คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 277 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารเด็กโดยไม่สอดใส่ ช่องคลอดไม่ฉีกขาด ไม่ถึงขั้นข่มขืน
จำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายเพื่อสอดใส่เข้าไป เพราะถ้าจำเลยเอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง 4 ปีเศษ ช่องคลอดของผู้เสียหายจะต้องฉีกขาดหรือช้ำบวมมาก จำเลยเพียงใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหาย ทำให้เกิดรอยช้ำแดงที่บริเวณด้านนอกของปากช่องคลอดและไม่มีรอยถลอก จำเลยไม่มีเจตนาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย คงมีเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 279 วรรคสอง เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราตาม ป.อ. มาตรา 277วรรคสอง, 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
จำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายเพื่อสอดใส่เข้าไปเพราะถ้าจำเลยเอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง4ปีเศษช่องคลอดของผู้เสียหายจะต้องฉีกขาดหรือช้ำบวมมากจำเลยเพียงใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายทำให้เกิดรอยช้ำแดงที่บริเวณด้านนอกของปากช่องคลอดและไม่มีรอยถลอกจำเลยไม่มีเจตนาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายคงมีเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา279วรรคสองเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา277วรรคสอง,80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิง แม้ไม่ใช่ครูผู้ดูแลโดยตรง แต่ยังคงมีความผิดตามมาตรา 277
จำเลยกระทำชำเราเด็กหญิงอ.ผู้เสียหายซึ่งอายุยังไม่เกิน13ปีแต่จำเลยไม่เคยสอนในชั้นที่ผู้เสียหายเรียนจำเลยสอนเด็กเล็กทั้งจำเลยมิได้เป็นครูใหญ่ซึ่งโดยหน้าที่แล้วมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบนักเรียนทั้งโรงเรียนหรือเป็นครูเวรหรือได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ดูแลผู้เสียหายในขณะเกิดเหตุจึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยอันจะเป็นผลให้จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลมาตรา285จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา277วรรคสองเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดชำเราเด็กหญิง: ไม่เข้าข่ายความรับผิดฐานครูดูแลศิษย์
จำเลยกระทำชำเราเด็กหญิง อ. ผู้เสียหาย ซึ่งอายุยังไม่เกิน13 ปี แต่จำเลยไม่เคยสอนในชั้นที่ผู้เสียหายเรียน จำเลยสอนเด็กเล็ก ทั้งจำเลยมิได้เป็นครูใหญ่ซึ่งโดยหน้าที่แล้วมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบนักเรียนทั้งโรงเรียน หรือเป็นครูเวรหรือได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ดูแลผู้เสียหายในขณะเกิดเหตุ จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยอันจะเป็นผลให้จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นตาม ป.มาตรา 285 จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา277 วรรคสอง เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6345/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำชำเราสำเร็จ แม้ไม่พบร่องรอยบาดเจ็บ หากมีหลักฐานยืนยันการสอดใส่
การที่อวัยวะเพศของจำเลยเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายประมาณ 1 นิ้ว ถือว่ากระทำชำเราสำเร็จแล้ว มิใช่เพียงพยายามกระทำชำเราหรือกระทำอนาจารเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง, การทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง, การนอกเหนือจากฟ้อง, ผลกระทบต่อโทษทางอาญา
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยใส่ไปที่ช่องขาใกล้อวัยวะเพศของผู้เสียหาย และได้กระทำการในลักษณะของการกระทำชำเรา ที่บริเวณรูทวารหนักของผู้เสียหายมีรอยช้ำแดงและที่ระหว่างช่องคลอดกับรูทวารหนักมีรอยถลอกเล็กน้อย อวัยวะเพศของจำเลยไม่ได้เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายคงอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหายเท่านั้น ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายขัดขืนไม่ยอมให้กระทำชำเรา จำเลยได้ชกต่อยและตบปากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างไรคงได้ความว่าหลังจากจำเลยกระทำชำเราและจำเลยกับผู้เสียหายสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว จำเลยได้ต่อยเตะจนผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสการกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้กระทำต่อเนื่องกัน หากแต่ขาดตอนจากการกระทำชำเราแล้ว ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับอันตรายสาหัสก็มิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำชำเราอันจะเป็นเหตุให้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ทวิ โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277,277 ทวิ, และ 297 แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 297 มาด้วย แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมจึงไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ไม่อาจลงโทษจำเลยฐานดังกล่าวได้เพราะเป็นการนอกเหนือจากฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามกระทำชำเราเด็กหญิง และการทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง ศาลพิจารณาความผิดแยกกรรม
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยใส่ไปที่ช่องขาใกล้อวัยวะเพศของผู้เสียหาย และได้กระทำการในลักษณะของการกระทำชำเรา ที่บริเวณรูทวารหนักของผู้เสียหายมีรอยช้ำแดงและที่ระหว่างช่องคลอดกับรูทวารหนักมีรอยถลอกเล็กน้อย อวัยวะเพศของจำเลยไม่ได้เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายคงอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหายเท่านั้น ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี
ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายขัดขืนไม่ยอมให้กระทำชำเรา จำเลยได้ชกต่อยและตบปากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างไร คงได้ความว่าหลังจากจำเลยกระทำชำเราและจำเลยกับผู้เสียหายสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว จำเลยได้ต่อยเตะจนผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้กระทำต่อเนื่องกัน หากแต่ขาดตอนจากการกระทำชำเราแล้ว ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับอันตรายสาหัสก็มิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำชำเราอันจะเป็นเหตุให้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ทวิ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 277 ทวิและ 297 แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 297 มาด้วย แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมจึงไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสไม่อาจลงโทษจำเลยฐานดังกล่าวได้เพราะเป็นการนอกเหนือจากฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำชำเราเด็กอายุ 9 ปี แม้ผู้เสียหายไม่รู้ว่าเป็นอวัยวะเพศ จำเลยมีความผิดจริง
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 9 ปี ไม่ปรากฏว่าเป็นเด็กเร่ร่อนหรือสำส่อนทางเพศ หรือถูกผู้อื่นข่มขืนกระทำชำเรามาก่อนและแม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่จำเลยสอดเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายเป็นอวัยวะเพศหรือนิ้วมือของจำเลยแต่จำเลยสอดใส่เข้าไปในตัวผู้เสียหายและใส่เข้าใส่ออกก็ตามกรณีเป็นเรื่องที่เด็กไร้เดียงสา อาจไม่ทราบชัดว่าเป็นอวัยวะเพศหรือไม่ก็ได้และหลังเกิดเหตุแล้วเมื่อน้าสาวของผู้เสียหายถามผู้เสียหายถึงรายละเอียดที่จำเลยกระทำ ผู้เสียหายก็บอกว่าสิ่งที่จำเลยสอดใส่เข้าในอวัยวะเพศผู้เสียหายนั้นใหญ่กว่านิ้วมือทั้งแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายก็เบิกความว่า ตรวจช่องคลอดผู้เสียหายแล้วน่าเชื่อว่าผู้เสียหายผ่านการร่วมเพศมาแล้วเนื่องจากช่องคลอดขยายตัวยืดหย่อน เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้วพยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3106/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยป่วยโรคคริทินแต่กำเนิด ทำให้มีจิตบกพร่อง ไม่สามารถรู้ผิดชอบได้ จึงไม่ต้องรับโทษในคดีอนาจาร
จำเลยกระทำอนาจารและพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีแต่ได้ความว่า จำเลยป่วยเป็นโรคคริทิน ซึ่งเกิดจากการขาดไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิดทำให้การเจริญเติบโตทางร่างกายและการพัฒนาเจริญวัยทางสติปัญญาช้ากว่าอายุจริง จำเลยเพิ่งเดินได้เมื่ออายุ7 ปี พูดได้เป็นประโยคเมื่ออายุ 9 ปี ขณะอายุ 11 ปี 11 เดือนมีความสามารถทางสติปัญญาเท่ากับเด็กอายุ 5 ปี ก่อนเกิดเหตุ 2 เดือนแพทย์ตรวจจำเลยปรากฏว่าสติปัญญายังช้า ไม่รู้จักเหตุผล ไม่มีการวางแผน ไม่มีความรับผิดชอบ ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิตไม่มีทางหายขาด ถือว่าจำเลยกระทำผิดในขณะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ เพราะมีจิตบกพร่องด้วยป่วยเป็นโรคปัญญาอ่อนมาตั้งแต่กำเนิด จึงไม่ต้องรับโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดไม่จำเป็นต้องระบุในคำฟ้อง หากโจทก์บรรยายการกระทำความผิดให้จำเลยเข้าใจได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายโดย จับแขนผู้เสียหายไว้ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นคำฟ้อง ที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้กระทำผิด พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยที่ 2 เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนที่ จำเลยทั้งสองร่วมกันประทุษร้ายโดยจำเลยคนใดเป็นผู้จับแขนข้างใดจำเลยร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอย่างไร จำเลยคนใดทำหน้าที่อะไรนั้น เป็นเพียงรายละเอียดที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในคำฟ้อง.
of 4