ใคร และแบ่งกันอย่างไรซึ่งไม่ตรงกับพินัยกรรม ดังนี้ถือว่าคู่ความมีเจตนาอันแท้จริงที่จะแบ่งทรัพย์มรดกตามรายการที่ระบุในตอนหลัง
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทที่ดิน: การรุกล้ำที่ดินและการแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริงเนื่องจากทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกครัว ห้องและกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่โจทก์เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหาย 490 บาท จำเลยว่าที่ที่ปลูกครัวห้องแถวและรั้วเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การทำรั้วเป็นการละเมิด แต่การปลูกครัวและห้องแถวไม่เป็นการละเมิด ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 80 บาทศาลอุทธรณ์แก้ว่าการทำรั้วก็ไม่เป็นการละเมิดให้ยกฟ้องทั้งหมด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ (คดีนี้คู่ความไม่ได้ตีราคาที่ดินตรงที่พิพาทกันนั้นขึ้นมา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องเขตที่ดินและการรุกล้ำที่ดิน ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย ทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกครัว ห้องและกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่โจทก์เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหาย 490 บาท จำเลยว่าที่ ๆ ปลูกครัวห้องแถวและรั้วเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การทำรั้วเป็นการละเมิด แต่การปลูกครัวและห้องแถวไม่เป็นการละเมิด ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 80 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ว่าการทำรั้วก็ไม่เป็นการละเมิดให้ยกฟ้องทั้งหมด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้. (คดีนี้คู่ความไม่ได้ตีราคาที่ดินตรงที่พิพาทกันนั้นขึ้นมา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื่องจากสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฏว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิสภาพบุคคล-การละเมิดสิทธิ-การบวชเป็นสิทธิ-คณะสงฆ์มีอำนาจพิจารณา
สิทธิแห่งสภาพบุคคลหมายถึงสิทธิดังเช่นที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ลักษณะ 2. ซึ่งในส่วนที่ 1 ก็ใช้คำว่า "สภาพบุคคล" เช่นเดียวกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าคณะตรวจการภาค 2 และจำเลยที่ 2 เป็นผู้รักษาการแทนสังฆนายก โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 บังคับให้สึกจากพระภิกษุ และเมื่อสึกแล้วจำเลยที่ 2 ได้สั่งห้ามมิให้โจทก์อุปสมบท การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ ดังนี้ ไม่ใช่เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิตามสภาพบุคคล โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
สำหรับจำเลยที่ 1 แม้จะบอกให้โจทก์สึก แต่โจทก์ก็ยอมสึกเอง จะว่าจำเลยที่ 1 ลงทัณฑกรรมแก่โจทก์ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ห้ามไม่ให้อุปัชฌาย์อุปสมบทให้โจทก์นั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่า ถ้าโจทก์จะบวชคณะสงฆ์จะต้องยอมให้บวช หรืออุปัชฌาย์จะต้องบวชให้ ฉะนั้นจึงเป็นสิทธิของคณะสงฆ์และผู้เป็นอุปัชฌาย์ที่จะยอมรับให้บวชหรือจะบวชให้หรือไม่ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นละเมิดตามมาตรา 420 และทั้งไม่เข้าตามมาตรา 421,422ด้วย
อนึ่งจะว่าคำสั่งจำเลยที่ 2 เป็นการเพิ่มทัณฑกรรมอันขัดต่อพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 มาตรา 23 และประมวลระเบียบวิธีพิจารณาวินิจฉัยอธิกรณ์มาตรา 107 ก็ไม่ได้เพราะประการแรกคำแนะนำของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เป็นการลงทัณฑกรรมดังกล่าว คำสั่งของจำเลยที่ 2 ก็เป็นการเพิ่มทัณฑกรรมไม่ได้ ประการที่ 2 มาตรา 23 และมาตรา 107 ดังกล่าวเป็นบทบัญญัติสำหรับสงฆ์ เมื่อโจทก์ได้สึกจากสมณะเพศแล้วคำสั่งของจำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่เป็นการลงทัณฑ์กรรมตามกฎหมายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำรุดทรุดโทรมตามสภาพของห้องเช่าและการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีมโนสาเร่ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงคู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับมรดก: การเปลี่ยนแปลงที่เข้าข่าย 'แก้มาก' และขอบเขตการฎีกา
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดิน 11 โฉนด ครึ่งหนึ่งเป็นเงิน 1,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์แก้ว่าให้ยกฟ้องเฉพาะที่ดิน 4 โฉนดซึ่งมีราคามากและเป็นสาระสำคัญของคดีนอกนั้นยืนตาม ดังนี้เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยในชั้นอุทธรณ์ และข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก มีทุนทรัพย์ 1200 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ล้อ ราคา 200 บาทเป็นของจำเลย ศาลอุทธรณ์แก้ว่า ล้อ เป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: ข้อพิพาทเรื่องการครอบครองทรัพย์สินและอายุความ
โจทก์ 6 คน ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์แก้ แบ่งมรดกให้แก่โจทก์คนหนึ่งกับจำเลยคนละครึ่งดังนี้ โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ เหตุยังไม่สมควรห้ามจำหน่ายทรัพย์
ในคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
of 113