คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 93

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2064/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบหนี้ที่เคยให้การยอมรับในคดีก่อนหน้า: ศาลไม่ห้ามโจทก์อ้างเหตุผลใหม่ หากคดีก่อนไม่มีวินิจฉัย
โจทก์ให้การไว้ในคดีเรื่องหนึ่งว่า เงินจำนวนหนึ่งได้หักหนี้กันแล้วและคดีนั้นได้ทำยอมกัน โดยศาลมิได้วินิจฉัยถึงหนี้รายนี้ แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยเรียกหนี้รายนี้คืนและแถลงว่าการหักหนี้นั้นไม่ถูกต้อง ดังนี้ถือว่าไม่ต้องห้ามในการที่โจทก์จะนำสืบตามข้ออ้าง ศาลจะงดไม่ให้โจทก์สืบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองสำเนาพินัยกรรมโดยทนายความผู้คัดสำเนา ย่อมถือเป็นหลักฐานรับรองความถูกต้องของสำเนาได้
เคยพิพาทกันเรื่องพินัยกรรมและได้ส่งต้นฉบับพินัยกรรมต่อศาลคู่ความในคดีนั้นได้ขอคืนไปจากศาลแล้วตัวก็มาตาย เป็นอันเรียกมาเป็นพยานในคดีใหม่ไม่ได้ แต่คงมีสำเนาอยู่ในสำนวน แม้ในสำเนาฉบับนั้น จะมิได้มีลายเซ็นชื่อรับรองไว้ก็ดี ทนายความผู้คัดสำเนาพินัยกรรมฉบับนั้น ก็ได้มาเบิกความยืนยันว่าพยานได้คัดถูกต้องตรงกับต้นฉบับแล้วดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าสำเนาพินัยกรรมนั้นเป็นสำเนาอันถูกต้อง ตรงกับต้นฉบับแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ สิทธิครอบครองอาจเกิดจากการตกลงด้วยวาจาและการครอบครองปรปักษ์
การสละสิทธิครอบครองที่ดิน ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ จึงไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพะยานเอกสารมาแสดง ฉะนั้นสืบแต่พะยานบุคคล ก็ย่อมรับฟังได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ สิทธิครอบครองอาจเกิดขึ้นได้จากการตกลงและครอบครองปรปักษ์
การสละสิทธิครอบครองที่ดิน ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือจึงไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงฉะนั้นสืบแต่พยานบุคคล ก็ย่อมรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายทรัพย์ที่อายัติ - โจทก์มีสิทธิพิสูจน์การมอบหมายให้จำเลยรักษาได้ แม้จำเลยอ้างเอกสารการอายัติกับผู้อื่น
ในคดียักยอกทรัพย์ต้องอายัติ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ที่อายัติจากเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้จับกุมในวันที่ 11 มกราคม 2488 แล้ว จำเลยอ้างเอกสารซึ่งพนักงานสอบสวนทำไว้ว่ายึดไม้ในวันที่ 10 มกราคม 2488 และอายัติไว้กับนายปั่น ดังนี้ ยังไม่พอฟังได้เด็ดขาดว่า ในวันที่ 11 มกราคม 2488 ซึ่งโจทก์หานั้น เจ้าพนักงานจะไม่ได้มอบหมายไม้ให้จำเลยรักษา โจทก์ย่อมมีสิทธิจะนำสืบให้สมฟัองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายทรัพย์อายัด: โจทก์มีสิทธิพิสูจน์การมอบหมายทรัพย์ให้จำเลยรักษา แม้จำเลยอ้างเอกสารอายัดกับผู้อื่น
ในคดียักยอกทรัพย์ต้องอายัด โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ที่อายัดจากเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้จับกุมในวันที่ 11 มกราคม 2488 แล้ว จำเลยอ้างเอกสารซึ่งพนักงานสอบสวนทำไว้ว่ายึดไม้ในวันที่ 10 มกราคม 2488 และอายัดไว้กับนายปั่น ดังนี้ยังไม่พอฟังได้เด็ดขาดว่า ในวันที่ 11 มกราคม 2488 ซึ่งโจทก์หานั้น เจ้าพนักงานจะไม่ได้มอบหมายไม้ให้จำเลยรักษา โจทก์ย่อมมีสิทธิจะนำสืบให้สมฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขไถ่คืน หากไม่ไถ่ตามกำหนด กรรมสิทธิ์จะสิ้นสุดลง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขาย มีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปีดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบ เพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด 1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง ๆ ย่อมสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสัญญากู้ vs. ขายพร้อมซื้อคืน หากไม่ใช้สิทธิภายในกำหนด ย่อมเสียสิทธิเรียกร้อง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขายมีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปี ดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบเพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าหนี้ร่วมและการถือว่าลูกหนี้ละเลยหนี้เมื่อเจ้าพนักงานพร้อมโอนแต่จำเลยไม่ดำเนินการ
ทำสัญญาขายที่ดินกันแล้ว คู่สัญญาไปขอทำการโอนที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินในเรื่องนี้ตลอดมา ไม่ปรากฎว่าเจ้าพนักงานได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทำการโอน เหตุทางอำเภอยังไม่โอนให้ ก็เพราะรอฟังคำสั่งกรมที่ดินอยู่เท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นทางการยังดำเนินการพิจารณาเรื่องราวที่ขอโอนอยู่ ดังนี้ไม่ถือว่าการโอนหรือการชำระหนี้เป็ฯพ้นวิสัยอันจะทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามมาตรา 219 และถือว่า สัญญาซื้อขายจะถือเอาการที่เจ้าพนักงานยังมิได้ทำสัญญาให้ดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาไม่ได้
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า ลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน
ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อซึ่งร่วมกันหลายคน ถือว่าผู้ซื้อแต่ละคนเป็นเจ้าหนึ้ร่วมกันตามมาตรา 298 เจ้าหนี้ร่วมเพียงคนเดียวก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบอำนาจให้ผูแทนฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ทั้งหมดได้
โจทก์ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้คนหนึ่งให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องเพียงว่าใบมอบอำนาจฟ้องร้องไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย ในวันชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่าโจทก์ไมีมีอำนาจฟ้อง เพราะเจ้าหนี้ร่วมอีก2คน มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้อง ิได้โต้แย้งในเรื่องความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแต่ประการใด จนเมื่อศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยจึงยกเป็นข้ออ้างว่าโจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ ดังนี้ถือว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความจริงแห่งใบมอบอำนาจ และถือได้ว่าจำเลยยอมรับในความแท้จริง แห่งใบมอบอำนาจนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีซื้อขาย, การชำระหนี้, และผลของการละเลยหนี้ตามสัญญา
ทำสัญญาจะขายที่ดินกันแล้ว คู่สัญญาไปขอทำการโอนที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินในเรื่องนี้ตลอดมาไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทำการโอน เหตุที่ทางอำเภอยังไม่โอนให้ ก็เพราะรอฟังคำสั่งกรมที่ดินอยู่เท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นทางการก็ยังดำเนินการพิจารณาเรื่องราวที่ขอโอนอยู่ ดังนี้ ไม่ถือว่าการโอนหรือการชำระหนี้เป็นพ้นวิสัยอันจะทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามมาตรา 219และถือว่าสัญญาจะซื้อขายคงมีผูกพันต่อกันอยู่ ผู้ขายจะถือเอาการที่เจ้าพนักงานยังมิได้ทำสัญญาให้ดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาไม่ได้
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน
ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อซึ่งร่วมกันหลายคน ถือว่าผู้ซื้อแต่ละคนเป็นเจ้าหนี้ร่วมกันตามมาตรา 298 เจ้าหนี้ร่วมเพียงคนเดียวก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ทั้งหมดได้
โจทก์ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้คนหนึ่งให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องเพียงว่าใบมอบอำนาจฟ้องร้องไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมายในวันชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะเจ้าหนี้ร่วมอีก 2 คน มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้อง มิได้โต้แย้งในเรื่องความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแต่ประการใด จนเมื่อศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยจึงยกเป็นข้ออ้างว่าโจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจดังนี้ถือว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ และถือได้ว่าจำเลยยอมรับในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแล้ว
of 27