คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 125

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: การรับฟังพยานหลักฐานจากผู้รับมอบอำนาจโดยไม่ต้องใช้ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ได้มอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทน และได้แนบสำเนาหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไว้ท้ายฟ้อง จำเลยให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่รับรองและใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง คำให้การของจำเลยแปลได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แต่จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ส่วนที่ให้การต่อไปว่าใบมอบอำนาจไม่ถูกต้องก็ไม่ได้ให้การว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และมิได้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของหนังสือมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่จำต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาล และคำให้การของจำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย ศาลรับฟังพยานโจทก์ได้ว่า ส.เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์โดยไม่จำต้องอาศัยต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจและไม่ต้องปิดอากรแสตมป์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3742/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดีจากต่างประเทศ: การคัดค้านที่ไม่ชัดเจนไม่เป็นเหตุให้การมอบอำนาจไม่สมบูรณ์
หนังสือมอบอำนาจที่ส่งศาลเป็นสำเนาใบมอบอำนาจที่โจทก์กระทำมาจากต่างประเทศ จำเลยคัดค้านว่าโจทก์มิใช่นิติบุคคล และแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจโดยไม่สมบูรณ์แบบ แต่ไม่ได้แสดงเหตุว่าไม่สมบูรณ์แบบเพราะเหตุใด มิได้คัดค้านการมีอยู่และความถูกต้องของสำเนาหนังสือมอบอำนาจต่อศาลตามที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47 ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องอย่างถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานบอกเล่าและเอกสารราชการในคดีแพ่ง ศาลมีดุลพินิจได้เมื่อมีเหตุผลและไม่มีการโต้แย้ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 มิได้บัญญัติห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่าเสียเลยทีเดียว เมื่อพยานบอกเล่านั้นกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
เอกสารที่พนักงานสอบสวนทำขึ้นตามหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการ เป็นเอกสารราชการ เมื่อฝ่ายจำเลยมิได้โต้แย้งในวันสืบพยานโจทก์ถึงความมีอยู่และแท้จริงแห่งเอกสารเหล่านั้นเป็นอย่างอื่นแล้ว ศาลย่อมมีอำนาจหยิบยกข้อเท็จจริงในเนื้อหาของเอกสารนั้นขึ้นและใช้ดุลพินิจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานบอกเล่าและเอกสารราชการในคดีแพ่ง ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจพิจารณาได้หากมีเหตุผลประกอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 มิได้บัญญัติห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่าเสียเลยทีเดียว เมื่อพยานบอกเล่านั้นกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
เอกสารที่พนักงานสอบสวนทำขึ้นตามหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการเป็นเอกสารราชการ เมื่อฝ่ายจำเลยมิได้โต้แย้งในวันสืบพยานโจทก์ถึงความมีอยู่และแท้จริงแห่งเอกสารเหล่านั้นเป็นอย่างอื่นแล้ว ศาลย่อมมีอำนาจหยิบยกข้อเท็จจริงในเนื้อหาของเอกสารนั้นขึ้นและใช้ดุลพินิจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยมีคำให้การขัดแย้งเอง ทำให้ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องการรับประกัน และจำเลยต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 3 รับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ตามสำเนาภาพถ่ายกรมธรรม์ประกันภัยท้ายฟ้อง จำเลยที่ 3 ให้การว่า สำเนาภาพถ่ายเอกสารดังกล่าวไม่มีการรับรองจากจำเลยที่ 3 จึงขอปฏิเสธว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 และไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน ถ้าฟังว่าจำเลยที่ 3 ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิด เพราะจำเลยที่ 2 ไม่ได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขแห่งสัญญากรมธรรม์ประกันภัย กล่าวคือลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ขับขี่รถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมายจึงไม่ได้รับความคุ้มครองความเสียหาย ดังนี้ คำให้การของจำเลยที่ 3 จึงขัดกันเองและเป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3 ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 หรือไม่ และกรณีเช่นนี้ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้คัดค้านความถูกต้องแท้จริงของสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัย มีคำให้การขัดแย้งกันเอง ถือเป็นคำให้การไม่ชัดแจ้ง ศาลไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องการรับประกันภัย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 3 รับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ตามสำเนาภาพถ่ายกรมธรรม์ประกันภัยท้ายฟ้อง จำเลยที่ 3 ให้การว่า สำเนาภาพถ่ายเอกสารดังกล่าวไม่มีการรับรองจากจำเลยที่ 3 จึงขอปฏิเสธว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 และไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน ถ้าฟังว่าจำเลยที่ 3 ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิด เพราะจำเลยที่ 2 ไม่ได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขแห่งสัญญากรมธรรม์ประกันภัย กล่าวคือลูกจ้างของจำเลยที่ 2ขับขี่รถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมายจึงไม่ได้รับความคุ้มครองความเสียหาย ดังนี้ คำให้การของจำเลยที่ 3 จึงขัดกันเองและเป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองคดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3 ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้จากจำเลยที่ 2 หรือไม่และกรณีเช่นนี้ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้คัดค้านความถูกต้องแท้จริงของสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประชุมคณะกรรมการอิสลาม: จำนวนกรรมการที่เข้าประชุมต้องเกินกึ่งหนึ่งจึงครบองค์ประชุม คำสั่งถอดถอนไม่สมบูรณ์
ตามข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด พ.ศ.2492(ฮ.ศ.1368) ข้อ 20 กำหนดจำนวนกรรมการที่จะเป็นองค์ประชุมไว้ว่ากรรมการมาประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งจึงนับเป็นองค์ประชุม เมื่อกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครมีจำนวน15 นายกรรมการต้องมาประชุมอย่างน้อย 8 นาย จึงจะครบเป็นองค์ประชุมการประชุมของคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครจำนวน 7 นายที่ลงมติถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งอิหม่ามไม่ครบองค์ประชุมจึงไม่มีผลบังคับโจทก์
แม้ข้อบังคับการประชุมฯ จะกำหนดให้ใช้ข้อบังคับนี้นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประธานกรรมการลงนามแล้วเป็นต้นไปและข้อบังคับที่ส่งศาลไม่ได้ระบุวันเดือนปีที่ประกาศไม่ได้ลงชื่อประธานกรรมการคงมีแต่แบบพิมพ์เว้นว่างไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นเอกสารที่คู่ความทั้งสองฝ่ายอ้างอิงคู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้คัดค้านว่าเป็นข้อบังคับที่ไม่มีต้นฉบับหรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือข้อความที่ลงพิมพ์ไม่ถูกต้องกับต้นฉบับจึงถือได้ว่าข้อบังคับดังกล่าวใช้บังคับแล้วและข้อความที่ลงพิมพ์ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3921/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารภาพถ่าย: การไม่คัดค้านก่อนสืบพยานทำให้จำเลยมิอาจโต้แย้งความถูกต้องของเอกสารได้
เมื่อจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านก่อนวันสืบพยานว่าภาพถ่ายเอกสารไม่มีต้นฉบับ หรือต้นฉบับปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือภาพถ่ายนั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสาร หรือความถูกต้องแห่งภาพถ่ายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2663/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบพิสูจน์ความเสียหายในคดีละเมิด และขอบเขตการคัดค้านพยานเอกสาร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายรายการ จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการตามที่โจทก์กล่าวอ้างและโจทก์มิได้เสียหายโจทก์มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้ทำการต่างๆ อันเป็นเหตุให้โจทก์มิได้รับความเสียหายเป็นจำนวนดังที่ฟ้องมา
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2663/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานหลักฐานในคดีละเมิด และการโต้แย้งความถูกต้องของเอกสารบัญชี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายรายการ จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการตามที่โจทก์กล่าวอ้างและโจทก์มิได้เสียหายโจทก์มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้ทำการต่างๆ อันเป็นเหตุให้โจทก์มิได้รับความเสียหายเป็นจำนวนดังที่ฟ้องมา
การคัดค้านพยานเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้คัดค้านเสียก่อนวันสืบพยานนั้น เป็นการให้คัดค้านในเรื่องการมีอยู่ของต้นฉบับความแท้จริงของต้นฉบับหรือความถูกต้องตามต้นฉบับของสำเนาที่อ้าง หาใช่บังคับให้ต้องคัดค้านไว้ก่อนว่าข้อความในเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้คัดค้านบัญชีงบดุลที่โจทก์ส่งศาล จำเลยก็ยังโต้เถียงได้ว่าการคิดบัญชีนั้นไม่ถูกต้อง
of 11