คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 157

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 617 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจค้นของตำรวจชั้นผู้ใหญ่: การค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้นชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 1 เป็นสารวัตรตำรวจ รักษาการแทนสารวัตรใหญ่จึงเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจค้นด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีหมายค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 92 ให้อำนาจไว้ แม้จำเลยที่ 1 จะออกหมายค้นด้วย และหมายค้นนั้นจะระบุสิ่งของที่ต้องการค้นไว้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่อาจเอาผิดแก่จำเลยที่ 1 ได้ และย่อมไม่อาจเอาผิดแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นตำรวจที่ไปร่วมค้นด้วย ดังนั้น ปัญหาว่าหมายค้นออกมิชอบด้วยกฎหมายเพราะมิได้ระบุสิ่งของที่ต้องการค้นจึงมิใช่ข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3962/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าค้นหาตัวผู้ต้องสงสัยในบ้านพักโดยได้รับอนุญาตจากผู้ดูแล ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนการครอบครอง
จำเลยเป็นพนักงานสอบสวนและมีตำแหน่งสารวัตรปกครองป้องกันเข้าไปในบ้านโจทก์เพื่อตามหาตัวโจทก์เกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยจับโจทก์ในข้อหามีอาวุธปืนโดย จ. คนเฝ้าบ้านโจทก์อนุญาตให้เข้าไป จำเลยเข้าไปในห้องนอนของโจทก์ เมื่อไม่พบตัวโจทก์ก็ออกมาทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุขตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,365 และไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3437/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีอาญา: ผู้รับจ้างติดตามจับกุมไม่ใช่ผู้เสียหาย
การที่โจทก์รับจ้างติดตามจับกุมบุคคลที่ศาลอาญาออกหมายจับและโจทก์ได้ขอให้จำเลยออกหมายค้นเพื่อนำเจ้าพนักงานตำรวจ ติดตามจับกุมบุคคลผู้นั้น โจทก์กระทำในฐานะผู้รับจ้างเพื่อหวังเอาค่าจ้างไม่ใช่ในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาที่ศาลออกหมายจับ ความเสียหายที่โจทก์ได้รับคือไม่ได้ค่าจ้าง เป็นความเสียหายส่วนตัวโจทก์โดยแท้โจทก์จึงมิใช่ ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2 (4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3437/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีอาญา: ผู้รับจ้างติดตามจับกุมไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย
การที่โจทก์รับจ้างติดตามจับกุมบุคคลที่ศาลอาญาออกหมายจับ และโจทก์ได้ขอให้จำเลยออกหมายค้นเพื่อนำเจ้าพนักงานตำรวจ ติดตามจับกุมบุคคลผู้นั้น โจทก์กระทำในฐานะผู้รับจ้างเพื่อ หวังเอาค่าจ้างไม่ใช่ในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาที่ศาล ออกหมายจับ ความเสียหายที่โจทก์ได้รับคือไม่ได้ค่าจ้าง เป็นความเสียหายส่วนตัวโจทก์โดยแท้ โจทก์จึงมิใช่ ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3234/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของคำฟ้องอาญาฐานปลอมเอกสารและปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ศาลต้องระบุรายละเอียดสิ่งของที่เกี่ยวข้องและหน้าที่ของจำเลย
คำบรรยายฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานปลอมเอกสารไม่ปรากฏข้อความพอที่จะให้จำเลยรู้ว่าเอกสารที่จำเลยได้แก้ไขวันเดือนปีเกิดของเด็กหญิงน.นั้น เป็นเอกสารอะไร ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิให้แก่เด็กหญิงน.ให้ผิดไปจากความเป็นจริงเป็นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งโดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นผู้สนับสนุน พอที่จำเลยเข้าใจได้แล้วว่าการออกใบสุทธิเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1จึงครบองค์ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว ไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานตาม ม.157 จากการหลอกลวงราษฎรเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวในการจัดสร้างทำนบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชนมีหน้าที่ด้านพัฒนาชุมชนโดยเป็นผู้วางแผนหรือวางโครงการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับราษฎรและติดต่อประสานงานระหว่างราษฎรกับทางราชการ จำเลยเป็น ผู้วางโครงการจัดสร้างทำนบฝายน้ำล้นตามความต้องการของราษฎร เพื่อเสนอให้ พ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำไปชี้แจงขอรับ เงินจัดสรร จากรัฐบาล การที่จำเลยหลอกลวงเอาเงินราษฎรที่ เข้าร่วมประชุมด้วยการเสนอข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปมอบ ให้ พ. เป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นขอจัดสรรเงินจากทางราชการ และเอาเงินนั้นไว้เป็นของตนจึงเป็นการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบแม้จะเป็นการจูงใจ ให้ราษฎรที่ประชุมมอบเงินหรือทรัพย์สินให้แก่จำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 การกระทำอันจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ถือเอาเจตนาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ มิได้ถือเอาจำนวน ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นเกณฑ์ การที่ จำเลยหลอกลวงเอาเงินจากราษฎรที่มาประชุมจัดสร้างทำนบ ฝายน้ำล้นแม้บุคคลที่ถูกจำเลยหลอกลวงจะมีหลายคน ก็ถือ ไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ตามมาตรา 343 คดีที่โจทก์ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟัง ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 แต่ข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานใน สำนวนเพิ่มเติมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานหลอกลวงประชาชนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน มีหน้าที่ด้านพัฒนาชุมชนโดยเป็นผู้วางแผนหรือวางโครงการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับราษฎรและติดต่อประสานงานระหว่างราษฎรกับทางราชการ จำเลยเป็น ผู้วางโครงการจัดสร้างทำนบฝายน้ำล้นตามความต้องการของราษฎร เพื่อเสนอให้ พ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำไปชี้แจงขอรับ เงินจัดสรร จากรัฐบาล การที่จำเลยหลอกลวงเอาเงินราษฎรที่ เข้าร่วมประชุมด้วยการเสนอข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปมอบ ให้ พ.เป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นขอจัดสรรเงินจากทางราชการ และเอาเงินนั้นไว้เป็นของตนจึงเป็นการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบแม้จะเป็นการจูงใจ ให้ราษฎรที่ประชุมมอบเงินหรือทรัพย์สินให้แก่จำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148
การกระทำอันจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ถือเอาเจตนาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ มิได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นเกณฑ์ การที่ จำเลยหลอกลวงเอาเงินจากราษฎรที่มาประชุมจัดสร้างทำนบ ฝายน้ำล้นแม้บุคคลที่ถูกจำเลยหลอกลวงจะมีหลายคน ก็ถือ ไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ตามมาตรา 343
คดีที่โจทก์ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222แต่ข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานใน สำนวนเพิ่มเติมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2480/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่เวนคืนทำตามหน้าที่ภายใต้กฎหมาย ไม่ถือเป็นการปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การที่จำเลยนำเรื่องการจ่ายเงินค่าทดแทนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เสนอปรึกษาหารือคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย แล้วรอการจ่ายเงินค่าทดแทนบางส่วนของโจทก์ไว้ตามมติของคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ย่อมเป็นการกระทำตามหน้าที่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา ฯ พ.ศ. 2521 และพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์และไม่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2480/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์: การเสนอเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาไม่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
จำเลยเป็นผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยและเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การที่จำเลยนำเรื่องการจ่ายเงินทดแทนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เสนอปรึกษาหารือคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย แล้วรอการจ่ายเงินทดแทนบางส่วนของโจทก์ไว้ตามมติของคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ย่อมเป็นการกระทำตามหน้าที่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลาฯพ.ศ.2521 และพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494มิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์และไม่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2395/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกเงินค่าธรรมเนียมของเจ้าพนักงานไปรษณีย์ การลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา และการพิจารณาความผิดหลายกรรม
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งนายไปรษณีย์โทรเลขอำเภอฝางและเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ได้รับเอาเงินค่าธรรมเนียมฝากส่งจดหมายแต่ละวันเป็นเวลา 7 วัน รวม 7 ครั้งไว้โดยมิได้ปิดตราไปรษณียากรที่ซองจดหมายหรือมิได้จ่ายตราไปรษณียากรให้ผู้ฝากปิดเองตามระเบียบ แล้วเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมและกักจดหมายดังกล่าวแต่ละวันไว้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยยักยอกเอาเงินดังกล่าวแต่ละครั้งแต่ละวันไปอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม 7 กรรม
เมื่อพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 มาตรา 15 บัญญัติให้พนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น จึงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จะปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 หาได้ไม่ และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา147 แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทด้วยมาตรา 157 อีก
of 62