พบผลลัพธ์ทั้งหมด 381 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดเจน จึงต้องรับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์.
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในเช็ค: จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดเจน จึงถือว่ารับผิดต่อผู้ทรง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4341/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คการเล่นแชร์: หน้าที่ชำระหนี้ค่าแชร์ยังคงอยู่ แม้มีการตกลงหักหนี้ส่วนตัวกับนายวงแชร์
โจทก์และจำเลยเล่นแชร์วงเดียวกัน จำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนจำเลยจึงออกเช็คมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์มามอบให้จำเลยโจทก์มีหน้าที่ส่งมอบเงินค่าแชร์แก่นายวงแชร์ และนายวงแชร์มีหน้าที่นำเงินที่ได้รับจากโจทก์ไปมอบแก่จำเลยโดย นายวงแชร์มิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงหรือผู้รับเงินตามเช็คการที่โจทก์และนายวงแชร์ตกลงกันให้โจทก์หักเงินที่โจทก์จะต้องชำระค่าแชร์กับหนี้ที่นายวงแชร์เป็นลูกหนี้โจทก์ โดยนายวงแชร์รับจะชำระเงินค่าแชร์ส่วนของโจทก์แก่จำเลยเอง เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างโจทก์กับนายวงแชร์ ไม่มีผลทำให้โจทก์ไม่ต้องชำระเงินค่าแชร์แก่จำเลยตามประเพณีการเล่นแชร์ เมื่อจำเลยยังไม่ได้รับเงินค่าแชร์ส่วนที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์และมอบให้โจทก์ไว้แล้วจึงไม่มีมูลหนี้ต่อกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4341/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าแชร์และการสิทธิเรียกร้องตามเช็คที่เกี่ยวข้อง
โจทก์และจำเลยเล่นแชร์วงเดียวกัน จำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนจำเลยจึงออกเช็คมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์มามอบให้จำเลยโจทก์มีหน้าที่ส่งมอบเงินค่าแชร์แก่นายวงแชร์ และนายวงแชร์มีหน้าที่นำเงินที่ได้รับจากโจทก์ไปมอบแก่จำเลยโดยนายวงแชร์มิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงหรือผู้รับเงินตามเช็คการที่โจทก์และนายวงแชร์ตกลงกันให้โจทก์หักเงินที่โจทก์จะต้องชำระค่าแชร์กับหนี้ที่นายวงแชร์เป็นลูกหนี้โจทก์ โดยนายวงแชร์รับจะชำระเงินค่าแชร์ส่วนของโจทก์แก่จำเลยเอง เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างโจทก์กับนายวงแชร์ ไม่มีผลทำให้โจทก์ไม่ต้องชำระเงินค่าแชร์แก่จำเลยตามประเพณีการเล่นแชร์ เมื่อจำเลยยังไม่ได้รับเงินค่าแชร์ส่วนที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์และมอบให้โจทก์ไว้แล้วจึงไม่มีมูลหนี้ต่อกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4257/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินป่าสงวน: สัญญาซื้อขายการครอบครองระหว่างราษฎรไม่เป็นโมฆะ แม้ที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวน
แม้ตาม พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใด ยึด ถือครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ก็เป็นเพียงบทบัญญัติที่ใช้บังคับระหว่างรัฐกับราษฎร ซึ่งเป็นผลให้ราษฎรที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินไม่ได้สิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใด ๆ ใช้ยันรัฐได้ แต่ในระหว่างราษฎรด้วยกันสัญญาซื้อขายการครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติย่อมใช้บังคับกันได้เพราะมิใช่นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย คดีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็ค ไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 จึงนำ ป.วิ.อ.มาตรา 46 มาใช้บังคับหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3023/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้สั่งจ่ายลงชื่อใต้ช่องวันที่ ถือเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่เองภายหลังได้ ไม่ถือว่าเช็คไม่สมบูรณ์
เช็คพิพาทผู้สั่งจ่ายออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโดยผู้สั่งจ่ายได้ลงวันที่ในช่องวันที่ออกเช็คและลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันที่ออกเช็คดังนี้แม้ผู้สั่งจ่ายจะมิได้ลงเดือนและปีไว้ในช่องวันที่ออกเช็คก็ต้องถือว่าผู้สั่งจ่ายเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คเอาเองในภายหลังผู้ทรงเช็คย่อมลงวันที่ในเช็คเป็นวันไหนก็ได้ผู้สั่งจ่ายจะโต้แย้งว่าผู้ทรงเช็คกระทำการโดยไม่สุจริตและเช็คนั้นไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหาได้ไม่
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กันเมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989ประกอบมาตรา 967
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็คห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กันเมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989ประกอบมาตรา 967
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็คห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3023/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ไม่ครบถ้วน ผู้สั่งจ่ายยินยอมให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่เองได้ ไม่ถือว่าเช็คไม่สมบูรณ์ ฟ้องได้ภายในอายุความ
เช็คพิพาทผู้สั่งจ่ายออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโดยผู้สั่งจ่ายได้ลงวันที่ในช่องวันที่ออกเช็คและลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันที่ออกเช็ค ดังนี้แม้ผู้สั่งจ่ายจะมิได้ลงเดือนและปีไว้ในช่องวันที่ออกเช็คก็ต้องถือว่า ผู้สั่งจ่ายเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คเอาเองในภายหลังผู้ทรงเช็คย่อมลงวันที่ในเช็คเป็นวันไหนก็ได้ผู้สั่งจ่ายจะโต้แย้งว่า ผู้ทรงเช็คกระทำการโดยไม่สุจริตและเช็คนั้นไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหาได้ไม่
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กัน เมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 ประกอบมาตรา 967
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็ค ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กัน เมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 ประกอบมาตรา 967
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็ค ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3023/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การลงวันที่เช็คไม่สมบูรณ์ ผู้สั่งจ่ายยินยอมให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่เองได้
เช็คพิพาทผู้สั่งจ่ายออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโดยผู้สั่งจ่ายได้ลงวันที่ในช่องวันที่ออกเช็คและลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันที่ออกเช็คดังนี้แม้ผู้สั่งจ่ายจะมิได้ลงเดือนและปีไว้ในช่องวันที่ออกเช็คก็ต้องถือว่าผู้สั่งจ่ายเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คเอาเองในภายหลังผู้ทรงเช็คย่อมลงวันที่ในเช็คเป็นวันไหนก็ได้ผู้สั่งจ่ายจะโต้แย้งว่าผู้ทรงเช็คกระทำการโดยไม่สุจริตและเช็คนั้นไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหาได้ไม่ เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กันเมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา989ประกอบมาตรา967 อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็คห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา1ปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1002.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการรับผิดตามเช็ค: การที่จำเลยให้คำรับรองรอฟังคำสั่งถือว่าทราบคำสั่งศาล แม้ไม่มีลายมือชื่อในบัญชีนัด
หลังจากจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแล้ว จำเลยไม่ได้อยู่รอฟังคำสั่งแต่ได้ให้คำรับรองไว้ว่า ตนรอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอก็ให้ถือว่าทราบแล้วศาลชั้นต้นได้เกษียนสั่งในคำให้การของจำเลยในวันเดียวกันนั้นเองให้รับคำให้การจำเลยสำเนาให้โจทก์นัดพร้อมตัวความและสืบพยานโจทก์ฯลฯแม้เจ้าหน้าที่ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์โดยไม่มีลายมือชื่อฝ่ายจำเลยทราบวันสืบพยานโจทก์ในบัญชีนัดพิจารณาคดีของศาลก็ตามแต่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ศาลที่กำหนดวันสืบพยานโจทก์นั้นถือว่าได้กระทำหรือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลหรือตามคำสั่งศาลคดีจึงถือว่าจำเลยทราบคำสั่งศาลในวันที่จำเลยยื่นคำให้การที่จำเลยอ้างว่าป่วยไม่ได้มาศาลก่อนที่จำเลยทราบก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่จำเลยทราบคำสั่งแล้ว และถือว่าจำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์เป็นการจงใจขาดนัดพิจารณา
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไรคำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็คหรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลยไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้นคดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริตจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นแม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไรคำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็คหรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลยไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้นคดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริตจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นแม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการรับผิดตามเช็ค: การที่จำเลยให้คำรับรองว่ารอฟังคำสั่งศาลถือว่าทราบคำสั่งแล้ว
หลังจากจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแล้ว จำเลยไม่ได้อยู่รอฟังคำสั่งแต่ได้ให้คำรับรองไว้ว่า ตนรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอก็ให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลชั้นต้นได้เกษียนสั่งในคำให้การของจำเลยในวันเดียวกันนั้นเองให้รับคำให้การจำเลยสำเนาให้โจทก์นัดพร้อมตัวความและสืบพยานโจทก์ ฯลฯ แม้เจ้าหน้าที่ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์โดยไม่มีลายมือชื่อฝ่ายจำเลยทราบวันสืบพยานโจทก์ในบัญชีนัดพิจารณาคดีของศาลก็ตาม แต่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ศาลที่กำหนดวันสืบพยานโจทก์นั้น ถือว่าได้กระทำหรือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลหรือตามคำสั่งศาล คดีจึงถือว่าจำเลยทราบคำสั่งศาลในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ที่จำเลยอ้างว่าป่วยไม่ได้มาศาลก่อนที่จำเลยทราบก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่จำเลยทราบคำสั่งแล้ว และถือว่าจำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์เป็นการจงใจขาดนัดพิจารณา
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็ค หรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลย ไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริต จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น แม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็ค หรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลย ไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริต จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น แม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้