พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จำเลยต้องรับโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย และลดโทษเนื่องจากเป็นผู้เยาว์
การกระทำความผิดของจำเลยต้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340วรรคท้าย,340ตรีซึ่งตามมาตรา340ตรีเป็นเรื่องที่จะต้องวางโทษจำเลยหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรา340วรรคท้ายกึ่งหนึ่งที่ศาลอุทธรณ์ภาค3เห็นด้วยดับศาลชั้นต้นใช้คำว่าจึงไม่เพิ่มโทษตามมาตรา340ตรีอีกยังไม่ถูกต้องเพราะมาตรา340ตรีเป็นเพียงบทกำหนดโทษไม่ใช่บทเพิ่มโทษแต่เนื่องจากจำเลยต้องได้รับโทษประหารชีวิตตามมาตรา340วรรคท้ายกรณีไม่มีทางที่จะวางโทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งตามที่มาตรา340ตรีบัญญัติไว้จึงนำมาตรา340ตรีมาปรับด้วยไม่ได้จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340วรรคท้ายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษประหารชีวิตในคดีจำหน่ายยาเสพติดปริมาณมาก ศาลฎีกาเห็นชอบกับโทษจำคุกตลอดชีวิต
แม้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา52(2)บัญญัติว่าถ้าจะลดโทษประหารชีวิตลง กึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ยี่สิบห้าปีถึงห้าสิบปีศาลอาจลงโทษเป็นจำคุกตั้งแต่ยี่สิบห้าปีถึงห้าสิบปีได้แต่เมื่อเฮโรอีนของกลางมีน้ำหนักคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ถึง7,521กรัมซึ่งเป็นปริมาณสูงมากนับเป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติอย่างร้ายแรงที่ศาลใช้ ดุลพินิจลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วกำหนดโทษเป็น จำคุกตลอดชีวิตนั้นเหมาะสมกับ พฤติการณ์และ ความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3608/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, บุกรุก, ข่มขืนใจ, ชิงทรัพย์ และการแก้ไขโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่มีโทษสถานเดียวคือประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 เมื่อจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษดังกล่าวตามมาตรา 80 เท่ากับลดโทษลงมาหนึ่งในสามนั่นเอง ซึ่งคงเหลือเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามมาตรา 52(1) หลังจากจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ท.แล้ว จำเลยได้ใช้อาวุธปืนจี้เอารถจักรยานยนต์ของ ร.ขับหลบหนีไป แล้วนำรถจักรยานยนต์นั้นไปทิ้งไว้ข้างทางห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ไม่ได้นำรถจักรยานยนต์ไปเป็นประโยชน์ของตนหรือผู้อื่น แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาประสงค์จะเอาทรัพย์คือรถจักรยานยนต์นั้น คงมีเจตนาเพียงต้องการใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อหลบหนีเท่านั้นจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์ตามฟ้อง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการใช้อาวุธปืนข่มขืนใจ ร. ให้มอบรถจักรยานยนต์โดย ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย อันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามทางพิจารณาที่ได้ความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกานับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่น ปรากฏว่าโจทก์ไม่ได้มีคำขอมาท้ายฟ้องหรือขอแก้เพิ่มเติมฟ้องในเรื่องขอให้นับโทษต่อเสียก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพิ่งจะขอมาหลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาและจำเลยฎีกาต่อมา จึงไม่อาจนับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าร่วมกัน: การดื่มสุรา, สมคบกัน, และการร่วมกันลงมือกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมดื่มสุรากันที่ร้านค้าแล้วพากันนั่งรถจักรยานยนต์ไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ตายกำลังนั่งจดบัญชีรายการไม้อยู่ จำเลยที่ 1 หยุดรถ พวกของจำเลยลงจากรถใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย แล้วทุกคนพากันนั่งรถจักรยานยนต์กลับไปที่ฐานปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดนที่จำเลยที่ 1เป็นสมาชิกอยู่ หลังจากนั้นพากันไปดื่มสุรากันอีก และได้นอนค้างคืนที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับฐานปฏิบัติการดังกล่าว เช้าวันรุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 กับพวกได้แยกย้ายกันกลับไปพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยทั้งสองมีเจตนาร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นของทางราชการที่มอบให้จำเลยที่ 1 ไว้ใช้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ แม้จำเลยที่ 1จะไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองก็ตามเมื่อจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และพวกครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้นำไปใช้ฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้ในครอบครอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกประหารชีวิตและการคำนวณลดโทษที่ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกายกประเด็นความสงบเรียบร้อยขึ้นวินิจฉัยแก้ไข
ปัญหาเรื่องวิธีเพิ่มโทษ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นว่าในชั้นฎีกาได้
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้ว ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยอีกไม่ได้ ฉะนั้นแม้คดีจะมีส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดศาลจะไม่เพิ่มไม่ลดหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 54 ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่ได้เพิ่มแล้วนั้น แต่กรณีนี้การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ไม่อาจทำได้ ศาลจึงต้องลดโทษให้แก่จำเลยสถานเดียว
โทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมกับโทษจำคุกกระทงอื่นแล้วคงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้อง เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้.
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้ว ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยอีกไม่ได้ ฉะนั้นแม้คดีจะมีส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดศาลจะไม่เพิ่มไม่ลดหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 54 ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่ได้เพิ่มแล้วนั้น แต่กรณีนี้การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ไม่อาจทำได้ ศาลจึงต้องลดโทษให้แก่จำเลยสถานเดียว
โทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมกับโทษจำคุกกระทงอื่นแล้วคงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้อง เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิธีเพิ่มโทษทางอาญา ศาลฎีกาแก้ไขการคำนวณโทษและลดโทษจำเลย
ปัญหาเรื่องวิธีเพิ่มโทษ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นว่าในชั้นฎีกาได้
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้ว ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยอีกไม่ได้ ฉะนั้นแม้คดีจะมีส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดศาลจะไม่เพิ่มไม่ลดหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่ได้เพิ่มแล้วนั้น แต่กรณีนี้การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ไม่อาจทำได้ ศาลจึงต้องลดโทษให้แก่จำเลยสถานเดียว
โทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมกับโทษจำคุกกระทงอื่นแล้วคงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้อง เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้ว ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยอีกไม่ได้ ฉะนั้นแม้คดีจะมีส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดศาลจะไม่เพิ่มไม่ลดหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่ได้เพิ่มแล้วนั้น แต่กรณีนี้การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ไม่อาจทำได้ ศาลจึงต้องลดโทษให้แก่จำเลยสถานเดียว
โทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมกับโทษจำคุกกระทงอื่นแล้วคงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้อง เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจ้างวานฆ่าและพกพาอาวุธปืน แม้พยานร่วมกระทำผิดให้การ แต่ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้
แม้ล.กับป.พยานโจทก์จะมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน กับจำเลยแต่เมื่อโจทก์ได้กันส.กับป.ไว้เป็นพยานคำเบิกความของ พยานทั้งสองปากดังกล่าวอาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้แต่มี น้ำหนักน้อยมิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียเลยทีเดียวถ้าโจทก์มีพยานอื่น ประกอบก็รับฟังลงโทษจำเลยได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 401/2496,1769/2509 และ 2001/2514) จำเลยได้ใช้ให้ ส.ฆ่าว. ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยได้มอบ อาวุธปืนของกลางให้ ส.นำไปหาโอกาสยิงว.ผู้ตายแม้ส.ยังมิได้กระทำผิด เพราะไม่มีโอกาสฆ่าผู้ตายการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบกับมาตรา 85วรรคสอง จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วยมาตรา84 วรรคสองซึ่งต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสาม ของโทษที่กำหนดไว้นั้นให้ลดโทษประหารชีวิตหนึ่งในสามเป็นจำคุก ตลอดชีวิตตามมาตรา 52(1) และให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิต อันเป็นโทษสองในสามของโทษประหารชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 ซึ่งต้องลงโทษเพียงหนึ่งในสาม ของโทษประหารชีวิตคือกึ่งหนึ่งของโทษจำคุก50 ปี จึงเป็นโทษ จำคุก 25 ปี (โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 91/2510 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น แม้ผู้รับจ้างยังมิได้ลงมือกระทำผิด ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้ ส.กับ ป.พยานโจทก์จะมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน กับจำเลย แต่เมื่อโจทก์ได้กัน ส.กับ ป.ไว้เป็นพยาน คำเบิกความของพยานทั้งสองปากดังกล่าวอาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่มีน้ำหนักน้อย มิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียเลยทีเดียว ถ้าโจทก์มีพยานอื่นประกอบก็รับฟังลงโทษจำเลยได้
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 401/2496, 1769/2509 และ 2001/2514)
จำเลยได้ใช้ให้ ส. ฆ่า ว. ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยได้มอบอาวุธปืนของกลางให้ ส. นำไปหาโอกาสยิง ว.ผู้ตาย แม้ ส.ยังมิได้กระทำผิดเพราะไม่มีโอกาสฆ่าผู้ตาย การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบกับมาตรา 85 วรรคสอง
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วย มาตรา84 วรรคสองซึ่งต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้นั้นให้ลดโทษประหารชีวิตหนึ่งในสามเป็นจำคุกตลอดชีวิตตามมาตรา 52(1) และให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตอันเป็นโทษสองในสามของโทษประหารชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 ซึ่งต้องลงโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษประหารชีวิตคือกึ่งหนึ่งของโทษจำคุก 50 ปี จึงเป็นโทษ จำคุก 25 ปี
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 91/2510 ประชุมใหญ่)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 401/2496, 1769/2509 และ 2001/2514)
จำเลยได้ใช้ให้ ส. ฆ่า ว. ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยได้มอบอาวุธปืนของกลางให้ ส. นำไปหาโอกาสยิง ว.ผู้ตาย แม้ ส.ยังมิได้กระทำผิดเพราะไม่มีโอกาสฆ่าผู้ตาย การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบกับมาตรา 85 วรรคสอง
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วย มาตรา84 วรรคสองซึ่งต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้นั้นให้ลดโทษประหารชีวิตหนึ่งในสามเป็นจำคุกตลอดชีวิตตามมาตรา 52(1) และให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตอันเป็นโทษสองในสามของโทษประหารชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 ซึ่งต้องลงโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษประหารชีวิตคือกึ่งหนึ่งของโทษจำคุก 50 ปี จึงเป็นโทษ จำคุก 25 ปี
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 91/2510 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพโดยสมัครใจเป็นเหตุบรรเทาโทษ แม้ขาดพยานหลักฐานอื่น ศาลลดโทษได้
ขณะเกิดเหตุไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด พนักงานสอบสวนคงมีแต่พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีเท่านั้น ข้อเท็จจริงอันเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยก็อาศัยจากคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลย ดังนั้น การที่จำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวน จนถึงชั้นพิจารณาของศาล จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานหรือของโจทก์ คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานและให้ความรู้แก่ศาล ถือได้ว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ มีเหตุอันควรปรานี ชอบที่ศาลจะลดโทษให้แก่จำเลยได้
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 มาด้วยเมื่อศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย และตามมาตรา 54 ให้ศาลเพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่เพิ่มแล้วนั้น เมื่อศาลเพิ่มโทษจำเลยมิได้เพราะเป็นโทษประหารชีวิต จึงคงลดโทษให้จำเลยสถานเดียว
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 มาด้วยเมื่อศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย และตามมาตรา 54 ให้ศาลเพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่เพิ่มแล้วนั้น เมื่อศาลเพิ่มโทษจำเลยมิได้เพราะเป็นโทษประหารชีวิต จึงคงลดโทษให้จำเลยสถานเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่ได้เกิดจากหลักฐาน ย่อมเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ศาลลดโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต
ขณะเกิดเหตุไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดพนักงานสอบสวนคงมีแต่พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีเท่านั้นข้อเท็จจริงอันเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยก็อาศัยจากคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยดังนั้น การที่จำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวน จนถึงชั้นพิจารณาของศาล จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานหรือของโจทก์ คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานและให้ความรู้แก่ศาล ถือได้ว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ มีเหตุอันควรปรานี ชอบที่ศาลจะลดโทษให้แก่จำเลยได้
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92มาด้วยเมื่อศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย และตามมาตรา54 ให้ศาลเพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่เพิ่มแล้วนั้นเมื่อศาลเพิ่มโทษจำเลยมิได้เพราะเป็นโทษประหารชีวิตจึงคงลดโทษให้จำเลยสถานเดียว
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92มาด้วยเมื่อศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย และตามมาตรา54 ให้ศาลเพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่เพิ่มแล้วนั้นเมื่อศาลเพิ่มโทษจำเลยมิได้เพราะเป็นโทษประหารชีวิตจึงคงลดโทษให้จำเลยสถานเดียว