พบผลลัพธ์ทั้งหมด 381 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ การฉ้อฉล และอำนาจฟ้อง
จำเลยกู้เงินจาก ส.สามีอ. และสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่ ส.โดยมอบให้อ. เป็นผู้รับไป ก่อนเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระ ส. ขอร้องให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่โดยบอกว่า อ.มิได้นำเช็คพิพาทไปมอบให้แก่ส. จำเลยจึงสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่แทนเช็คพิพาท และได้ชำระหนี้ตามเช็คฉบับใหม่แล้ว เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ปราศจากมูลหนี้เมื่อโจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจาก อ.โดยรู้ว่าเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยกับ ส. แล้วนำไปเข้าบัญชีที่ธนาคาร ซึ่งเท่ากับโจทก์กระทำโดยไม่สุจริต ถือได้ว่าโจทก์กับ อ. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ในการวินิจฉัยในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าการโอนเช็คพิพาทระหว่างโจทก์กับ อ. ได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยหรือไม่ ศาลจำต้องพิจารณาถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ.เมื่อพิจารณาจากทางนำสืบของจำเลยแล้วปรากฏว่า ต้นเหตุที่โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ.ก็เนื่องมาจากโจทก์กับอ.เป็นญาติกัน และโจทก์ประกอบวิชาชีพทนายความ อ. ซึ่งทราบเรื่องที่จำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนเช็คพิพาทแล้วไปปรึกษากับโจทก์เพื่อหาทางให้ได้รับเงินตามเช็คพิพาทโดยให้โจทก์รับสลักหลังเช็คนั้นแล้วนำมาฟ้องจำเลย เพราะหากให้ อ.ฟ้องเองจำเลยย่อมต่อสู้อ.โดยอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับ อ. ได้เช่นนี้ ตามรูปเรื่องถือได้ว่าอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลย่อมนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนเช็คที่ปราศจากมูลหนี้โดยเจตนาฉ้อฉล ทำให้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยกู้เงินจาก ส.สามีอ. จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่ ส.โดยมอบให้อ. เป็นผู้รับไปต่อมาก่อนเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระ ส. ขอร้องให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่โดยบอกว่า อ. มิได้นำเช็คที่ยังไม่ได้ขึ้นเงินที่ธนาคาร ไปมอบให้แก่ ส. จำเลยจึงสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่แทนเช็คพิพาท เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ปราศจากมูลหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจาก อ. โดยรู้ว่าเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยกับ ส.แล้วนำไปเข้าบัญชีที่ธนาคาร ซึ่งเท่ากับโจทก์กระทำโดยไม่สุจริต ถือได้ว่าโจทก์กับ อ. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย.
ในการวินิจฉัยในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าการโอนเช็คพิพาทระหว่างโจทก์กับ อ. ได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยหรือไม่ ศาลจำต้องพิจารณา ถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ. เมื่อพิจารณา จากทางนำสืบของจำเลยแล้วปรากฏว่า ต้นเหตุที่โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ.ก็เนื่องมาจากโจทก์กับอ.เป็นญาติ กัน และโจทก์ประกอบวิชาชีพทนายความ อ. ซึ่งทราบเรื่องที่จำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนเช็คพิพาทแล้วไปปรึกษากับโจทก์เพื่อหาทางให้ได้รับเงินตามเช็คพิพาทโดยให้โจทก์รับสลักหลังเช็คนั้นแล้วนำมาฟ้องจำเลย เพราะหากให้ อ.ฟ้องเองจำเลยย่อมต่อสู้อ. โดยอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับ อ. ได้ เช่นนี้ ตามรูปเรื่องถือได้ว่าอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลย่อมนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน.
ในการวินิจฉัยในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าการโอนเช็คพิพาทระหว่างโจทก์กับ อ. ได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยหรือไม่ ศาลจำต้องพิจารณา ถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ. เมื่อพิจารณา จากทางนำสืบของจำเลยแล้วปรากฏว่า ต้นเหตุที่โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ.ก็เนื่องมาจากโจทก์กับอ.เป็นญาติ กัน และโจทก์ประกอบวิชาชีพทนายความ อ. ซึ่งทราบเรื่องที่จำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนเช็คพิพาทแล้วไปปรึกษากับโจทก์เพื่อหาทางให้ได้รับเงินตามเช็คพิพาทโดยให้โจทก์รับสลักหลังเช็คนั้นแล้วนำมาฟ้องจำเลย เพราะหากให้ อ.ฟ้องเองจำเลยย่อมต่อสู้อ. โดยอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับ อ. ได้ เช่นนี้ ตามรูปเรื่องถือได้ว่าอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลย่อมนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การโอนเช็คขีดคร่อมและการต่อสู้เรื่องการฉ้อฉลของผู้รับโอน
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัท พ. หรือผู้ถือแม้จะมีการขีดคร่อม แต่มิได้ระบุห้ามโอน จึงโอนกันได้ด้วยการส่งมอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การโอนเช็คโดยมิได้คบคิดฉ้อฉล ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเช็ค
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัท พ. หรือผู้ถือแม้จะมีการขีดคร่อมแต่มิได้ระบุห้ามโอน จึงโอนกันได้ด้วยการส่งมอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การโอนเช็คขีดคร่อมที่มิได้ห้ามโอน
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัท พ. หรือผู้ถือแม้จะมีการขีดคร่อม แต่มิได้ระบุห้ามโอน จึงโอนกันได้ด้วยการส่งมอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ล่วงหน้า: สิทธิผู้ทรงเช็คและการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดย มิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ย. ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเมื่อเช็ค ถึง กำหนด การที่ ย. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือ จำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะ ผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้ สิทธิโดย ไม่สุจริตไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3870/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน: เช็คฉบับหลังใช้หนี้แทนเช็คฉบับแรกได้ หนี้เดิมระงับ
การที่จำเลยออกเช็คฉบับแรกให้โจทก์เพื่อชำระเงินกู้ยืมต่อมาจำเลยได้ออกเช็คฉบับที่สองและฉบับที่สามเพื่อชำระหนี้แทนเช็คฉบับแรกและฉบับที่สองซึ่งเรียกเก็บเงินไม่ได้ตามลำดับถือได้ว่า เป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ โดยการชำระหนี้ด้วยตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 321 หนี้เดิมตามเช็คฉบับแรกจะระงับก็ต่อเมื่อมีการใช้เงินตามเช็คฉบับที่สองหรือฉบับที่สามแล้ว จำเลยที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้ออกเช็ครับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 เมื่อหนี้ตามเช็คระงับไปแล้วแม้จำเลยที่ 3 แต่ผู้เดียวฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 1 และที่ 4 ด้วย เพราะเป็นคำพิพากษาเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คระบุชื่อเฉพาะผู้รับเงิน โอนสลักหลังมิชอบ ผู้โอนไม่มีอำนาจฟ้อง
เช็คพิพาทเป็นเช็คระบุชื่อ ด. เป็นผู้รับเงินและขีดฆ่าคำว่าผู้ถือออก กับขีดคร่อมและมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า ACPAYEEONLYซึ่งแปลว่า เฉพาะบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น จึงแสดงว่าเช็คพิพาทเปลี่ยนมือไม่ได้ดังนี้ นอกจาก ด. แล้ว บุคคลอื่นใดจะอ้างตนเป็นผู้ทรงโดยได้รับโอนเช็คดังกล่าวหาได้ไม่ แม้ ด. จะโอนเช็คให้แก่โจทก์โดยการสลักหลังและส่งมอบเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้รับเงินและไม่ถือว่าเป็นผู้ทรงตามกฎหมายโจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1965/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมการร่วมรับผิดชอบเช็ค: แม้พ้นตำแหน่งแล้ว ก็ยังมีความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี
กรรมการผู้จัดการหรือกรรมการนิติบุคคลเป็นผู้แสดงออกซึ่งการกระทำของนิติบุคคลหากร่วมกับนิติบุคคลออกเช็คหรือสลักหลังเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คต้องถือว่าเป็นตัวการกระทำผิดร่วมกับนิติบุคคลนั้นด้วย ทั้งนี้ไม่ว่ากรรมการจะอยู่ในตำแหน่งในวันที่เช็คนั้นถึงกำหนดหรือไม่ก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดเจน จึงต้องรับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์.
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์.