คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 366 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9499/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้จำนองเหนือสิทธิอื่นที่ยังมิได้จดทะเบียน การบังคับคดีไม่กระทบสิทธิผู้ซื้อ
โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์จำนองของจำเลยออกขายทอดตลาด และปรากฏในชั้นการจดทะเบียนโอนที่ดินให้ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดว่า ศาลได้มีคำพิพากษาในอีกคดีหนึ่งให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ ก. พร้อมรับชำระราคา หากไม่จดทะเบียนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา ดังนี้ แม้ ก. จะเป็นผู้อยู่ในฐานะอันจดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1300 แต่ไม่ปรากฏว่า ก. ได้ร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินเข้ามาในคดี ทั้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287 ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 288 และ 289 เจ้าหนี้สามัญจะบังคับคดีให้กระทบกระทั่งถึงสิทธิของเจ้าหนี้ผู้มีบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่นที่มีอยู่เหนือทรัพย์สินนั้นไม่ได้ โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีหลักประกันพิเศษและตามมาตรา 287 บุริมสิทธิที่จะใช้ได้ก่อนสิทธิจำนองจะต้องเป็นบุริมสิทธิที่ได้จดทะเบียนตาม ป.พ.พ. มาตรา 285 และ 286 แล้วเท่านั้น การบังคับคดีของโจทก์ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิของ ก. เมื่อโจทก์บังคับคดีโดยชอบ จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการบังคับคดีเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องจ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์และดำเนินการจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8909/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ต้องวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระเงินตามคำพิพากษาหรือประกันให้ได้ตามกฎหมาย
ในคดีแพ่ง เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยแล้ว หากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว จำเลยจะต้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นไปยังศาลอุทธรณ์โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ทั้งจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลอีกด้วย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 การที่จำเลยเพียงยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้ชั่วคราว โดยที่ศาลยังมิได้อนุญาตให้ทุเลาการบังคับได้ จะถือว่าจำเลยได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลแล้วมิได้ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องยกคำร้อง แม้จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในเวลาที่ศาลกำหนดก็มิใช่กรณีทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8887/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสาม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีและหนี้เงินกู้อื่นโดยอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กู้ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันและจำนอง จำเลยที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้แก่บุคคลภายนอกแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยอ้างว่าจำเลยที่ 1 ยังมิได้เบิกเงินเกินวงเงินที่ตกลงไว้ จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ผิดสัญญา แต่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยที่ 1 กู้เงินเพื่อชำระค่าเช่าที่ดินและขุดบ่อเลี้ยงปลาให้แก่บุคคลภายนอก จึงให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่บุคคลภายนอกแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับฟ้องโจทก์ ดังนั้น ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8694/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า: การพิจารณาความแตกต่างของเจตนาและกรรมเดียวความผิดหลายบท
เหตุที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพราะจำเลยขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนดีด้วย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 1 นัด เมื่อ ส. บิดาผู้ตายเข้ามาห้าม จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิง ส. อีก 1 นัด ดังนี้ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ส. ซึ่งเป็นการกระทำในครั้งหลังนี้เป็นเจตนาที่เพิ่งเกิดขึ้น ต่างไปจากเจตนาเดิมที่จำเลยยิงผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า ส. อีกกระทงหนึ่ง
เมื่อยิง ส. แล้ว จำเลยได้เข้าไปยิงผู้ตายซ้ำอีกซึ่งเป็นการยิงเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ตายถึงแก่ความตายจริงตามเจตนาที่มีมาตั้งแต่แรกซึ่งขณะนั้น ผ. ประคองผู้ตายอยู่ กระสุนปืนจึงไปถูกน่องของ ผ. ด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80,60 เป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8604/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินไม่สมบูรณ์ สิทธิยังไม่โอน การครอบครองเพื่อชำระหนี้
ข้อความในสัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ฉบับพิพาทแสดงให้เห็นว่าเป็นการแบ่งขาย มิใช่ขายทั้งแปลง และมิได้ระบุว่าแบ่งขายเนื้อที่เท่าใด ไม่ปรากฏว่าที่ดินที่ตกลงซื้อขายกันราคาไร่ละเท่าใด ไม่สามารถคำนวณเป็นเนื้อที่ได้ว่า ตกลงขายเนื้อที่เท่าใด คู่สัญญามิได้ตกลงส่งมอบที่ดินพิพาทกันในวันทำสัญญา แต่จะส่งมอบกันหลังจากทำสัญญาแล้ว 5 เดือนเศษ สัญญาดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญาจะซื้อขาย มิใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทจึงยังมิได้โอนไปยังผู้จะซื้อตามสัญญาดังกล่าว
จำเลยมอบที่ดินพิพาทให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ยืม โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทในฐานะครอบครองแทนจำเลยสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8362/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดมีสิทธิรับทราบคำร้องเพิกถอนการขาย เพื่อปกป้องประโยชน์ส่วนได้เสีย
ป.วิ.พ. มาตรา 280 เป็นเพียงบทสันนิษฐานเพื่อประโยชน์แห่งบทบัญญัติในภาค 4 ว่าด้วยวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาและการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ให้ถือว่าบุคคลตามที่ระบุไว้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีบังคับคดีเท่านั้น มิได้หมายความว่าบุคคลอื่นนอกจากที่ระบุไว้จะเป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ย่อมกระทบกระเทือนต่อประโยชน์ส่วนได้เสียของผู้ซื้อทรัพย์ได้โดยตรง จึงต้องให้โอกาสผู้ซื้อทรัพย์ได้โต้แย้งคัดค้านด้วย การที่ศาลชั้นต้นไม่ส่งสำเนาคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์เสียก่อนไต่สวนคำร้อง เป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.ว่าด้วยการพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8304/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีเช็คพิพาทมูลคดีเกิดที่ไหน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าศาลที่มีเขตอำนาจเหนือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นเป็นศาลมูลคดีเกิด
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับชำระหนี้ตามเช็คอันมีมูลหนี้มาจากการซื้อขายหุ้นในบริษัท ก. ตั้งอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ส่วนจำเลยให้การว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการติดตามลูกหนี้ของบริษัท ก. จึงเห็นได้เหตุที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิเป็นหนี้เกี่ยวกับกิจการของบริษัท ก. ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นศาลมูลคดีเกิดด้วยศาลหนึ่ง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดปัตตานี
อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นที่ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลชั้นต้นหรือไม่ เมื่อศาลฎีกาฟังว่าคดีอยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้นและต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ที่ว่าคดีอยู่ในเขตอำนาจของศาลชั้นต้นหรือไม่จึงเป็นคดีปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ตามตารางท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 1 ข้อ (2)(ก)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8148/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการลงโทษจำเลยในข้อหานำยาเสพติดเข้าประเทศ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์มีพยานขณะจับกุม 2 ปาก คือ ร้อยตำรวจเอก ส. และจ่าสิบตำรวจ ร. พยานทั้งสองเบิกความแต่เพียงว่าได้ทราบจากสายลับว่าจำเลยจะนำเมทแอมเฟตามีนจากหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย เพื่อนำไปส่งที่ภาคกลางเท่านั้น ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำเมทแอมเฟตามีนจากนอกราชอาณาจักรเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนั้น ตามบันทึกการจับกุมพยานทั้งสองจึงแจ้งข้อหาแก่จำเลย เพียงว่ามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยเพิ่งถูกตั้งข้อหาในชั้นสอบสวนว่าจำเลยนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย โดยอาศัยข้อเท็จจริงจากคำบอกเล่าของจำเลยในชั้นจับกุม โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดอีก คำรับของจำเลยในชั้นจับกุมหรือชั้นสอบสวนเป็นเพียงพยานบอกเล่าเท่านั้นมีน้ำหนักน้อย ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบจึงจะมีน้ำหนักรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยได้ ทั้งการกระทำความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายมีโทษสถานเดียวคือประหารชีวิต แม้ในกรณีที่จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาล โจทก์ก็ยังต้องสืบพยานจนกว่าศาลจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและโจทก์ไม่มีพยานแวดล้อมกรณีอื่น คงมีแต่คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนซึ่งยังมีข้อโต้เถียงว่าจำเลยได้ให้การด้วยความสมัครใจหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังลงโทษจำเลยในความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้าในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8088-8089/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิเรียกร้องคดีอาญาจากการประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งเกี่ยวกับเช็ค
มูลหนี้ตามเช็คทั้งสองสำนวนนี้เป็นมูลหนี้รายเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีแพ่งและศาลมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1ไปแล้ว ย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ตามเช็คทั้งสองสำนวนนี้เป็นอันระงับไป โจทก์คงมีแต่สิทธิที่จะเรียกให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 เท่านั้น แม้จำเลยที่ 2จะมิได้ถูกฟ้องและยอมความในคดีแพ่งด้วยก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทได้อีก เพราะมูลหนี้ดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทเพียงฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 1 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7276/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดตามเช็ค: การลงลายมือชื่อในฐานะกรรมการบริษัท ไม่ใช่การรับผิดส่วนตัว
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ผู้เสียหายเป็นการส่วนตัว มิใช่เป็นการทำแทนนิติบุคคล แต่ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบโจทก์กลับปรากฏว่าเช็คดังกล่าวเป็นเช็คส่วนหนึ่งที่บริษัท ว. เป็นผู้ออกเพื่อชำระค่าเช่ารถเบ็นซ์จากผู้เสียหาย จำเลยลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทในฐานะกรรมการของบริษัท ว. เท่านั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามเช็คพิพาทเป็นการส่วนตัว ทั้งตามคำฟ้องของโจทก์ก็มิได้บรรยายให้จำเลยร่วมรับผิดกับบริษัท ว. ฐานตัวการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ศาลจะต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสอง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
of 37