พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ครอบครองโคเดอีน-หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มีเจตนาและพฤติกรรมแยกต่างหาก
ความผิดฐานรับไว้ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และฐานมีโคเดอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโคเดอีนตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจนไม่เกี่ยวเนื่องกันและเจตนาในการกระทำความผิดก็เป็นคนละอย่างแตกต่างจากกัน ความผิดแต่ละข้อหาดังกล่าวจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีแสตมป์ยาสูบปลอมเพื่อขาย: ศาลฎีกาตัดสินประเด็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบฯ และการตีความเจตนา
พ.ร.บ. ยาสูบฯ มาตรา 43 บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้วเพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้โดยรู้ว่าเป็นแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้ว เมื่อปรากฏว่าเครื่องหมายอย่างอื่นที่ใช้แทนแสตมป์ยาสูบตามคำฟ้อง อันถือว่าเป็นแสตมป์ยาสูบตามบทนิยามในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. ยาสูบฯ นั้น มีผู้อื่นทำปลอมขึ้นและได้ถูกนำมาใช้ปิดอยู่บนซองบรรจุของกลางแต่ละซองแล้ว โดยจำเลยมียาสูบของกลางแต่ละซองไว้เพื่อขาย ซึ่งในการขายยาสูบของกลางแต่ละซองแม้จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบด้วยก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมดวงนั้นๆ ไว้เพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้ตามความหมายในมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ. ยาสูบฯ เพราะบทมาตราดังกล่าว มุ่งประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีแสตมป์ยาสูบปลอมไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้เท่านั้น หาได้ประสงค์ที่จะลงโทษผู้ที่มียาสูบซึ่งมีผู้อื่นทำปลอมแสตมป์ยาสูบนั้นแล้วนำมาปิดแสดงอยู่บนซองยาสูบดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6387/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีทรัพย์สินทางปัญญา: การมีแสตมป์ยาสูบปลอมและสินค้ามีเครื่องหมายการค้าปลอม ศาลฎีกาแก้โทษและยกฟ้องบางส่วน
โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 254,257 และ 263 แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มิได้มีคำวินิจฉัยในข้อนี้ รวมทั้งมิได้ปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวและโจทก์ก็มิได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ ประกอบกับโจทก์มีคำขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดเกี่ยวกับแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบฯ มาตรา 43 ประกอบมาตรา 53 ซึ่งเป็นบทกฎหมายเฉพาะมาด้วย และศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ลงโทษจำเลยตามกฎหมายดังกล่าวแล้วถือได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 254,257 และ 263 อันเป็นบททั่วไปตามคำขอท้ายคำฟ้องอีก
เครื่องหมายอย่างอื่นที่ใช้แทนแสตมป์ยาสูบตามคำฟ้องโจทก์ อันถือว่าเป็นแสตมป์ยาสูบตามบทนิยามในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฯ นั้นมีผู้อื่นทำปลอมขึ้นและได้ถูกนำมาใช้ปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบของกลางแต่ละซองแล้ว โดยจำเลยมียาสูบของกลางแต่ละซองดังกล่าวไว้เพื่อขาย ซึ่งในการขายยาสูบแต่ละซองนั้นแม้จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบด้วย ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมดวงนั้น ๆ ไว้เพื่อขายตามความหมายในมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฯ เพราะมาตราดังกล่าวมุ่งประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีแสตมป์ยาสูบปลอมไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้เท่านั้น หาได้ประสงค์ที่จะลงโทษผู้ที่มียาสูบซึ่งมีผู้อื่นทำปลอมแสตมป์ยาสูบขึ้น แล้วนำมาปิดแสดงอยู่บนซองยาสูบดังกล่าวไม่ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ลงโทษจำเลยฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งแสตมป์ยาสูบปลอมเพื่อขายตามพระราชบัญญัติยาสูบฯ มาตรา 43 ประกอบมาตรา 53 มานั้นจึงไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานนี้ได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง,195 วรรคสองและ 215
เครื่องหมายอย่างอื่นที่ใช้แทนแสตมป์ยาสูบตามคำฟ้องโจทก์ อันถือว่าเป็นแสตมป์ยาสูบตามบทนิยามในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฯ นั้นมีผู้อื่นทำปลอมขึ้นและได้ถูกนำมาใช้ปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบของกลางแต่ละซองแล้ว โดยจำเลยมียาสูบของกลางแต่ละซองดังกล่าวไว้เพื่อขาย ซึ่งในการขายยาสูบแต่ละซองนั้นแม้จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบด้วย ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมดวงนั้น ๆ ไว้เพื่อขายตามความหมายในมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฯ เพราะมาตราดังกล่าวมุ่งประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีแสตมป์ยาสูบปลอมไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้เท่านั้น หาได้ประสงค์ที่จะลงโทษผู้ที่มียาสูบซึ่งมีผู้อื่นทำปลอมแสตมป์ยาสูบขึ้น แล้วนำมาปิดแสดงอยู่บนซองยาสูบดังกล่าวไม่ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ลงโทษจำเลยฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งแสตมป์ยาสูบปลอมเพื่อขายตามพระราชบัญญัติยาสูบฯ มาตรา 43 ประกอบมาตรา 53 มานั้นจึงไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานนี้ได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง,195 วรรคสองและ 215
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'ยาเส้นปรุง' ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ: การปนยาเส้นเวอร์ยิเนียกับยาเส้นพื้นเมืองเข้าข่ายหรือไม่
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 4 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2511 มาตรา 3 บัญญัติว่า 'ยาเส้นปรุง' หมายความว่า ใบยาซึ่งมิใช่ยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมืองหรือยาอัด ซึ่งได้หั่นเป็นเส้นและปรุงหรือปนด้วยวัตถุอื่นนอกจากน้ำคำว่าวัตถุในพระราชบัญญัติยาสูบไม่ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะว่าหมายความถึงอะไร จึงต้องถือตามความหมายทั่วๆ ไปว่า หมายถึงสิ่งต่างๆ จะเป็นอะไรก็ได้ ยาเส้นพันธุ์พื้นเมืองจึงต้องอยู่ในความหมายของคำว่าเป็นวัตถุอย่างหนึ่งและมิใช่เป็นวัตถุที่เรียกว่าน้ำดังนั้น การนำเอายาเส้นพันธุ์พื้นเมืองมาปนกับยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียซึ่งมิใช่ยาสูบพื้นเมืองหรือยาอัดจึงเป็นยาเส้นปรุงตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติยาสูบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนิยาม 'ยาเส้นปรุง' ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ: การผสมยาเส้นพื้นเมืองกับยาเส้นเวอร์ยิเนียเข้าข่ายหรือไม่
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 4 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2511 มาตรา 3 บัญญัติว่า "ยาเส้นปรุง" หมายความว่า ใบยาซึ่งมิใช่ยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมืองหรือยาอัดซึ่งได้หั่นเป็นเส้นและปรุงหรือปนด้วยวัตถุอื่นนอกจากน้ำ คำว่าวัตถุในพระราชบัญญัติยาสูบไม่ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะว่าหมายความถึงอะไร จึงต้องถือตามความหมายทั่ว ๆ ไปว่า หมายถึงสิ่งต่าง ๆ จะเป็นอะไรก็ได้ ยาเส้นพันธุ์พื้นเมืองจึงต้องอยู่ในความหมายของคำว่าเป็นวัตถุอย่างหนึ่งและมิใช่เป็นวัตถุที่เรียกว่าน้ำ ดังนั้น การนำเอายาเส้นพันธุ์พื้นเมืองมาปนกับยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียซึ่งมิใช่ยาสูบพื้นเมืองหรือยาอัด จึงเป็นยาเส้นปรุงตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติยาสูบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการยาสูบต้องปฏิบัติตามกฎหมายยาสูบ แม้จะอ้างว่าเป็นยาเส้นพันธุ์พื้นเมือง หรือเป็นยาเส้นผสม ก็ต้องปิดแสตมป์
บริเวณไร่ปลูกต้นยาสูบของจำเลยมีเพิงหมาแหงนกันแดดที่จำเลยปลูกไว้ เพื่อใช้เป็นที่ทำยาอัด ยาเส้น เพื่อการค้าเพิงหมาแหงนรวมตลอดถึงบริเวณสถานที่นี้จึงเป็นโรงอุตสาหกรรมยาสูบ ตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509
ยาเส้นทุกชนิดไม่ว่า จะเป็นยาเส้นจากพันธุ์เวอร์ยิเนียแท้หรือเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธ์ยาสูบพื้นเมือง หรือยาเส้นจากพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง ล้วนต้องถือว่าเป็นยาเส้นตามความหมายในมาตรา 18 วรรคแรก ทั้งสิ้น จำเลยนำออกจากโรงอุตสาหกรรมยาสูบโดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบก่อน จึงมีความผิด ดังนั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่ายาเส้นนั้นเป็นพันธุ์เวอร์ยิเนีย แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่าเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง จะถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้องหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหาได้ไม่
ยาเส้นทุกชนิดไม่ว่า จะเป็นยาเส้นจากพันธุ์เวอร์ยิเนียแท้หรือเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธ์ยาสูบพื้นเมือง หรือยาเส้นจากพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง ล้วนต้องถือว่าเป็นยาเส้นตามความหมายในมาตรา 18 วรรคแรก ทั้งสิ้น จำเลยนำออกจากโรงอุตสาหกรรมยาสูบโดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบก่อน จึงมีความผิด ดังนั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่ายาเส้นนั้นเป็นพันธุ์เวอร์ยิเนีย แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่าเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง จะถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้องหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โรงอุตสาหกรรมยาสูบ-การปิดแสตมป์: การนิยาม 'ยาเส้น' ครอบคลุมทุกพันธุ์ และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ
บริเวณไร่ปลูกต้นยาสูบของจำเลยมีเพิงหมาแหงนกันแดดที่จำเลยปลูกไว้ เพื่อใช้เป็นที่ทำยาอัด ยาเส้น เพื่อการค้าเพิงหมาแหงนรวมตลอดถึงบริเวณสถานที่นี้ จึงเป็นโรงอุตสาหกรรมยาสูบ ตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509
ยาเส้นทุกชนิดไม่ว่า จะเป็นยาเส้นจากพันธุ์เวอร์ยิเนียแท้ หรือเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธ์ยาสูบพื้นเมือง หรือยาเส้นจากพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง ล้วนต้องถือว่าเป็นยาเส้นตามความหมายในมาตรา 18 วรรคแรก ทั้งสิ้น จำเลยนำออกจากโรงอุตสาหกรรมยาสูบโดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบก่อนจึงมีความผิด ดังนั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่ายาเส้นนั้นเป็นพันธุ์เวอร์ยิเนีย แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่าเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง จะถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง หรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหาได้ไม่
ยาเส้นทุกชนิดไม่ว่า จะเป็นยาเส้นจากพันธุ์เวอร์ยิเนียแท้ หรือเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธ์ยาสูบพื้นเมือง หรือยาเส้นจากพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง ล้วนต้องถือว่าเป็นยาเส้นตามความหมายในมาตรา 18 วรรคแรก ทั้งสิ้น จำเลยนำออกจากโรงอุตสาหกรรมยาสูบโดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบก่อนจึงมีความผิด ดังนั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่ายาเส้นนั้นเป็นพันธุ์เวอร์ยิเนีย แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่าเป็นยาเส้นพันธุ์เวอร์ยิเนียผสมกับพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง จะถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง หรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหาได้ไม่