พบผลลัพธ์ทั้งหมด 361 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงคืนเงินหลังหมั้นล้มเหลว ไม่ถือเป็นสินสอด
การที่มีข้อตกลงระหว่างฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยว่าเงิน100,000 บาท ฝ่ายจำเลยจัดหามาเพื่อแสดงในพิธีหมั้นแล้วฝ่ายโจทก์จะคืนให้ฝ่ายจำเลย เงินจำนวนดังกล่าวจึงไม่ใช่สินสอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4575/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับเงินทดแทนจากการประสบอันตรายถึงแก่ความตายเป็นสิทธิเฉพาะตัว สิ้นสุดเมื่อผู้รับสิทธิเสียชีวิต
กรณีที่ลูกจ้างประสบอันตรายถึงแก่ความตาย ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 50 วรรคแรก บัญญัติให้บิดา มารดาสามีหรือภริยาที่สิทธิได้รับส่วนแบ่งเงินทดแทนจากนายจ้างและในวรรคสามบัญญัติว่า... ถ้าผู้ได้รับส่วนแบ่งผู้ใดตาย...ให้ส่วนแบ่งของบุคคลดังกล่าวเป็นยุติ แสดงว่า สิทธิในการรับเงินทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัวขณะที่ ส.ถึงแก่ความตายนั้นส. ยังไม่ได้รับเงินทดแทนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินทดแทนของ ส. อันเนื่องมาจากการตายของบุตรย่อมยุติลง ผู้ใดจะไปเรียกร้องเงินทดแทนส่วนของ ส.ไม่ได้พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งยกคำร้องของ ส. ที่เรียกร้องเงินทดแทนไว้ก่อนตายย่อมทำให้สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้อ 60 ระงับไปด้วย ซึ่งมีผลเท่ากับคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิจะได้รับเงินทดแทนของ ส. ถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4575/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่ตกทอดถึงทายาท
กรณีลูกจ้างประสบอันตรายถึงแก่ความตายนั้น สิทธิในการรับเงินทดแทนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่ตกทอดแก่ทายาท
ส.ถึงแก่ความตายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2533 ซึ่งขณะนั้น ส.ยังไม่ได้รับเงินทดแทน สิทธิเรียกร้องในการรับเงินทดแทนของ ส.ย่อมยุติลงในวันที่2 กรกฎาคม 2533 ทายาทของ ส.หรือผู้ใดจะไปเรียกร้องเงินทดแทนส่วนของ ส.อีกไม่ได้
พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งยกคำร้องของ ส.ที่เรียกร้องเงินทดแทนก่อน ส.ตาย ย่อมทำให้สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ข้อ 60 ระงับสิ้นไปด้วย ซึ่งมีผลเท่ากับคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิจะได้รับเงินทดแทนของ ส.ถึงที่สุดนั่นเอง หาใช่สิทธินั้นยังคงมีอยู่ไม่
ส.ถึงแก่ความตายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2533 ซึ่งขณะนั้น ส.ยังไม่ได้รับเงินทดแทน สิทธิเรียกร้องในการรับเงินทดแทนของ ส.ย่อมยุติลงในวันที่2 กรกฎาคม 2533 ทายาทของ ส.หรือผู้ใดจะไปเรียกร้องเงินทดแทนส่วนของ ส.อีกไม่ได้
พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งยกคำร้องของ ส.ที่เรียกร้องเงินทดแทนก่อน ส.ตาย ย่อมทำให้สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ข้อ 60 ระงับสิ้นไปด้วย ซึ่งมีผลเท่ากับคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิจะได้รับเงินทดแทนของ ส.ถึงที่สุดนั่นเอง หาใช่สิทธินั้นยังคงมีอยู่ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4575/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับเงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตเป็นสิทธิเฉพาะตัว สิ้นสุดเมื่อผู้รับสิทธิเสียชีวิต
กรณีลูกจ้างประสบอันตรายถึงแก่ความตายนั้น สิทธิในการรับเงินทดแทนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเป็นสิทธิเฉพาะตัวไม่ตกทอดแก่ทายาท ส. ถึงแก่ความตายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2533ซึ่งขณะนั้น ส. ยังไม่ได้รับเงินทดแทน สิทธิเรียกร้องในการรับเงินทดแทนของ ส. ย่อมยุติลงในวันที่ 2 กรกฎาคม2533 ทายาทของ ส. หรือผู้ใดจะไปเรียกร้องเงินทดแทนส่วนของ ส. อีกไม่ได้ พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งยกคำร้องของ ส. ที่เรียกร้องเงินทดแทนก่อน ส. ตาย ย่อมทำให้สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ข้อ 60ระงับสิ้นไปด้วย ซึ่งมีผลเท่ากับคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิจะได้รับเงินทดแทนของ ส.ถึงที่สุดนั่นเอง หาใช่สิทธินั้นยังคงมีอยู่ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4505/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: พฤติการณ์บ่งชี้เจตนาที่ไม่ชอบธรรม แม้มีการอ้างสู่ขอ
การที่จำเลยพาผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุ ๑๖ ปีเศษ ซึ่งอยู่ในความปกครองของบิดามารดาไปอาศัยคนอื่นอยู่ในที่ต่าง ๆ และจำเลยมีอาชีพไม่แน่นอนพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลย ไม่มีทางพาผู้เสียหายไปอยู่กินเป็นภริยาได้โดยปกติสุข แม้จำเลย จะอ้างว่าได้ติดต่อญาติฝ่ายตนให้สู่ขอผู้เสียหายก็ตาม ก็เป็นเพียง อ้างเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของจำเลยเท่านั้น จำเลยจึงมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๙ วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4505/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร: การกระทำที่บ่งชี้เจตนาที่ไม่สุจริตในการพาผู้เสียหายไปอยู่กินเป็นภริยา
การที่จำเลยพาผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุ 16 ปีเศษซึ่งอยู่ในความปกครองของบิดามารดาไปอาศัยคนอื่นอยู่ในที่ต่าง ๆและจำเลยมีอาชีพไม่แน่นอนพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีทางพาผู้เสียหายไปอยู่กินเป็นภริยาได้โดยปกติสุข แม้จำเลยจะอ้างว่าได้ติดต่อญาติฝ่ายตนให้สู่ขอผู้เสียหายก็ตาม ก็เป็นเพียงอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของจำเลยเท่านั้น จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4464/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืน: การกระทำที่ไม่ได้ครอบครองจริง ไม่อาจถือว่ามีความผิด
จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์พา ส.ซึ่งถูกยิงไปโรงพยาบาลโดยมีจำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้ายไปด้วย เมื่อถึงบ้านมารดาจำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 นำอาวุธปืนสั้น 2 กระบอกของ ส.จากเอวของส.โยนทิ้งไว้หน้าบ้านนั้น เช่นนี้อาวุธปืนดังกล่าวอยู่กับส.ตลอดมาไม่ได้อยู่ในครอบครองของจำเลยทั้งสองเลย ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองมีอาวุธปืนดังกล่าวไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4438/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ (Novation) และผลผูกพันสัญญา
คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า แม่ชีสมพรได้ยกเงินที่จำเลยเป็นหนี้เงินกู้ตนซึ่งไม่มีหลักฐานการกู้ยืมทั้งหมดให้แก่โจทก์ แล้วจำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้แก่โจทก์ไว้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว ดังนั้น สัญญากู้ยืมเงินระหว่างโจทก์และจำเลยย่อมมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาตามเจตนาของคู่สัญญา จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ข้อฎีกาของจำเลยที่ว่าการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ระหว่างแม่ชีสมพร อินทร์มงคล กับโจทก์ชอบหรือไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4438/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้และผลผูกพันตามสัญญากู้ยืม
คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า แม่ชีสมพรได้ยกเงินที่จำเลยเป็นหนี้เงินกู้ตนซึ่งไม่มีหลักฐานการกู้ยืมทั้งหมดให้แก่โจทก์ แล้วจำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้แก่โจทก์ไว้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว ดังนั้นสัญญากู้ยืมเงินระหว่างโจทก์และจำเลยย่อมมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาตามเจตนาของคู่สัญญา จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ข้อฎีกาของจำเลยที่ว่าการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ระหว่างแม่ชีสมพรอินทร์มงคล กับโจทก์ชอบหรือไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4168/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิด – พยานหลักฐานสนับสนุน – การรับฟังพยาน
คำเบิกความและคำให้การในชั้นสอบสวนของ ภ.ว่าตนได้นำสร้อยข้อมือของผู้เสียหายที่ลักมาไปขายให้แก่จำเลยโดยบอกด้วยว่าเป็นทรัพย์ที่ลักมาถือได้ว่าเป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน แม้มิใช่เป็นคำซัดทอดที่เป็นการปัดความผิดของผู้ซัดทอดให้เป็นความผิดของจำเลยผู้เดียวก็ตาม แต่ก็มีน้ำหนักน้อยและจะต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง ลำพังคำเบิกความและคำให้การในชั้นสอบสวนของ ภ.ดังกล่าวโดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง