คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 157

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 617 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากขาดรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่และข้อหา
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,172,173,174. โดยโจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยมีอำนาจหน้าที่อย่างไร ทั้งคำบรรยายฟ้องก็ไม่ชัดแจ้งว่าข้อความที่จำเลยแจ้งเกี่ยวกับความผิดอาญาในฐานใด จะทำให้โจทก์ถูกหาคดีอาญาได้อย่างไรหรือไม่ ไม่พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาจำเลยไม่อาจเข้าใจข้อหาได้ดี ดังนี้ เป็นคำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1221/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอาญาหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความ: การที่จำเลยดำเนินคดีต่อไม่ได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวหาว่าโจทก์ฉ้อโกง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 348 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้แล้วโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความจะใช้หนี้ให้แก่ผู้กล่าวหาร้องทุกข์ แต่แล้วโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น เมื่อผู้กล่าวหาร้องทุกข์ยังมิได้ถอนคำร้องทุกข์และยืนยันให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อไป ทำให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเข้าใจว่าผู้กล่าวหาร้องทุกข์ยังมีสิทธิขอให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อไปได้ จึงดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อมาเช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1221/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอาญาหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความ: การที่จำเลยดำเนินคดีต่อเมื่อผู้กล่าวหายังยืนยันดำเนินคดี ไม่ถือเป็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวหาว่าโจทก์ฉ้อโกง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 348 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้แล้วโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความจะใช้หนี้ให้แก่ผู้กล่าวหาร้องทุกข์ แต่แล้วโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น เมื่อผู้กล่าวหาร้องทุกข์ยังมิได้ถอนคำร้องทุกข์และยืนยันให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อไป ทำให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเข้าใจว่าผู้กล่าวหาร้องทุกข์ยังมีสิทธิขอให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อไปได้ จึงดำเนินคดีแก่โจทก์ต่อมาเช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเกิดอันตรายแก่กาย และการจับกุมผู้เมาสุรา การกระทำของเจ้าพนักงานที่ไม่ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหายถูกเตะทั้งรองเท้า มีบาดแผล คือ 1. รอยช้ำบวมที่หน้าผากข้างขวาเหนือคิ้วขวา 2. เบ้าตาขวาช้ำบวมเขียว ตาขาวมีรอยช้ำเลือด 3. ริมฝีปากล่างซ้ายแตก 4. รอยช้ำบวมที่ปลายคาง5. หัวเข่าซ้ายบวมเล็กน้อย มีรอยถลอกเลือดออกซับบาดแผลทั้งหมดควรจะหายภายใน 7 วัน เช่นนี้ ถือว่าได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แล้ว
จำเลยเป็นจ่าสิบตำรวจและสิบตำรวจเอกได้จับกุมผู้เสียหายในข้อหาเสพสุราจนเป็นเหตุให้เมาประพฤติวุ่นวายครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ เมื่อนำไปยังสถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายยังร้องเอะอะอาละวาด เตะโน่นเตะนี่ เดินไปมาและจะลงไปจากสถานีตำรวจ จำเลยจึงเอาตัวผู้เสียหายเข้าไปขังไว้ในห้องขังเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญามาตรา 157 ต้องมีพฤติกรรมเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ/ทุจริต หากไม่มีพฤติการณ์ดังกล่าว แม้ฟ้องใช้ได้ก็ลงโทษไม่ได้
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 จดข้อความเท็จลงในเอกสารการซื้อขายที่ดิน และจำเลยทั้งสองไม่ได้สมคบกันอ้างหรือใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานก็ไม่ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งจะลงโทษจำเลยในฐานความผิดนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 157) ต้องมีพฤติการณ์แจ้งความเท็จ หรือกระทำการทุจริตต่อหน้าที่
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 จอข้อความเท็จลงในเอกสารการซื้อขายที่ดินและจำเลยทั้งสองไม่ได้สมคบกันอ้างหรือใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานก็ไม่ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งจะลงโทษจำเลยในฐานความผิดนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103-2104/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวน การฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน และความรับผิดของเจ้าพนักงานต่อเงินของรัฐ
คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์บรรยายฟ้องมาว่าได้สอบสวนแล้วย่อมสันนิษฐานได้ว่าเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจำเลยไม่คัดค้านโดยเสนอเป็นข้อต่อสู้ไว้ ถือว่าไม่มีข้อโต้เถียงกัน หากตามสำนวนไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบ จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์ฎีกาแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้
เงินอากรค่าใบอนุญาตฆ่าสัตว์ โค กระบือ ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อราษฎรนำมาชำระ และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับมอบไว้แล้ว หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินของรัฐไม่ใช่เบียดบังเอาเงินของราษฎรรัฐบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้แม้ราษฎรผู้ชำระเงินจะมิได้ร้องทุกข์
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายอำเภอในจังหวัดทุกอำเภอเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและให้เจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอทุกคนเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของตนเมื่อจำเลยซึ่งเป็นเสมียนแผนกสรรพากรทราบคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและรับมอบหมายเรื่องนี้มาแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มี หน้าที่ปฏิบัติราชการในเรื่องนี้แล้ว เพราะฐานะของเจ้าพนักงานเกิดจากการรับหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103-2104/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน, การสอบสวน, เจ้าพนักงาน, การเบียดบังเงินของรัฐ, และความผิดฐานทุจริต
คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์บรรยายฟ้องมาว่าได้สอบสวนแล้วย่อมสันนิษฐานได้ว่าเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจำเลยไม่คัดค้านโดยเสนอเป็นข้อต่อสู้ไว้ ถือว่าไม่มีข้อโต้เถียงกัน หากตามสำนวนไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบ จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์ฎีกาแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้
เงินอากรค่าใบอนุญาตฆ่าสัตว์ โค กระบือ ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อราษฎรนำมาชำระ และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับมอบไว้แล้ว หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินของรัฐไม่ใช่เบียดบังเอาเงินของราษฎรรัฐบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้แม้ราษฎรผู้ชำระเงินจะมิได้ร้องทุกข์
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายอำเภอในจังหวัดทุกอำเภอเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและให้เจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอทุกคนเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของตนเมื่อจำเลยซึ่งเป็นเสมียนแผนกสรรพากรทราบคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและรับมอบหมายเรื่องนี้มาแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปฏิบัติราชการในเรื่องนี้แล้ว เพราะฐานะของเจ้าพนักงานเกิดจากการรับหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการจับกุมผู้กระทำผิดค้าประเวณี สร้างความเสียหายแก่ราชการตำรวจ
เจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในสำนักค้าประเวณีขณะเปิดทำการค้าประเวณีอยู่ได้ประกาศตนเป็นตำรวจและจับหญิงโสเภณีไปจากสถานค้าประเวณีแล้วมอบหญิงดังกล่าวให้กับพวกของตนไปโดยมิได้นำมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ย่อมเกิดความเสียหายแก่ราชการตำรวจ และถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการจับกุมผู้กระทำผิดค้าประเวณี – ความรับผิดของเจ้าพนักงานตำรวจ
เจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในสำนักงานค้าประเวณีขณะเปิดทำการค้าประเวณีอยู่ ได้ประกาศตนเป็นตำรวจและจับหญิงโสเภณีไปจากสถานค้าประเวณี แล้วมอบหญิงดังกล่าวให้พวกของตนไป โดยมิได้นำมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ย่อมเกิดความเสียหายแก่ราชการตำรวจ และถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
of 62