คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 157

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 617 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าพนักงาน
ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่าเขาต้องถูกจับ จำเลยกับพวกมิได้บอกว่าโจทก์จะต้องถูกจับ เพียงแต่แจ้งว่าจะเอาไปสอบสวนคดีใหม่ และไม่ได้บอกด้วยว่าคดีอะไร โจทก์เข้าใจว่าเอาไปสอบสวนเพิ่มเติมคดีเรื่องโคของโจทก์หายที่เคยแจ้งความไว้ จึงได้ไปกับจำเลย ดังนี้ ถือว่าเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
จำเลยเป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตรใหญ่ โกรธแค้นโจทก์ที่มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้กำกับฯ กล่าวหาว่าจำเลยรับสินบนจากผู้ต้องหา 2 คน ข้อหาลักทรัพย์ของโจทก์แล้วสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาสองคนนั้น จำเลยกับตำรวจอื่นที่สถานีเดียวกันได้นำตัวโจทก์ไปโดยอ้างว่าจะพาไปสอบสวนคดีใหม่แต่พาโจทก์ไปที่บ้านพักตำรวจแห่งหนึ่ง แล้วทำร้ายโจทก์และใส่กุญแจมือแล้วพาโจทก์ไปควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจดังนี้ เป็นการกระทำที่ลุอำนาจและเกินความเหมาะสมในการจับกุม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษจำคุกแต่โทษคงเดิม ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา219 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมโดยมิชอบและการปฏิบัติหน้าที่เกินอำนาจของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่า เขาต้องถูกจับ จำเลยกับพวกมิได้บอกว่าโจทก์จะต้องถูกจับ เพียงแต่แจ้งว่า จะเอาไปสอบสวนคดีใหม่ และไม่ได้บอกด้วยว่าคดีอะไร โจทก์เข้าใจว่าเอาไปสอบสวนเพิ่มเติมคดีเรื่องโคของโจทก์หายที่เคยแจ้งความไว้ จึงได้ไปกับจำเลย ดังนี้ ถือว่าเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมายได้หาไม่
จำเลยเป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตรใหญ่ โกรธแค้นโจทก์ที่มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้กำกับฯ กล่าวหาว่า จำเลยรับสินบนจากผู้ต้องหา 2 คน ข้อหาลักทรัพย์ ของโจทก์แล้วสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาสองคนนั้น จำเลยกับตำรวจอื่นที่สถานีเดียวกัน ได้นำตัวโจทก์ไปอ้างว่า จะพาไปสอบสวนคดีใหม่ แต่พาโจทก์ไปที่บ้านพักตำรวจแห่งหนึ่ง แล้วทำร้ายโจทก์และใส่กุญแจมือแล้วพาโจทก์ไปที่ควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจ ดังนี้เป็นการกระทำที่ลุอำนาจและเกินความเหมาะสมในการจับกุม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษจำคุกแต่โทษคงเดิม ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1530/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ - ความผิดฐานทำไม้ - แก้ไขคำพิพากษา - สิทธิฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งห้ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 83,160จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่5 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,86 การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 สี่ปี ลงโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 บทหนักจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งห้ากระทำผิด 2 กรรม ลงโทษฐานร่วมกันทำไม้ยางโดยไม่รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้อีกกระทงหนึ่งจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 คนละ 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 6 เดือนส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยทั้งห้าไม่เกินห้าปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทจึงไม่กำหนดโทษฐานนี้ ศาลอุทธรณ์ว่าเป็นความผิด 2 กรรม กำหนดโทษจำคุกจำเลยทั้งห้าอีกกระทงหนึ่งจึงเป็นการแก้ไขมากจำเลยมีสิทธิฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในกระทงนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1530/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 83, 160 จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 86 การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 สี่ปี ลงโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 บทหนัก จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งห้ากระทำผิด 2 กรรม ลงโทษฐานร่วมกันทำไม้ยางโดยไม่รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติป่าไม้อีกกระทงหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 คนละ 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 4 ที่ 5 คนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วนความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ สำหรับความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยทั้งห้าไม่เกินห้าปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมาย หลายบทจึงไม่กำหนดโทษฐานนี้ ศาลอุทธรณ์ ว่าเป็นความผิด 2 กรรม กำหนดโทษจำคุกจำเลยทั้งห้าอีกกระทงหนึ่ง จึงเป็นการแก้ไขมากจำเลยมีสิทธิฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในกระทงนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการทุจริตการก่อสร้าง รับรองงานผิดพลาด ทำให้ราชการเสียหาย
จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งหัวหน้าธุรการของโรงพยาบาลและเป็นกรรมการตรวจการจ้างการก่อสร้างตึก จำเลยทราบดีว่าการก่อสร้างผิดรายการตามแบบแปลนแต่เพิกเฉยเสีย แล้วทำบันทึกตรวจการจ้างรับรองเป็นหลักฐานว่า ผู้รับจ้างทำการก่อสร้างแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญาจ้างจนทางราชการได้อนุมัติจ่ายค่าจ้างให้ผู้รับจ้างไปครบถ้วนซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162(1) นั้น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดต่อเนื่องกัน จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามกฎหมายที่เป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานแสดงความเห็นตามหน้าที่สุจริต ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท/ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
เจ้าพนักงานกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในฐานะเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,326

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานแสดงความเห็นตามหน้าที่สุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เจ้าพนักงานกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 326

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดเจ้าพนักงานโดยมิชอบ ต้องพิจารณาความหมายโดยรวมของฟ้อง
คำบรรยายฟ้องที่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,201 ซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานตำรวจช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีจากศูนย์กักตัว ไม่ถึงขั้นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกับพวกช่วยพาคนต่างด้าวสัญชาติลาวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493ไปเสียจากที่ควบคุมเพื่อมิให้ต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศลาวตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยจำเลยกับพวกนำรถยนต์มารับคนลาวดังกล่าวไป จำเลยเห็นแต่ละเลยไม่จับกุมดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 58 แต่ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนี แม้ละเลยไม่จับกุม แต่ไม่ถึงขั้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกับพวกช่วยพาคนต่างด้าวสัญชาติลาวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ไปเสียจากที่ควบคุมเพื่อมิให้ต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศลาวตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยจำเลยกับพวกนำรถยนต์มารับคนลาวดังกล่าวไป จำเลยเห็นแต่ละเลยไม่จับกุมดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 58 แต่ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
of 62