คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 989

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 381 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5245/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยออกเช็คชำระหนี้ซื้อขาย แม้ซื้อผ่านห้างหุ้นส่วน ก็ต้องรับผิดตามเช็ค
ปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุม จำเลยมิได้อุทธรณ์เป็นประเด็นไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์และไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงมูลหนี้ซื้อขายเดิม และมูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้ราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ด้วยดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ซื้อสินค้าจากโจทก์ แต่เมื่อจำเลยในฐานะส่วนตัวได้ออกเช็คพิพาทชำระหนี้ให้แก่โจทก์ จำเลยผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คก็ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5245/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม & ความรับผิดทางเช็ค: จำเลยต้องรับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็ค แม้เป็นหนี้ซื้อขาย
ปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุม จำเลยมิได้อุทธรณ์เป็นประเด็นไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์และไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงมูลหนี้ซื้อขายเดิม และมูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้ราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ด้วยดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ซื้อสินค้าจากโจทก์ แต่เมื่อจำเลยในฐานะส่วนตัวได้ออกเช็คพิพาทชำระหนี้ให้แก่โจทก์ จำเลยผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คก็ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คขีดคร่อมเฉพาะ: การโอนเช็คและการรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลัง
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยที่ 4 สั่งจ่ายระบุชื่อจ่ายให้แก่จำเลยที่ 1 โดยขีดฆ่าคำว่า "หรือผู้ถือ" ออก และขีดคร่อมระบุไว้กลางเส้นขนานที่ขีดคร่อมว่า "เฉพาะ" ดังนี้ จำเลยที่ 4 อาจประสงค์ให้เป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะและให้ใช้เงินแก่ธนาคารตามเช็คก็ได้ ทั้งจำเลยที่ 4 ก็ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าในทางปฏิบัติหรือประเพณีของธนาคารเป็นที่ยอมรับกันว่าเช็คที่ใช้ถ้อยคำเช่นนี้ห้ามมิให้ เปลี่ยนมือ จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นคำอื่นอันได้ความทำนองเดียวกับคำว่า "เปลี่ยนมือไม่ได้" ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 917 วรรคสอง ข้อความดังกล่าวมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน จึงหามีผลต่อเช็คพิพาทไม่ตามมาตรา 899 เมื่อจำเลยที่ 1 นำเช็คนั้นมาขายลดให้โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้สลักหลัง ต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 989จึงเป็นลูกหนี้ร่วมซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในค่าฤชาธรรมเนียม แต่ความรับผิดของจำเลยที่ 4 จำกัดอยู่เพียงไม่เกินจำนวนเงินในเช็คพิพาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดเท่านั้น ซึ่งโจทก์ทราบดีตั้งแต่ตอนต้น ฉะนั้น การที่จะให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมเกินไปกว่านี้ย่อมเป็นการไม่ยุติธรรมต่อจำเลยที่ 4แม้จำเลยที่ 4 จะมิได้อุทธรณ์ไว้ เพิ่งจะยกขึ้นในฎีกาก็ตามศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตลอดไปถึงศาลล่างได้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คขีดคร่อมเฉพาะกับผลของการโอนเช็ค ผู้สั่งจ่ายมีหน้าที่รับผิดตามเช็ค
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยที่ 4 สั่งจ่ายระบุชื่อจ่ายให้แก่จำเลยที่ 1 โดยขีดฆ่าคำว่า "หรือผู้ถือ" ออก และขีดคร่อมระบุไว้กลางเส้นขนานที่ขีดคร่อมว่า "เฉพาะ" ดังนี้ จำเลยที่ 4 อาจประสงค์ให้เป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะและให้ใช้เงินแก่ธนาคารตามเช็คก็ได้ ทั้งจำเลยที่ 4 ก็ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าในทางปฏิบัติหรือประเพณีของธนาคารเป็นที่ยอมรับกันว่าเช็คที่ใช้ถ้อยคำเช่นนี้ห้ามมิให้เปลี่ยนมือ จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นคำอื่นอันได้ความทำนองเดียวกับคำว่า "เปลี่ยนมือไม่ได้" ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 917 วรรคสอง ข้อความดังกล่าวมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน จึงหามีผลต่อเช็คพิพาทไม่ตามมาตรา 899 เมื่อจำเลยที่ 1 นำเช็คนั้นมาขายลดให้โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้สลักหลัง ต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 989จึงเป็นลูกหนี้ร่วมซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในค่าฤชาธรรมเนียม แต่ความรับผิดของจำเลยที่ 4 จำกัดอยู่เพียงไม่เกินจำนวนเงินในเช็คพิพาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดเท่านั้น ซึ่งโจทก์ทราบดีตั้งแต่ตอนต้น ฉะนั้น การที่จะให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมเกินไปกว่านี้ย่อมเป็นการไม่ยุติธรรมต่อจำเลยที่ 4แม้จำเลยที่ 4 จะมิได้อุทธรณ์ไว้ เพิ่งจะยกขึ้นในฎีกาก็ตามศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตลอดไปถึงศาลล่างได้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4709/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทจากการเล่นแชร์: ผู้รับโอนมีสิทธิเรียกร้องได้แม้มีข้อตกลงจำกัดการเรียกเก็บ
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ค่าแชร์ที่จำเลยประมูลได้ แต่จำเลยก็มีภาระต้องชำระหนี้ค่าแชร์ตามจำนวนที่ได้รับมา จึงเป็นเช็คที่มีมูลหนี้จากการเล่นแชร์ ข้อต่อสู้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่ผู้ทรงคนก่อนไปแล้วบางส่วนโจทก์และผู้ทรงคนก่อนรู้ดีอยู่ว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่มีเงื่อนไขในการค้ำประกันการชำระหนี้ค่าแชร์ และผู้ทรงคนก่อนจะไม่นำไปเรียกเก็บเงิน เป็นข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนหาใช่เป็นการโอนด้วยคบคิดกันฉ้อฉลไม่ เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจากผู้ทรงคนก่อนโจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900,904,914 ประกอบมาตรา 989.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4709/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทจากการเล่นแชร์: ผู้รับโอนเช็คมีสิทธิเรียกร้องได้ แม้มีข้อตกลงจำกัดการเรียกเก็บ
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ค่าแชร์ที่จำเลยประมูลได้ แต่จำเลยก็มีภาระต้องชำระหนี้ค่าแชร์ตามจำนวนที่ได้รับมา จึงเป็นเช็คที่มีมูลหนี้จากการเล่นแชร์
ข้อต่อสู้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่ผู้ทรงคนก่อนไปแล้วบางส่วนโจทก์และผู้ทรงคนก่อนรู้ดีอยู่ว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่มีเงื่อนไขในการค้ำประกันการชำระหนี้ค่าแชร์ และผู้ทรงคนก่อนจะไม่นำไปเรียกเก็บเงิน เป็นข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนหาใช่เป็นการโอนด้วยคบคิดกันฉ้อฉลไม่
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจากผู้ทรงคนก่อนโจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900,904, 914 ประกอบมาตรา 989.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4082/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทประกันหนี้กู้ สิทธิเบิกจ่ายเมื่อครบกำหนด ไม่ใช่เช็คไม่มีมูลหนี้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยให้การรับว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์จริง โดยออกให้เพื่อประกันเงินกู้ตามสัญญากู้ซึ่งระบุว่า จำเลยได้มอบเช็คพิพาทซึ่งสั่งจ่ายเงินเท่ากับจำนวนเงินกู้และลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกับวันครบกำหนดชำระเงินกู้ให้โจทก์ไว้เป็นประกัน ข้อความในสัญญากู้ดังกล่าวแสดงว่าเมื่อถึงกำหนดชำระหนี้เงินกู้ หากจำเลยไม่ชำระโจทก์ก็มีสิทธินำเช็คพิพาทไปเบิกเงินจากธนาคารเพื่อชำระหนี้เงินกู้ได้ หาใช่เป็นกรณีเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ดังจำเลยต่อสู้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและคำให้การฟังได้แล้วว่า โจทก์มีสิทธินำเช็คพิพาทไปเบิกเงิน และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ คดีจึงพอวินิจฉัยได้แล้ว หามีความจำเป็นต้องสืบพยานใด ๆ ต่อไปอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4082/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คประกันหนี้: สิทธิในการเบิกเงินเช็คเมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ แม้เป็นเช็คเพื่อประกัน ก็มีผลผูกพันตามสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยให้การรับว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์จริง โดยออกให้เพื่อประกันเงินกู้ตามสัญญากู้ซึ่งระบุว่า จำเลยได้มอบเช็คพิพาทซึ่งสั่งจ่ายเงินเท่ากับจำนวนเงินกู้และลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกับวันครบกำหนดชำระเงินกู้ให้โจทก์ไว้เป็นประกัน ข้อความในสัญญากู้ดังกล่าวแสดงว่าเมื่อถึงกำหนดชำระหนี้เงินกู้ หากจำเลยไม่ชำระโจทก์ก็มีสิทธินำเช็คพิพาทไปเบิกเงินจากธนาคารเพื่อชำระหนี้เงินกู้ได้ หาใช่เป็นกรณีเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ดังจำเลยต่อสู้ไม่ เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและคำให้การฟังได้แล้วว่า โจทก์มีสิทธินำเช็คพิพาทไปเบิกเงิน และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ คดีจึงพอวินิจฉัยได้แล้ว หามีความจำเป็นต้องสืบพยานใด ๆ ต่อไปอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3996/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการเรียกร้องค่าเช็คในฐานะผู้รับอาวัล: เช็คสั่งจ่ายผู้ถือ สิทธิไล่เบี้ย 10 ปี
เจ้าหนี้สลักหลังเช็คพิพาทเป็นอาวัลผู้สั่งจ่าย เมื่อธนาคารตามเช็คพิพาทปฏิเสธการจ่ายเงิน เจ้าหนี้ในฐานะผู้รับอาวัลได้ใช้เงินตามเช็คให้แก่ผู้ทรง เจ้าหนี้ย่อมได้สิทธิในอันที่จะไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยบุคคลซึ่งตนได้ประกันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 940 ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3952/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คมีมูลหนี้จากการเล่นแชร์: การรับชำระหนี้โดยนายวงแชร์ทำให้ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรง
ข้อตกลงในการเล่นแชร์มีว่า เมื่อลูกวงแชร์คนใดประมูลได้จะต้องออกเช็คมอบให้ ส. นายวงแชร์เพื่อนำไปแลกเงินสดจากลูกวงแชร์ที่ยังมิได้ประมูลทุก ๆ คน แล้ว ส. จะนำมามอบให้ผู้ที่ประมูลได้ ถ้ายังได้เงินไม่ครบ ส. นายวงแชร์จะต้องรับผิดดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ส. ได้นำเช็คของจำเลยจาก อ. ลูกวงแชร์ผู้ประมูลได้ไปแลกเงินสดจากโจทก์มา 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้นำเงินมาให้ อ. เพราะยังรวบรวมเงินได้ไม่ครบทุกมือ ก็ถือได้ว่า อ. ได้รับเงินจากโจทก์แล้ว เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้เมื่อเช็คเบิกเงินไม่ได้ จำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง
of 39